เอสซี แอสเสทลุยธุรกิจโรงแรมสร้างกำไรบนน่านน้ำใหม่

เอสซี แอสเสทลุยธุรกิจโรงแรมสร้างกำไรบนน่านน้ำใหม่

เอสซี แอสเสท ประกาศลุยลงทุนพัฒนาธุรกิจโรงแรม เพื่อสร้างกำไรบนน่านน้ำใหม่ ต่อยอดอสังหาฯ หลัง 9 เดือน กวาดยอดขาย 78% ของเป้าทั้งปี

นายอรรถพล สฤษฎิพันธาวาทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านสนับสนุนองค์กร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า   ภายใต้ยุทธศาสตร์หลัก  คือ เติบโตบนสมรภูมิเดิมและหาโอกาสจากน่านน้ำใหม่  ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมบริษัทเมื่อ 29 ก.ย. ที่ผ่านมา ได้มีมติอนุมัติให้บริษัท เอสซี เอ็กซ์เพดิชั่น จํากัด (SCX) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เข้าลงทุนในบริษัท เอฟเจ บีเคเค จํากัด (FJBKK) มีทุนจดทะเบียน 1,420 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้น 100% โดยมีวัตถุประสงค์การลงทุนเพื่อพัฒนาธุรกิจโรงแรม  เพื่อสร้างกำไรจากธุรกิจบนน่านน้ำใหม่    

ขณะที่ภาพรวมของ SC  ช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ทำยอดขายคิดเป็น 78% จากเป้ายอดขายทั้งปีที่  22,000 ล้านบาท โดยที่ยอดขายรวม  17,182 ล้านบาท เติบโต  7%   แบ่งเป็นยอดขายแนวราบ 14,018 ล้านบาท  เติบโต  6%    และ มียอดขายแนวสูง 3,164 ล้านบาท เติบโต  12%    

"การเติบโตที่ดีของยอดขาย 9 เดือน ปัจจัยสำคัญมาจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคภายใต้แบรนด์ที่แข็งแกร่งและสินค้าบริการคุณภาพสูง   พร้อมกับกลยุทธ์ในการพัฒนาสินค้าทั้งบ้านและคอนโดฯ ดีไซน์ตอบโจทย์การอยู่อาศัยในทุกเจนเนอเรชั่นอย่างต่อเนื่อง  จึงทำให้โครงการแนวราบทุกราคาขายดี พร้อมกับการฟื้นตัวของคอนโดฯ โดยเฉพาะระดับกลางถึงบน    "

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 3/2565 บริษัทมียอดขายรวม 5,161 ล้านบาท เติบโต  9% นอกจากนี้สามารถปิดการขาย 3 คอนโดฯ ได้แก่ โครงการเซ็นทริค รัชโยธิน ,  โครงการแชมเบอร์ส อ่อนนุช  และ โครงการเดอะ เครสท์ ซานโตรา หัวหิน

นายอรรถพล กล่าวว่า  บริษัทมั่นใจว่าจะทำได้ตามเป้ายอดขายและรายได้รวมที่ 22,000 ล้านบาทอย่างแน่นอน   มาจาก ณ 30 กันยายน 2565 บริษัทมีโครงการเพื่อขายทั้งหมด  43 โครงการ มูลค่า 37,500 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบและแนวสูงในสัดส่วน 66 : 34  และพร้อมเปิด 11 โครงการใหม่ มูลค่ารวม  20,000  ล้านบาท  ในไตรมาส 4/2565 

พร้อมกันนี้ในไตรมาส 4/2565 จะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียม 3 โครงการ ได้แก่ คอนโด The Crest Park Residences มูลค่า 3,100 ล้านบาท รวมถึงโครงการ SCOPE Langsuan  มูลค่า 8,600 ล้านบาท และ SCOPE Promsri มูลค่า 1,100 ล้านบาท ซึ่ง 3 โครงการนี้มียอดขายรอโอน รวมมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท