ดร.ยุ้ย เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์กับเทคนิคพักใจในวันที่ไฟมอด

ในโลกที่วิ่งเร็วเกินไป บางครั้งแม้แต่คนที่ดู “แข็งแกร่ง” ที่สุด ก็ยังมีวันที่รู้สึกหมดแรง ไร้แรงจูงใจในการทำงาน  รวมถึง ดร.ยุ้ย เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ นักธุรกิจหญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็น "สายลุย" ที่เต็มไปด้วยพลังงาน

เธอยอมรับว่า ในช่วงปีที่ผ่านมา ตัวเองก็เคย “หมดไฟ” กับบางเรื่อง แต่เลือกที่จะไม่ฝืนวิ่งต่อ...หันมา “ชะลอ” และฟังเสียงร่างกายตัวเองมากขึ้น

“ปีที่ผ่านมา พี่หันมาเล่นเวทแทนว่ายน้ำอย่างเดียวเพื่อเสริมกล้ามเนื้อให้ร่างกายรับมือกับอนาคต”
 

การออกกำลังกายจึงไม่ใช่แค่เพื่อรูปร่าง แต่คือการลงทุนกับ “สุขภาพในระยะยาว” และยังเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วย “เบนความคิด” ออกจากเรื่องที่ทำให้รู้สึก Burnout

Work-Life Balance ไม่มีสูตรตายตัว มีแต่จังหวะชีวิตที่เรากำหนดเอง

เมื่อพูดถึง Work-Life Balance หลายคนมองว่าเป็นปลายทางของการจัดการชีวิตให้ดี แต่สำหรับ ดร.ยุ้ย นิยามของสมดุลชีวิตคือ "ความยืดหยุ่น" ไม่ใช่ "ความเท่ากัน"

“Work-Life Balance ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน อย่าไปเปรียบเทียบ”

ในยุคที่เทคโนโลยีเชื่อมโยงทุกสิ่ง เธอมองว่าเราสามารถทำงานและพักผ่อนได้พร้อมกันภายในวันเดียวกัน ขึ้นอยู่กับการจัดลำดับความสำคัญ ไม่ใช่การแบ่งเวลาแบบเป๊ะ ๆ เสมอไป
 

อย่าตัดสินใจตอนใจล้า

เหนือสิ่งอื่นใด ดร.ยุ้ย ฝากแนวคิดที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังที่สุดไว้ว่า... เวลาหมดไฟ ห้ามตัดสินใจเด็ดขาด เพราะเมื่อใจและสมองยังล้า การตัดสินใจมักเต็มไปด้วยอารมณ์และความผิดพลาด

“อย่าตัดสินใจอะไรตอน Burnout...แค่พักก่อน แล้วค่อยกลับมา”

เธอเลือกใช้เทคนิค “Sleep on it” นอนพัก 1–2 คืน แล้วค่อยกลับมาตัดสินใจใหม่ ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยให้มองเห็นปัญหาชัดขึ้น พร้อมพลังงานที่กลับมาเต็มถัง

ระหว่างนั้น เธอเลือกออกกำลังกาย ทำงานอื่น หรือพักใจไปก่อน
ไม่เร่ง ไม่กดดัน ไม่ต้องรีบตอบทุกอย่างในวันเดียวเพราะชีวิตไม่ใช่สนามแข่ง แต่คือการเดินทางที่ต้องมีจุดพัก

Burnout ไม่ใช่ความล้มเหลว แต่คือสัญญาณจากร่างกายและจิตใจว่าเราควรหันกลับมาดูแลตัวเองอีกครั้ง ไม่ว่าจะด้วยการพัก ออกกำลังกาย หรือแค่ยอมรับว่า “เราก็มีวันอ่อนแอ”

“ทุกคนมีสิทธิ์หมดไฟ ขอแค่รู้จักวิธีจุดไฟใหม่ให้ตัวเอง”

จังหวะของชีวิตไม่จำเป็นต้องเร็วเสมอไป แค่ไม่หยุดเดิน และรู้ว่าจุดไหนควรหยุดพัก...ก็เพียงพอแล้ว