ยุทธการฟ้าสางที่วังน้อย จับค้ายารายใหญ่

เวลา 12.30 น. วันที่ 15 กันยายน พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.คเชนทร์ คชพลายุกต์ รองผบช.ภ.1พล.ต.ต.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร์ รองผบช.ภ.1 พล.ต.ต.เมธี กุศลสร้าง รองผบช.ภ.1 และ ผบก.ในสังกัด บช.ภ.1 ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติการ Task Force ชื่อยุทธการฟ้าสางที่วังน้อย สามารถบุกจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ภาคกลาง พร้อมทั้งผู้ต้องหาก่อคดีอาญาน้อยใหญ่ในพื้นที่ 9 จังหวัดในความรับผิดชอบของ ภ.1 และยึดอาวุธปืนสั้น ปืนยาว ขนาดต่างๆ รวมถึงปืนอัดลม ทั้งหมดจำนวน 169 กระบอก เครื่องกระสุนกว่า 600 นัด

พล.ต.ท.นเรศ เปิดเผยว่า ทางตำรวจภูธรภาค 1 ได้มีนโยบายกวาดล้างยาเสพติด และอาชญากรรม จึงได้จัดปฏิบัติการ Task Force ขึ้นมา เนื่องจากทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้กำหนดให้ ภ.1 กำหนดพื้นที่ปฏิบัติการเครือข่ายกลุ่มยาเสพติดระดับสำคัญมาก ซึ่งได้ปฏิบัติการไปแล้วที่ จ.ลพบุรี และในวันนี้(15 ก.ย.)ได้ปฏิบัติการอีกภายใต้ชื่อ ยุทธการฟ้าสางที่วังน้อย โดยตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ดำเนินการสืบสวนจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติด ซึ่งใช้อาวุธปืนอาก้ายิงถล่มกัน เป็นการทวงค่ายาเสพติด มีความเชื่อมโยงเครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่ในเรือจำคลองไผ่ จ.นครราชสีมา และยังมีความเชื่อมโยงเครือข่ายในอีกหลายจังหวัด ทั้ง กทม. ตาก สุพรรณบุรี ศรีษะเกษ ลพบุรี สระบุรี ปทุมธานี และพระนครศรีอยุธยา เป็นองค์กรยาเสพติดขนาดใหญ่ ที่มีการแบ่งแยกหน้าที่ตัดตอนพยานหลักฐาน และยังมีการช่วยเหลือสนับสนุนผู้กระทำผิดกรณีถูกดำเนินคดีด้วย

พล.ต.ท.นเรศ กล่าวอีกว่า การปฏิบัติการ Task Force ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่2 ในชื่อยุทธการฟ้าสางที่วังน้อย ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา มีการประสานงานการทำงานหลายหน่วยงาน ประกอบด้วยตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา บก.สส.ภ.1 เจ้าหน้าที่ ปปส.ภาค 1 และชุดปราบไพรีอริศัตรูพ่าย ภ.1โดยได้รับการสนับสนุนเฮริคอปเตอร์ จากกองบินตำรวจ 2 ลำ อากาศยานไร้คนขับอีก 4 ลำ เพื่อใช้ในการปฏิบัติภารกิจ ทำการชี้เป้าหมาย และคุ้มกันชุดปฏิบัติการที่เข้าปิดล้อมตรวจค้น จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาชายหญิงเครือข่ายค้ายาเสพติดได้ 22 คน ส่วนอีกคนเป็นนักโทษอยู่ในเรือนจำคลองไผ่ ยึดยาบ้าได้ 168,000 เม็ด ยาไอซ์ 940 กรัม แท่นปั๊มยาบ้า 1 แท่น อาวุธปืนทั้งแบบพกสั้น เป็นลูกซองยาว และปืนไรเฟิล รวมจำนวน 15 กระบอก กระสุนปืนขนาดต่างๆรวม 513 นัด เงินสด 9,000 บาท สมุดบัญชีธนาคาร 41 เล่ม มียอดเงินรวมกว่า 10 ล้านบาท พล.ต.ท.นเรศ กล่าวด้วยว่า เครือข่ายนี้เป็นเครือข่ายใหญ่ เป็นไปได้ว่าเป็นเครือข่ายใหญ่ที่สุดในภาคกลาง เกี่ยวโยงกับเครือข่ายในเรือนจำคลองไผ่ ซึ่งเจ้าหน้าที่เฝ้าสืบสวนเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน แกะรอยเฝ้าดูอยู่ไม่ต่ำกว่า 3 เดือน