ลงทุนมั่นใจ “อมตะรีท” รับปันผล “ค่าเช่า” โรงงาน

แต่มีข้อจำกัดด้านสภาพคล่องและต้องใช้เงินทุนสูง

การเลือกลงทุนใน “กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์”  จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่ให้ผลตอบแทนจากปันผลสม่ำเสมอและอยู่ในระดับน่าจูงใจ  เหมาะกับภาวะอัตราดอกเบี้ยที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำและผู้ที่ลงทุนระยะยาว

“อมตะรีท” (AMATA REIT)ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอมตะซัมมิทโกรท เป็นกองทุนล่าสุดที่เป็นทางเลือกการลงทุนด้วยมูลค่ากองทุนเบื้องต้นไม่เกิน 3.7 พันล้านบาท เพื่อนำเงินที่ได้จากการระดมทุนส่วนหนึ่งไปใช้ในการลงทุนเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าของโครงการ

กองทุนนี้เน้นสร้างผลตอบแทนจาก “เงินปันผล” เนื่องจากรายได้ค่าเช่าของโรงงานทั้ง 88 โรงหลังหักค่าใช้จ่ายแล้วจะนำมาจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหน่วยลงทุนไม่เกิน 4 ครั้งต่อปี ในอัตราไม่น้อยกว่า 90% ของกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้ว อีกทั้งยังมีสภาพคล่องกว่าการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โดยตรง

สำหรับสินทรัพย์กองทุนอมตะรีทลงทุนในโรงงานให้เช่าในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร ชลบุรี และนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ (ระยอง) มีจำนวนทั้งสิ้น 88 โรงมีพื้นที่ปล่อยเช่าประมาณ 160,578.52 ตารางเมตร บนที่ดิน 224 ไร่ 1 งาน 82.1 ตารางวาซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำขนาดใหญ่มีฐานะทางการเงินที่แข็งแรง รวมทั้งผู้เช่ามีความหลากหลายกระจายในหลายอุตสาหกรรม ทำให้ผลกระทบจากการตกต่ำลงในอุตสาหกรรมหนึ่งส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของกองทรัสต์ไม่มาก

สำหรับความเสี่ยงจากการไม่ต่อสัญญาจากผู้เช่า ไม่เป็นที่น่ากังวล เนื่องจากทรัพย์สินทั้งหมดเป็นโรงงานให้เช่า ซึ่งผู้เช่าส่วนใหญ่จะทำการต่อสัญญา เพื่อความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจ และให้ความคุ้มค่ากับเงินลงทุนในการตั้งสายการผลิต ทำให้อมตะรีทมีโอกาสได้รับค่าเช่าอย่างความต่อเนื่อง รวมทั้งนักลงทุนสามารถได้รับผลตอบแทนได้อย่างสม่ำเสมอเช่นกัน

ขณะเดียวกัน บริษัท อมตะคอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) เป็น “มืออาชีพ” ในวงการจัดหาผู้เช่ารวมทั้งบริษัท ซัมมิทคอร์ปอเรชั่น จำกัด หนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของอมตะ ซัมมิท และมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจยานยนต์สามรถแนะนำคู่ค้าให้มาเป็นผู้เช่าของทรัพย์สินของกองทรัสต์ได้ ซึ่งเชื่อได้ว่าจะสามารถสร้างการเติบโตให้กองทรัสต์ได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต

โดยปีที่ผ่านมาโรงงาน 88 โรง ได้สร้างผลตอบแทนให้กับ 2 นิคมฯ เฉลี่ย 6.93% ซึ่งสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ

นอกจากนี้ด้วยศักยภาพของของสองนิคมฯ ที่เป็นที่ตั้งของบริษัทขนาดใหญ่ และเป็นทำเล “ยุทธศาสตร์ทางธุรกิจ” ตั้งอยู่ใจกลาง อีสเทิร์น ซีบอร์ด ซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่มีความสําคัญเป็นลําดับต้นๆ ของประเทศที่รัฐบาลมุ่งเน้นการพัฒนาทางสาธารณูปโภค และสิ่งอํานวยความสะดวกต่างๆ ในบริเวณและบริเวณเชื่อมต่อกับ อีสเทิร์น ซีบอร์ด เป็นพิเศษเพื่อรองรับความเจริญและการขยายตัวทางเศรษฐกิจในบริเวณดังกล่าว

รวมทั้งยังเป็น “ทำเลทอง” สำคัญในการรองรับการเปิดเสรีการค้าอาเซียนสำหรับบริษัทต่างชาติในการเข้ามาตั้งฐานการผลิต ซึ่งเกิดผลดีต่อธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมและโรงงานให้เช่าอีกด้วย

ทั้งนี้ “อมตะรีท” เปิดเสนอขายระหว่างวันที่ 4-12 มิถุนายน 2558 โดยมีบริษัท อมตะ ซัมมิทรีทส์แมเนจเม้นท์จํากัดเป็นผู้จัดการกองทุน บริษัท เจดี พาร์ทเนอร์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และมี  บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัดเป็นทรัสตี จำหน่ายผ่าน ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารซีไอไอเอ็มบีไทย บริษัทหลักทรัพย์ เอเชียพลัส ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และธนาคารธนชาติ