รักต่างวัย ของ ปอ ศีกัญญา

แต่ไม่ใช่อุปสรรคสำหรับรักต่างวัยของ ปอ- ศีกัญญา ศักดิเดช ภาณุพันธ์ ทายาทเจ้าของโรงแรมเรเนซองส์ ราชดำริและตัวแทนจำหน่ายกระเป๋าคลิปลิ้ง และกอล์ฟ -ณชนก รัตนทารส ทายาทโรงเรียนอำนวยศิลป์ เจ้าของร้านอาหารฟาลาเบล่า ,กัลปพฤกษ์ ที่เพิ่งเข้าพิธีวิวาห์กันเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

จากประสบการณ์ความรักต่างวัย ในมุมมองของปอ- ศีกัญญา ศักดิเดช ภาณุพันธ์ วัย 32 ปีกับหนุ่มใหญ่ วัย 48 ปี มองว่า ความรักไม่ใช่เรื่องของคนสองคน เธอเองให้ความสำคัญกับความรัก แต่ไม่ใช่แค่รักคนนั้นแล้วคนนั้นรักเธอ แต่เขาต้องเข้ากับครอบครัวเธอได้ด้วย ซึ่งกอล์ฟ -ณชนก สามารถเข้ากับทุกคนในครอบครัวเธอได้ดี ขณะเดียวกันเธอเชื่อว่า สามีเธอก็คงต้องดูเหมือนกันว่า เธอสามารถเข้ากับลูกๆ ของเขาได้หรือไม่ หลังคบหาดูใจกันมา เกือบ 4 ปี เวลา ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ครอบครัวเขากับครอบครัวเธอเข้ากันได้

“ปอว่าเป็นเรื่องสำคัญ สมมติว่า ปอเลี้ยงสุนัขแล้วแฟนแพ้ หรือเกลียดสุนัขมาก ในที่สุดก็อยู่กันไม่ได้ดังนั้นเวลาที่คบกันต้องใช้สติ ไม่ใช่คบกันไม่กี่เดือนแล้วบอกว่าคนนี้ใช่ พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายคงสยอง”

เธอ ยอมรับว่า ช่วงที่คบกับสามีแรกๆ จะมีคนตั้งคำถามเต็มไปหมด ว่าจะไหวหรือ ประเด็นคำถามจะน้อยกว่านี้ ถ้าเขาไม่เคยแต่งงานมาก่อน ไม่มีลูก ไม่ใช่ประเด็นแค่อายุ ซึ่งเธอก็รับฟัง และคบอย่างมีสติ

“เพราะคนที่ตั้งคำถามมาเป็นคนที่รักและเป็นห่วงเราทั้งคู่ ทุกอย่างมาจากความรักที่เขามีให้เราไม่งั้นคงไม่เตือนแต่ปอไม่คิดว่า เป็นการบั่นทอนจิตใจ แต่มองว่าเป็นการเตือนสติมากกว่าค่ะ”

สิ่งสำคัญที่ปอ- ศีกัญญา ได้ค้นพบก็คือ ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตเป็นเรื่องสำคัญ เพราะในที่สุดความรักที่หวือหวาจะจืดจางลง ฉะนั้นถ้าไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตแตกต่างกันมากเป็นเรื่องยากที่อยู่ด้วยกัน ฉะนั้นต้องดูที่ไลฟ์สไตล์ว่าเขาชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ถ้าคนหนึ่งชอบรับประทานเนื้อมาก แต่อีกคนเป็นมังสวิรัติ ตอนเป็นแฟนแรกก็คงได้ เพราะทุกอย่างสวยงาม แต่นานเข้าคงอยู่กันลำบาก ถ้าชอบอะไรต่างกันในทุกเรื่อง

