"เงินชราภาพ" ประกันสังคม ม.33 เตรียมเบิกใช้ก่อนได้ เปิดวิธีเช็กยอด ทำอย่างไร

ส่องเกณฑ์ใหม่ ครม.เคาะแนวทาง "ประกันสังคม" เตรียมปรับให้ "ผู้ประกันตน ม.33" นำ "เงินชราภาพ" เบิกมาใช้บางส่วนได้ ไม่ต้องรอเกษียณ พร้อมเปิดวิธีเช็กยอดสะสมเงินชราภาพที่เรามีอยู่ด้วยตัวเอง ผ่านเว็บไซต์ประกันสังคม sso.go.th
ข่าวดี! สำหรับ "ผู้ประกันตนมาตรา33" ในกองทุน "ประกันสังคม" หลัง ครม. ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) 10 พ.ค. 2565 ได้มีมติเห็นชอบในหลักการร่างพระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอปรัฐเกณฑ์เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน
โดยหนึ่งในสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ฉบับนี้ คือการแก้ไขเพิ่มเติมสิทธิประโยชน์กรณีชราภาพอันเกิดจากข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ใช้แรงงาน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประกันตน
โดยกำหนดให้ผู้ประกันตนมีโอกาสเลือกบริหารจัดการเงินที่สะสมไว้เพื่อโอกาสต่างๆ มากขึ้น กับเกณฑ์ใหม่ “3 ขอ” ได้แก่
1. ขอเลือก : มีสิทธิเลือกรับเงินบำนาญชราภาพหรือเงินบำเหน็จชราภาพ เมื่อนำส่งเงินสมทบครบเงื่อนไขการได้รับเงินบำนาญชราภาพแล้ว
2. ขอกู้ : นำเงินกรณีชราภาพบางส่วนไปเป็นหลักประกันการกู้เงินกับสถาบันการเงิน
3. ขอคืน : สามารถนำเงินกรณีชราภาพที่ตนสมทบอยู่ในกองทุนประกันสังคมออกมาใช้ก่อนบางส่วน
ทั้งนี้ ยังขยายความคุ้มครองให้กับผู้ประกันตนเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ โดยขยายอายุขั้นสูงของผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ให้ผู้รับเงินบำนาญชราภาพสามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนได้ ให้ผู้รับเงินบำนาญชราภาพสามารถขอรับเงินบำนาญจ่ายล่วงหน้าได้
อ่านรายละเอียด สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. เพิ่มเติม >> คลิกที่นี่
อย่างไรก็ตาม หลักเกณฑ์ในการปรับปรุงกฎหมาย พ.ร.บ.ประกันสังคมในครั้งนี้ จะต้องรอประกาศใช้บังคับอย่างเป็นการทางอีกครั้ง
- วิธีเช็ก "เงินชราภาพ" ในกองทุนประกันสังคม สะสมไว้เท่าไรแล้ว ?
ผู้ประกันตนมาตรา 33 จะถูกหักเงินเดือนเพื่อสมทบกองทุนประกันสังคม 5% ของรายได้ทุกๆ เดือน ซึ่งเงินส่วนที่ถูกหักออกไปนั้นจะถูกแบ่งออกไปสมทบ 3 ส่วน เพื่อเป็นหลักประกันในชีวิตของผู้ประกันตนในมิติต่างๆ คือประกันเจ็บป่วย หรือตาย, ประกันการว่างงาน และประกันชราภาพ
เรื่องที่เกี่ยวข้อง : เรื่องต้องรู้! ปรับเกณฑ์ "เงินชราภาพ" ผู้ประกันตน "ประกันสังคม" ม.33
เช่น มีรายได้เกิน 15,000 บาทต่อเดือน จะต้องส่งเงินสมทบประกันสังคม เดือนละ 750 บาท (อัตราสูงสุด) โดยเงินจะถูกแบ่งออกไปตามสัดส่วน ดังนี้
ส่วนที่ 1 : 1.5% ของยอดสมทบ หรือสูงสุด 225 บาท จะใช้ในส่วนประกันเจ็บป่วย หรือตาย
ส่วนที่ 2 : 0.5% ของยอดสมทบ หรือสูงสุด 75 บาท จะถูกเก็บไว้ในส่วนของประกันการว่างงาน
ส่วนที่ 3 : 3% ของยอดสมทบ หรือสูงสุด 450 บาท จะถูกเก็บไว้ในส่วนของประกันชราภาพ
ซึ่งเงินที่ถูกสมทบในกลุ่มสุดท้ายที่เรียกว่า "เงินชราภาพ" นี้ จะถูกสะสมไปเรื่อยๆ โดยมีนายจ้างสมทบเพิ่มเท่ากับลูกจ้าง และรัฐบาลช่วยสมทบให้อีก 2.75%
โดยเงินสะสมประกันชราภาพนี้สามารถตรวจสอบได้ด้วยตัวเองง่ายๆ ผ่านเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม ตามขั้นตอนต่อไปนี้
1. เข้าสู่เว็บไซต์ "ประกันสังคม" www.sso.go.th
2. เลือกเมนู เข้าสู่ระบบ (กรณีไม่เคยลงทะเบียนสามารถกด สมัครสมาชิก ก่อนให้เรียบร้อย)
3. กรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชน และรหัสผ่าน
ประโยชน์ทดแทนกรณีบำเหน็จชราภาพ (สำหรับผู้ประกันตนที่จ่ายเงินสมทบกรณีสงเคราะห์บุตร และชราภาพไม่ถึง 180 เดือน)
กรณี ที่จ่ายเงินสมทบกรณีสงเคราะห์บุตร และชราภาพตั้งแต่ 12 เดือนขึ้นไป จะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพมีจำนวนเท่ากับจำนวนเงินสมทบ ที่ผู้ประกันตนและนายจ้างนำส่งพร้อมผมประโยชน์ทดแทน ตามที่สำนักงานประกันสังคมประกาศกำหนด
ทั้งนี้ ข้อมูลเบื้องต้นเป็นข้อมูลที่มีในระบบ ณ ปัจจุบัน ซึ่งอาจจะไม่รวมยอดที่อยู่ระหว่างการบันทึก เงินสมทบค้างชำระหรือข้อขัดข้องอื่นๆ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่ สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา
---------------------------------------------
อ้างอิง: ประกันสังคม, มติ ครม. 10 พ.ค. 65