'ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์'ลูกเขยทักษิณว่าที่แคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย?

นั่นคือภาพที่กำลังเกิดขึ้นกับ “ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์” หรือ “พงศ์” ลูกเขยคนโตของ ทักษิณ ชินวัตร ที่วันนี้ กลายเป็นชื่อที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนใหม่ จากพรรคเพื่อไทย

ชื่อของเขาไม่เคยอยู่ในสนามเลือกตั้ง ไม่มีตำแหน่งทางการเมือง ไม่มีบทบาทในสภา แต่ความเชื่อมโยงทั้งในเชิงสายสัมพันธ์และสายธุรกิจ กับตระกูลชินวัตร กำลังทำให้หลายคนตั้งคำถามว่า... หรือเขาคือผู้สืบทอด “อำนาจ” ที่ซ่อนอยู่ในโครงสร้างเก่าที่ไม่เคยหายไปจากการเมืองไทย?

ลูกเขยผู้ไม่เคยเอ่ยปากเรื่องการเมือง

ณัฐพงศ์ เกิดเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2523 ในครอบครัวนักธุรกิจการ์เมนต์ย่านประตูน้ำ สำเร็จการศึกษาด้านสถาปัตยกรรมจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อนจะเดินทางไปต่อปริญญาโทบริหารธุรกิจที่ DePaul University เมืองชิคาโก สหรัฐอเมริกา

เส้นทางชีวิตของเขาดูจะอยู่ห่างจากการเมืองโดยสิ้นเชิง  จนกระทั่งปี 2554 ที่เขาเข้าพิธีสมรสกับ “พินทองทา ชินวัตร” ลูกสาวคนโตของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร และก้าวเข้าสู่โลกของอาณาจักรชินวัตรอย่างเป็นทางการ

เขาไม่ได้เข้าสู่พรรค แต่เลือกเดินในเส้นทางของการบริหารธุรกิจอย่างเงียบ ๆ โดยเฉพาะในบทบาท ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SC Asset หนึ่งในบริษัทอสังหาฯ ชั้นนำของประเทศ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจตระกูลชินวัตรในยุคปัจจุบัน
 

แคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทยคนใหม่ ?

ข่าวลือเริ่มจุดประกายขึ้น เมื่อ นายภูมิธรรม เวชยชัย แกนนำพรรคเพื่อไทย เอ่ยปากยอมรับ “ไม่ปิดกั้น” โอกาสที่ณัฐพงศ์อาจถูกเสนอชื่อเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้า

ด้านณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ตอบนักข่าวด้วยรอยยิ้ม เมื่อถูกถามถึงอนาคตทางการเมืองว่า “ยังไม่ได้คิดเรื่องนี้”

แม้เจ้าตัวจะปฏิเสธ แต่กระแสก็ไม่หยุดนิ่ง ด้วยโปรไฟล์ที่ครบเครื่อง มีสายสัมพันธ์ที่ลึกแน่นทั้งในทางธุรกิจและครอบครัว และที่สำคัญ... เขาไม่เคยมีข้อขัดแย้งกับฝ่ายใด

ในวันที่การเมืองไทยต้องการ “คนใหม่ที่ไม่เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร” ณัฐพงศ์จึงถูกมองว่าอาจเป็นไพ่ที่เหมาะที่สุด หากพรรคเพื่อไทยต้องการส่งสัญญาณปรองดอง ขณะเดียวกันก็ยังรักษาอิทธิพลเอาไว้ได้

จากอสังหาฯ สู่การเมือง หรือเพียงข่าวลือ?

ตลอดเส้นทางใน SC Asset ณัฐพงศ์คือผู้นำที่เน้น “ระบบ” มากกว่าการโชว์ภาพลักษณ์ เขาไม่ชอบออกสื่อ ไม่ปรากฏตัวในพื้นที่สาธารณะมากนัก แต่เป็นผู้วางรากฐานให้ SC Asset เติบโตเป็นหนึ่งในบริษัทอสังหาฯ ที่มีแบรนด์แข็งแรงและการจัดการภายในอย่างมืออาชีพ คุณลักษณะเหล่านี้ ทำให้เขาอาจกลายเป็นนักการเมืองที่แตกต่าง  หากตัดสินใจก้าวเข้ามาในสนามจริง  

แต่ในเมื่อเขายังไม่พูด และพรรคยังไม่เปิดไพ่ แค่โยนหินถามทาง ทุกคนคงได้แต่จับตามองว่า เขาจะเป็นตัวจริงในสนามการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่