“ของปอไม่ได้เหมือนกันทุกอย่างค่ะ เช่น คุณกอล์ฟเป็นคนแอคทีฟมาก แต่ปอชอบอยู่บ้าน แต่จะว่าไปมีอะไรที่ไม่เหมือนกันบ้างก็ดี แต่ถ้าไม่เหมือนกันในทุกๆเรื่องก็อยู่กันไม่ได้ ฉะนั้นในความรู้สึกปอ การที่กอล์ฟเป็นคนแอคทีฟมาก เวลาเขาไปเล่นกีฬาไปโน่นไปนี่ เขาจะได้มีเวลาส่วนตัวบ้าง”

ต่างวัยแต่ใจตรงกัน

ในมุมมองของเธอ คนที่จะอยู่ด้วยได้ควรมีไลฟ์สไตล์ไปกันได้ อาจจะมีบางอย่างที่ ไม่เหมือนกันบ้าง แต่ต้องไม่มาก แต่สิ่งที่ต้องทำก็คือปรับตัวเข้าหากันเพื่ออยู่ร่วมกัน ยกตัวอย่างเช่น สามีเป็นคนรับประทานอาหารตรงเวลา แต่เธอไม่ ตรงนี้ เธอก็ต้องปรับตัวเพราะต้องใช้ชีวิตร่วมกัน รับประทานอาหารกลางวัน อาหารเย็นพร้อมกัน

“ฟังดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่มันเยอะนะ คิดดู 365วันที่เราต้องรับประทานข้าวด้วยกันคูณไปสองมื้อหลักๆ หรือเรื่องการนอน เป็นเรื่องเกิดขึ้นทุกวัน ปอเป็นคนนอนดึกมาก คุณกอล์ฟทำงานตรงเวลา ถ้าเขานอนดึกตามเราเขาทำงานไม่ไหวอันนี้ก้ต้องปรับหรือปอต้องเล่นกีฬามากขึ้น เพราะทุกปีคุณกอล์ฟมีทริปไปสกีกับลูกๆปีละ2หน ถ้าปอไม่ไปเลย มัน20 วันในหนึ่งปี คงไม่ได้”

ส่วนเรื่องวัยที่ต่างกันนั้น ในมุมมองของเธอ กลับมองว่า เป็นเรื่องที่ดี เพราะ ถ้าอายุเท่ากัน เวลาทะเลาะกันมันไม่มีจุดจบ ต่างคนต่างไม่ยอมกัน แต่พออายุห่างกัน เวลาทะเลาะกันไม่แรงเท่ากับคนอายุเท่ากัน เพราะปอยังเรียกคุณกอล์ฟว่าน้าอยู่เหมือนเตือนสติเราว่าเขาแก่กว่า ทำให้รู้สึกว่า ทะเลาะคนแก่จะบาปไหม (หัวเราะ)หรือตัวคุณกอล์ฟ เขาก็คงคิดเหมือนกันว่า กำลังทะเลาะกับเด็กอยู่จะอะไรกันมากมาย ทำให้แทนที่จะแตกหักกันก็สามารถอยู่กันได้เพราะด้วยอายุที่ต่างกัน

“ความคิดที่ต่างกัน จะทำให้ได้มุมมองหลากหลาย เห็นอะไรที่กว้างขึ้น เหมือนบวกกันหารสองได้ไอเดียใหม่ ๆ และหัวใจสำคัญของการใช้ชีวิตคู่คือการให้เกียรติซึ่งกันและกัน เคารพความเป็นตัวตนของกัน
และกัน เพราะในที่สุดแล้ว สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่อยู่ยั่งยืนกว่าความรักที่หวือหวาที่หายไปกับกาลเวลา”

นี่คือมุมมองของรักต่างวัยที่ห่างกัน16 ปีของหญิงสาววัย 32 ปี

ใครว่าเรื่องของวัย เป็นอุปสรรคต่อความรัก ...ลองเปลี่ยนมุมมองใหม่ดู จะได้เห็น อีกแง่มุมของความรัก