ปวดหลังในผู้สูงวัย..ภัยร้ายใกล้ตัว (Advertorial)

ปวดหลังในผู้สูงวัย..ภัยร้ายใกล้ตัว (Advertorial)

อาการปวดหลัง มีโอกาสเกิดกับทุกคน โดยเฉพาะในผู้สูงวัย เพราะส่วนใหญ่เป็นการเสื่อมไปตามวัยของกระดูกสันหลังและข้อต่อ จึงมักเห็นผู้ป่วยหลังคด

ศาสตราจารย์เกียรติคุณนายแพทย์เจริญ โชติกวณิชย์ ผู้อำนวยการศูนย์กระดูกสันหลังและข้อ และประธานที่ปรึกษา ศูนย์รักษา Failed Back โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ ให้ความรู้ว่า โรคในผู้สูงวัยที่พบบ่อยขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากกระดูกข้อต่อและกระดูกสันหลังเกิดความเสื่อมไปตามวัย ซึ่งนับวันคนไทยจะมีอายุที่ยืนยาวขึ้น โดยปัจจุบันคนที่มีอายุมากกว่า 60 ปี คิดเป็น 9-10%ของประชากร หรือประมาณ 6-7 ล้านคน ต้องมีการเสื่อมของกระดูกสันหลังเกิดขึ้น อาจมีอาการบิดเบี้ยวของกระดูกสันหลัง โก่ง คด งอ เลื่อนไปด้านหน้า ด้านข้าง หรือบริเวณบั้นเอว

สำหรับสาเหตุของอาการของปวดหลังในผู้สูงวัย มีหลายอย่างด้วยกัน แต่ส่วนใหญ่จะเกิดจากการเสื่อมของข้อต่อของกระดูกสันหลัง ตั้งแต่หมอนรองกระดูกเสื่อม กระดูกหลวม มีการจับตัวของเอ็นที่หนาขึ้นไปทับเส้นประสาทสันหลังหรือข้อต่อเล็กๆ การที่กระดูกสันหลังเสื่อมและโตขึ้นไปเบียดเสียดเส้นประสาทที่จะควบคุมลงมาที่ขาเป็นส่วนใหญ่ จึงทำให้มีอาการปวดร้าวลงขาและมีอาการชาร่วมด้วย ทำให้ผู้ป่วยทุกข์ทรมาน และมีอุปสรรคในการใช้ชีวิตประจำวัน

นอกจากนั้น ยังเกิดได้จากการได้รับอุบัติเหตุ ช่องไขสันหลังตีบ หรืออาจรุนแรงจากการเกิดเนื้องอก มะเร็งภายในกระดูกสันหลัง โดยอาการปวดหลังในผู้สูงอายุ มักพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย โดยเฉพาะเกิดจากภาวะกระดูกเสื่อมบาง พรุน ซึ่งจะมีอาการปวดหลังรุนแรงหากกระดูกหักแล้วไม่ยึดติด

"อาการจะปวดหลัง มี 3 แบบ ตั้งแต่ปวดเฉยๆ ปวดหลังร้าวลงขา และปวดหลังร่วมกับขาอ่อนแรงจนขาเป็นอัมพาต หรือปวดอย่างรุนแรงกรณีเป็นมะเร็งกระดูก ซึ่หากมะเร็งกระจายไปกดทับไขสันหลัง ก็จะทำให้เกิดอัมพาตได้เช่นกัน"

ในการวินิจฉัยอาการปวดหลังของแพทย์ จะเริ่มตั้งแต่การซักประวัติ ตรวจร่างกาย แต่ถ้าหากคนไข้แข็งแรงดีไม่มีไข้ ปวดหลังอย่างเดียว แพทย์จะดูโครงสร้างว่ามีความผิดปกติหรือไม่ เช่น ถ้ามีหลังคดโก่ง แต่ไม่มีไข้ น่าจะบอกได้ว่าเป็นเพราะการเสื่อมของกระดูกสันหลัง แต่ถ้าหากมีการกดเจ็บตรงตำแหน่งที่โก่ง ต้องนึกถึงกระดูกสันหลังมีการติดเชื้อ หรืออาจเป็นมะเร็งของกระดูกสันหลัง ซึ่งจะมีอาการปวดตลอดเวลาไม่ว่าอยู่ในท่าไหน

นอกจากนั้น แพทย์วินิจฉัยด้วยการเอ็กซเรย์ เพื่อดูว่ามีการทำลายกระดูกจากการติดเชื้อหรือมะเร็งหรือไม่ ด้วยการตรวจ MRI ซึ่งสามารถบอกรายละเอียดของพยาธิสภาพของกระดูกส่วนนั้นๆได้ เช่น หมอนกระดูกสันหลังเสื่อม ข้อต่อเสื่อม การติดเชื้อ เช่น มะเร็ง จะวินิจฉัยได้จากการตรวจคอมพิวเตอร์นี้

สำหรับแนวทางการรักษาโรคปวดหลัง ส่วนใหญ่แล้วในช่วงแรกมักจะใช้ยาลดการอักเสบ ร่วมกับการทำกายภาพบำบัด การลดการใช้งานหลัง หากอาการปวดหลังทวีความรุนแรงขึ้น อาจต้องได้รับการฉีดยาลดการอักเสบที่ช่องไขสันหลัง และระวังตัวเมื่อต้องเคลื่อนไหว เช่น ไม่ควรก้มยกของหนัก ระวังไม่ให้หกล้ม เพราะจะทำให้กระดูกหักยุบได้ แต่หากผล MRI ส่อว่า กระดูกสันหลังเคลื่อนไปกดทับเส้นประสาท ก็จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัด เอาส่วนที่กดทับออก และยึดตรึงด้วยสกรูเพื่อให้กระดูกสันหลังเกิดความมั่นคงแข็งแรง นอกจากนั้น ในกรณีที่เป็นเนื้องอก หรือมะเร็งกระดูกสันหลัง อาจต้องใช้วิธีการยึดกระดูกด้วยสกรู ร่วมด้วยการฉายแสง ตามวิธีการรักษามะเร็งทั่วๆไป

"วิธีที่ดีที่สุดเพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานให้กับกระดูกสันหลัง คือ การดูแลสุขภาพให้ดี ด้วยการทานอาหารให้ครบหมู่ มีสุขลักษณะในการขับถ่าย การออกกำลังกายเป็นส่วนที่สำคัญ เช่น เดินบริหาร่างกาย เล่นโยคะ นั่งสมาธิ ดูแลตัวเองอย่าให้เกิดการบาดเจ็บ หรือ หกล้ม รวมทั้งการตรวจเช็คร่างกายสม่ำเสมอ"

แม้อาการปวดหลังในผู้สูงวัย จะหลีกเลี่ยงได้ยาก แต่เราก็สามารถดูแลและป้องกันตัวเอง ไม่ให้กระดูกเสื่อมเร็วเกินไปได้ เพื่อช่วยให้คุณภาพชีวิตของผู้สูงวัยดีขึ้น และไม่เป็นภาระแก่ลูกหลาน