ผู้ป่วยยืนยันฝีดาษลิงในไทย 2 ราย สายพันธุ์ย่อยต่างกัน

ผู้ป่วยยืนยันฝีดาษลิงในไทย 2 ราย สายพันธุ์ย่อยต่างกัน

กรมวิทย์เผย ผู้ป่วยยืนยันฝีดาษลิงในไทย 2 ราย สายพันธุ์ย่อยต่างกัน แล็ป 15 แห่งในภูมิภาคสามารถตรวจหาเชื้อไวรัสนี้ได้แล้ว

เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2565 ที่กระทรวงสาธารณสุข  ในการแถลงข่าวสถานการณ์ฝีดาษวานรหรือฝีดาษลิง  นพ.บัลลังก์ อุปพงษ์ รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ในผู้ป่วยยืนยันฝีดาษวานรในไทย  2 ราย เมื่อมีการตรวจหาสายพันธุ์พบว่า เป็นแอฟริกาตะวันตก แต่เป็นสายพันธุ์ย่อยต่างกัน โดยรายแรกที่เป็นชายชาวไนจีเรีย เป็นสายพันธุ์ย่อย A.2   ส่วนรายที่ 2 ที่เป็นชายไทย เป็นสายพันธุ์ย่อย B.1

      “ฝีดาษลิงจะมี 2 สายพันธุ์หลัก คือ แอฟริกากลาง ที่จะมีความรุนแรงมากกว่า และแอฟริกาตะวันตก ซึ่งในการระบาดรอบนี้ที่มีการรายงานเข้าระบบ GISAID จากทั่วโลก 700 -800 ตัวอย่าง เป็นแอฟริกาตะวันตก โดยเป็นสายพันธุ์ย่อย B.1 ราว  80-90 % ที่เหลือเป็น A.2”นพ.บัลลังก์กล่าว 

    นพ.บัลลังก์ กล่าวอีกว่า  เดิมการตรวจเชื้อฝีดาษวานร จะต้องตรวจในห้องชีวนิรภัยระดับ 3 แต่ล่าสุดท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(รมว.สธ.)ได้ลงนามให้สามารถตรวจเชื้อในห้องชีวนิรภัยระดับ 2 ได้ และขณะนี้ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ 15 แห่งทั่วประเทศ สามารถตรวจหาเชื้อฝีดาษลิงได้ด้วยวิธีพีซีอาร์ และรายงานผลใน 24 ชั่วโมง 

      ทั้งนี้ การเก็บตัวอย่างนั้นจะมีรายละเอียดว่า ต้องตรวจอย่างไรบ้าง แต่จริงๆ หากไม่สามารถตรวจได้ทั้งหมดแต่ขอให้มีการตรวจจาก Throat swab ก็สามารถส่งตรวจได้ และบุคลากรผู้ทำการตรวจขอให้สวมชุด PPE ป้องกันตัวเอง แม้จะไม่ได้ติดกันง่าย แต่การป้องกันตนเองก็เป็นสิ่งที่ดี