ต้านโพแทชอุดรฯค้านเลือกตัวแทนผู้มีส่วนได้เสีย

กลุ่มต้านโพแทชอุดรฯค้านเลือกตัวแทนผู้มีส่วนได้เสียเชื่อคัดเอาคนมีเส้น ย้ำยังหากเดินหน้าเคลื่อนไหวแน่
วันนี้ (21 ก.ค.) ที่ศาลาการเปรียญวัดอรุณธรรมรังษี บ.โนนสมบูรณ์ ต.ห้วยสามพาด อ.ประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี นำโดยนางมณี บุญรอด ประธานฯ และนายเดชา คำเบ้าเมือง เลขาฯ จัดเวทีชี้แจงสาเหตุการคัดค้าน "เหมืองโพแทชอุดรธานี" โดย นายสมภพ ร่วมญาติ นายอำเภอประจักษ์ศิลปาคม, พ.ต.อ.โชคชัย อินทะนิน ผกก.สภ.ประจักษ์ศิลปาคม, นายประจักษ์ อุดชาชน นายก อบต.ห้วยสามพาด, กำนัน-ผญบ.บางหมู่บ้าน 2 ตำบลในพื้นที่สัมปทาน เขต อ.ประจักษ์ศิลปาคม และมีชาวบ้านกว่า 200 คนเข้าร่วม
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา มีการจัดเวทีปรองดองสมานฉันท์ ที่ มรภ.อุดรธานี โดยหยิบยกเรื่อง"เหมืองโพแทช" ไปพูดคุย ถือเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อนายทุน และเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคมนี้ มีการประชุมที่ศาลากลาง จ.อุดรธานี เตรียมการคัดเลือกตัวแทนผู้มีส่วนได้เสียของโครงการ และขณะนี้ สนง.อุตสาหกรรม จ.อุดรธานี ได้ขอรายชื่อประชาชนจากฝ่ายปกครอง เพื่อเข้ากระบวนการการคัดเลือก ทำให้วันนี้ "กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี" เชิญผู้นำในพื้นที่มารับทราบว่าทำไมจึงคัดค้านเหมืองโพแทช
ในเวทีชี้แจงดังกล่าว ได้พูดถึงการบิดเบือนข้อเท็จจริง ในรายงานการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ อีไอเอ. ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง พร้อมเสนอปัญหาผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น อาทิ ปัญหาการทรุดตัวของแผ่นดิน, ปัญหาการปนเปื้อนของสารเคมีลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ และปัญหามลพิษทางอากาศ นอกจากนี้ยังระบุว่าขณะนี้กำลังมีความพยายาม จะคัดเลือกคนของตนเอง เป็นตัวแทนผู้มีส่วนได้เสียหมู่บ้านละ 2 คน
นางมณี บุญรอด แกนนำกลุ่มฯ เปิดเผยว่า เวทีนี้เป็นเวทีชาวบ้านที่คัดค้าน "เหมืองโพแทช" จัดขึ้น เพื่ออธิบายให้หัวหน้าส่วนราชการ และผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่ ได้รับรู้เหตุผลตลอด 16 ปีที่ผ่านมา ว่าทำไมเราจึงมีจุดยืนแบบนี้ โดยการประชุมวันนี้ยังมีมติ คัดค้านกระบวนการคัดเลือก ตัวแทนผู้มีส่วนได้เสียหมู่บ้านละ 2 คน ในพื้นที่ 2 ตำบลใน อ.ประจักษ์ศิลปาคม โดยรออยู่ว่าจะมีการติดประกาศเมื่อไหร่ ก็จะเคลื่อนไหวแสดงเจตนาคัดค้าน ในส่วนพื้นที่ของ อ.เมือง จ.อุดรธานี ก็มีกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับโครงการ ไม่รู้ว่าจะออกมาคัดค้านด้วยหรือไม่
ขณะนายอำเภอประจักษ์ฯ แสดงความคิดเห็นว่า การเคลื่อนไหวคัดค้านไม่รุนแรง เป็นหนทางที่น่าจะยึดต่อไป นายอำเภอไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใด แต่ทำตามคำสั่งเท่าที่สามารถทำได้







