แผ่นดินไหวเปลี่ยน!คนซื้อเลือกแบรนด์–โครงสร้างเหนือราคา-ทำเล

สุมิตรา วงภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทอร์ร่า มีเดีย แอนด์ คอนซัลติ้ง จำกัด หรือ TerraBKK เปิดเผยภาพรวมแนวโน้มการซื้อบ้านของผู้บริโภคไทยจากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างกว่า 2,000 ราย ซึ่งสะท้อนสัญญาณการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอย่างมีนัยสำคัญ

ผลสำรวจพบว่า 41% มีแผนซื้อบ้านใหม่ภายใน 3 ปี เพิ่มขึ้นจาก 36% ในปี 2024 ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่ยังไม่แน่นอน ขณะที่โครงสร้างความต้องการที่อยู่อาศัยปรับมาชนิดที่ผู้ประกอบการต้องจับตาความนิยม ทาวน์โฮมเพิ่มจาก 24% เป็น 30% ส่วน บ้านเดี่ยวลดฮวบจาก 86% เหลือ 66% สะท้อนความระมัดระวังด้านงบประมาณและการใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่า
 

หลังแผ่นดินไหวแบรนด์–โครงสร้างสำคัญกว่าราคา -ทำเล

เหตุการณ์แผ่นดินไหวกลายเป็นจุดเปลี่ยนพฤติกรรม แม้ว่าปัจจุบัน 48% ระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีผลต่อการเปลี่ยนประเภทที่อยู่อาศัย เพิ่มขึ้นจากเพียง 12% เมื่อกลางปี แสดงให้เห็นว่าความตื่นตระหนกลดลง แต่สิ่งที่กลับพุ่งสูงขึ้นคือความคาดหวังต่อมาตรฐานความปลอดภัย ผู้ซื้อจำนวนมากหันไปเลือก “แบรนด์ที่เชื่อถือได้และมีชื่อเสียงด้านโครงสร้าง”

สุมิตราระบุว่า ผู้บริโภคทุกเจเนอเรชันให้ความสำคัญกับ “โครงสร้าง–คุณภาพก่อสร้าง” เป็นปัจจัยอันดับหนึ่ง โดยเฉพาะกลุ่ม Gen X ซึ่งเดิมนิยมคอนโด เริ่มศึกษาวัสดุ ผู้รับเหมา ไปจนถึงเทคโนโลยีกันแผ่นดินไหวอย่างละเอียด ขณะที่กลุ่ม Baby Boomers เลี่ยงอาคารสูงมากขึ้น หันมามองหาบ้านแนวราบและเอกสารรับรองความปลอดภัยที่ตรวจสอบได้ชัดเจน

เจเนอเรชันเสพคอนเทนต์ต่างมิติ 

การวิเคราะห์พฤติกรรมบนโซเชียลพบภาพความหลากหลายชัดเจน

Baby Boomers–Gen X ให้ความสำคัญ “สุขภาพ” มากขึ้นตามวัย

Gen Y เด่นสุดด้านคอนเทนต์ท่องเที่ยว (51%) และอาหารเครื่องดื่ม (49%)

Gen Z ครองอันดับหนึ่งด้านคอนเทนต์สัตว์เลี้ยง การศึกษา และเกม แสดงให้เห็นความสนใจที่เฉพาะทางและมีพลวัตสูง

ข้อมูลนี้สะท้อนว่า การออกแบบแบรนด์และคอนเทนต์สื่อสารด้านอสังหาฯ จำเป็นต้องเข้าใจจริตของแต่ละเจเนอเรชันมากกว่าที่เคย

เศรษฐกิจซบ–ใจคนไทยฟื้น 

ท่ามกลางความผันผวนเศรษฐกิจ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปี 2025 ลดลงเหลือ 66 จุด จาก 72 จุดในปีก่อน และส่วนใหญ่ยังเชื่อว่าช่วงนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะต่อการซื้อสินทรัพย์ราคาสูง ทั้งบ้านและรถยนต์

อย่างไรก็ดี ภาพที่น่าสนใจคือ ดัชนีสุขภาวะทางใจ (Wellbeing Index) อยู่ที่ 76.9% ตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลก ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับดีและปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงกลางปี สะท้อนว่าคนไทยเริ่มฟื้นตัวทางอารมณ์หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว แม้สภาวะเศรษฐกิจยังสร้างความกังวลก็ตาม