"อนุทิน"บอกไม่ต้องออกประกาศเพิ่มเติม “ควบคุมช่อดอกัญชา” รอพ.ร.บ.กัญชาฯ

"อนุทิน"บอกไม่ต้องออกประกาศเพิ่มเติม “ควบคุมช่อดอกัญชา” รอพ.ร.บ.กัญชาฯ

“อนุทิน”ระบุกว่า 2 เดือนปลดล็อคกัญชา ผู้ป่วยที่มีภาวะพิษเฉียบพลันเข้ารักษาห้องฉุกเฉินทั่วประเทศ 60 ราย  คาดตลาดกัญชาทางการแพทย์ในไทย โตได้ถึง 40,000 ล้านบาท ย้ำไม่ต้องออกประกาศเพิ่มเติม “ควบคุมช่อดอกัญชา” รอพ.ร.บ.กัญชาฯอย่างเดียว

    เมื่อวันที่ 17 ส.ค.2565 ที่โรงแรมมิราเคิล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(รมว.สธ.) กล่าวในพิธีเปิดงาน “Meet the Press: กัญชา กัญชง เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และเศรษฐกิจ” จัดโดยกรมประชาสัมพันธ์ ว่า กว่า 2 เดือน หลังการปลดล็อคกัญชาจากยาเสพติด  ซึ่งในเฟสแรก คือการใช้กัญชาทางการแพทย์สร้างสุขภาพ และเฟสที่สอง คือการส่งเสริมพืชกัญชงกัญชาในฐานะพืชเศรษฐกิจ โดยกัญชาเสรีเพื่อสุขภาพและการแพทย์ จนถึงตอนนี้ ไม่ได้ก่อให้เกิดผลกระทบด้านลบต่อสังคม อย่างที่หลายฝ่ายกังวลกัน ตรงกันข้าม ภายหลังการปลดล็อคซึ่งมีผลเมื่อ 9 มิ.ย.2565  รายงานข้อมูลจากกรมการแพทย์ มีตัวเลขชี้ว่าจำนวน ผู้ป่วยที่มีภาวะพิษเฉียบพลัน จากการใช้ผลิตภัณฑ์กัญชามีแนวโน้มลดลง

     จากการบันทึก ณ ห้องฉุกเฉินระหว่าง วันที่ 6 มิ.ย. -16 ส.ค.2565 สะสมรวมทั้งประเทศมี 60 คน และมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ สาเหตุเพราะประชาชนมีความรู้ความเข้าใจการใช้ประโยชน์จากกัญชาเพิ่มขึ้น และตามสถิติที่ผ่านมาก่อนการปลดล็อคกัญชาจากยาเสพติด สิ่งที่ทำร้ายสุขภาพคนไทยไม่ใช่กัญชา แต่เป็นยาบ้า โดยในปีที่แล้ว ผู้ป่วยที่ต้องบำบัดรักษายาเสพติดจากยาบ้ามีถึง 79.2% ขณะที่ผู้เสพกัญชาจนต้องบำบัดมี 4.21% และยังจะลดลงได้เรื่อยๆ เมื่อมีการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง

     สำหรับกัญชาในฐานะพืชเศรษฐกิจ ได้มีการประเมินมูลค่าตลาดของอุตสาหกรรมกัญชา โดยจากการประมาณการณ์พื้นที่เพาะปลูกกัญชง-กัญชา ล่าสุด ณ เดือนเม.ย. 2565 ประเทศไทย มีพื้นที่เพาะปลูกกว่า 7,500 ไร่ มีมูลค่าตลาดของอุตสาหกรรม ตั้งแต่ต้นน้ำ ถึงผลิตภัณฑ์ปลายน้ำ รวมกว่า 28,000 ล้านบาท โดยมีการคาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดในช่วง 3 ปีข้างหน้า จะโตได้ 10-15% มีมูลค่าสูงถึง 42,800 ล้าน  โดยผลิตภัณฑ์ปลายน้ำ จะเติบโตเร็วกว่าปัจจุบัน

ขณะเดียวกัน ตลาดกัญชาทางการแพทย์ในประเทศไทย ก็มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง คือประมาณ 26% ต่อปี มีมูลค่าประมาณ 2,700 ล้านบาท และคาดว่าจะโตได้ถึง 40,000 ล้านบาท ภายในปี 2570

       ผู้สื่อข่าวถามถึงความคืบหน้าการออกประกาศสมุนไพรควบคุมเฉพาะช่อดอกกัญชา  นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องช่อดอกต้องได้รับอนุญาตถึงเอาไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ได้ การใช้ช่อดอกปรุงอาหาร ขายอาหาร ใช้ที่สาธารณะทำไม่ได้ ทำไม่ได้แต่ไหนแต่ไร ใช้ใบ ราก ลำต้นได้ กรมอนามัยได้ออกประกาศเป็นแนวทางให้ประชาชนผู้ประกอบการทราบว่าอะไรทำได้ไม่ได้

ถามต่อว่าประกาศช่อดอกเป็นสมุนไพรควบคุมต้องออกประกาศเพิ่มเติมหรือไม่  นายอนุทิน กล่าวว่า คิดว่าคงไม่ต้องออกประกาศเพิ่มเติม เพราะกฎหมายวันศุกร์นี้ก็เสร็จแล้ว เสนอต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา สิ่งที่ประกาศถึงทุกวันนี้โดย 2 กรมมีความสอดคล้องกับสารัตถะต่างๆ ในกฎหมาย ไม่มีอะไรที่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ บังคับใช้ได้ แต่ไม่มีอะไรดีถ้าได้รับความร่วมมือจากประชาชน

        ถามย้ำว่าแสดงว่าไม่จำเป็นต้องออกประกาศช่อดอกกัญชาเป็นสมุนไพรควบคุมใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ใช่บอกว่าไม่จำเป็น ตรงนี้เป็นอำนาจ รมว.สธ. ซึ่งตนต้องประเมินว่า ถ้าประกาศออกมาแล้วเกิดการตีความให้วุ่นวาย ตอนไม่มีบอกทำไม่มี พอออกมาแล้วบอกทำไมเพิ่งออก พอออกมาแล้วออกเพิ่มอีกก็บอกทำไมม่รอบคอบ เราก็ต้องดูว่าเอาที่ใช้ได้ควบคุมได้ ก็บอกแล้วว่าตั้งแต่ปลดล็อก 2 เดือนกว่าไม่มีเหตุบ่งชี้ว่าใช้ในทางที่ผิดมากขึ้น แต่แนวโน้มลดลงด้วย เพราะคนเข้าใจเข้าถึงข่าวมากขึ้น แต่ตรงนี้เราต้องดูภาพรวมระยะเวลาในการติดตามข้อมูล