ท่าอากาศยานหาดใหญ่ เตรียมพร้อมรับมือป้องกันโรคฝีดาษลิง

ท่าอากาศยานหาดใหญ่ เตรียมพร้อมรับมือและป้องกันเฝ้าระวังโรคฝีดาษลิง โดยใช้มาตรการเดียวกับการตรวจคัดกรองโควิด-19

เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 65 ตามที่มีการระบาดของโรคฝีดาษลิงเกิดขึ้นในหลายประเทศ และพบผู้ติดเชื้อโรคฝีดาษลิงในประเทศไทย จำนวน 4 ราย ท่าอากาศยานหาดใหญ่ ในฐานะที่เป็นหนึ่งในช่องทางเข้า-ออกของประเทศ ในแต่ละวัน มีผู้มาใช้บริการเดินทางทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศจำนวนมาก

ท่าอากาศยานหาดใหญ่ จึงได้มีมาตรการเฝ้าระวัง โดยใช้มาตรการเดียวกันกับมาตรการคัดกรองโรคโควิด-19 ที่สามารถป้องกันโรคฝีดาษลิงได้เช่นกัน เพราะโรคฝีดาษลิงจะติดได้จากสารคัดหลั่ง การเว้นระยะห่างกัน 1-2 เมตร / ล้างมือบ่อยๆด้วยสบู่และเจลแอลกอฮอล์ /หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ที่มีประวัติมาจากพื้นที่เสี่ยงและมีอาการก็จะสามารถช่วยป้องกันโรคนี้ได้
 

โดยเมื่อผู้โดยสารเดินทางมาถึงท่าอากาศยานหาดใหญ่ จะต้องผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายด้วยเครื่องเทอร์โมสแกน หากอุณหภูมิร่างกายเกิน 37.3 องศาเซลเซียส จะเข้าสู่การซักประวัติเพิ่มเติมโดยเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศท่าอากาศยานหาดใหญ่ เพื่อสอบสวนโรคว่า ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์นิยามโรคฝีดาษลิงตามที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้กำหนดหรือไม่ คือ ผู้เดินทางที่มีไข้สูงเกิน 38 องศาเซลเซียส หรือมีประวัติไข้ร่วมกับมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง ได้แก่ เจ็บคอ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดหลัง และต่อมน้ำเหลืองโต มีผื่นกระจายตามลำตัว มีลักษณะเป็นตุ่มนูน ตุ่มน้ำใส ตุ่มหนอง หรือตุ่มตกสะเก็ด และเดินทางมาจาก หรืออาศัยในประเทศที่มีการรายงานการระบาดของโรคฝีดาษลิง ในประเทศ ภายใน 21 วัน ซึ่งหากพบผู้โดยสารที่มีลักษณะอาการเข้าข่ายดังกล่าว จะเข้าสู่กระบวนการส่งต่อผู้ป่วยตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขต่อไป โดยในช่วงที่ผ่านมาจากการตรวจสอบยังไม่พบผู้โดยสารที่เข้าข่ายตามเกณฑ์แต่อย่างใด สำหรับผู้โดยสารที่อุณหภูมิปกติจะเข้าสู่กระบวนการตรวจคนเข้าเมืองต่อไป
 

ส่วนความคืบหน้า การจัดหาวัคซีนโรคฝีดาษลิง ขณะนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการให้กระทรวงสาธารณสุขสั่งจองวัคซีนป้องกันฝีดาษไปแล้ว คาดว่าจะสามารถนำเข้ามาได้ประมาณปลายเดือนสิงหาคมนี้ และได้กำชับให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์โรคฝีดาษลิงอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดในวงกว้าง