‘ศุภาลัย’ปลูกป่าสร้างสุขตั้งเป้าลดคาร์บอนกว่า665ตัน

‘ศุภาลัย’ปลูกป่าสร้างสุขตั้งเป้าลดคาร์บอนกว่า665ตัน

ศุภาลัยเดินหน้าภารกิจสีเขียวโครงการ “ป่าสร้างสุข” ปีที่ 3 ปลูกต้นไม้ 2,250 ต้น บนพื้นที่ 10 ไร่ หวังลดคาร์บอนไดออกไซด์กว่า 665 ตันภายใน 10 ปี

Green Mission ของศุภาลัยลงมือปลูกวันนี้ เพื่อลมหายใจของวันหน้าหากการปลูกต้นไม้เป็นการลงทุน ศุภาลัยอาจเป็นหนึ่งใน “นักลงทุนสีเขียว” ที่จริงจังและต่อเนื่องที่สุดในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ไทย ณ วันนี้

ในโอกาสครบรอบ 36 ปี บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เดินหน้า “ป่าสร้างสุข” ปีที่ 3 ด้วยการปลูกต้นไม้จำนวน 2,250 ต้น บนพื้นที่ 10 ไร่ ณ ตำบลหินเหล็กไฟ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ บนที่ดินของบริษัทฯ พร้อมเป้าหมายที่ไม่ใช่เพียงการเพิ่มพื้นที่สีเขียว แต่คือการฟื้นฟูระบบนิเวศ และสนับสนุนการลดก๊าซเรือนกระจกอย่างเป็นรูปธรรม

“เราดีใจและขอบคุณผู้บริหารและพนักงานทุกคนที่ร่วมเป็นพลังสีเขียวต่อเนื่องในทุกปี เพราะต้นไม้ทุกต้นที่เราปลูกด้วยกันในวันนี้ จะกลายเป็นต้นทุนสำคัญของโลกที่ยั่งยืนในวันข้างหน้า” ไตรเตชะ ตั้งมติธรรมกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)
 

 จากความตั้งใจ สู่ต้นกล้าที่เติบโต

“ป่าสร้างสุข” ไม่ใช่กิจกรรม CSR ชั่วครั้งชั่วคราว แต่เป็นพันธกิจด้านสิ่งแวดล้อมที่ศุภาลัยยึดถือมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มโครงการ โดยตลอด 3 ปีที่ผ่านมา มีการปลูกต้นไม้แล้วกว่า 6,650 ต้น บนพื้นที่รวม 55 ไร่ ทั้งในจังหวัดปทุมธานีและประจวบคีรีขันธ์

‘ศุภาลัย’ปลูกป่าสร้างสุขตั้งเป้าลดคาร์บอนกว่า665ตัน

เฉพาะปีนี้ พนักงานศุภาลัยร่วมแรงปลูกพันธุ์ไม้เศรษฐกิจของไทย ได้แก่ ยางนา พะยูง พยอม และมะฮอกกานี ซึ่งล้วนเป็นไม้โตเร็ว ให้ร่มเงา และมีประสิทธิภาพในการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้สูง ถือเป็นการเลือกพันธุ์ไม้ที่ไม่เพียงเหมาะสมกับภูมิอากาศท้องถิ่น แต่ยังตอบโจทย์เป้าหมายด้านคาร์บอนเครดิตในระยะยาว

“การปลูกป่าไม่ใช่แค่การเพิ่มพื้นที่สีเขียว แต่คือการ ‘ลงทุนเพื่อคุณภาพชีวิต’ ของคนรุ่นต่อไป”

 

จากการประเมินตามมาตรฐานทั่วไป ต้นไม้ที่ปลูกทั้งหมดคาดว่าจะช่วยลดการปล่อย คาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่า 665 ตันภายใน 10 ปี นับเป็นตัวเลขที่มีนัยสำคัญในแง่ของความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และสะท้อนถึงความตั้งใจของศุภาลัยในการ “ลงมือ” มากกว่าการ “ตั้งเป้า”

มากกว่าธุรกิจ คือการสร้างอนาคตอย่างยั่งยืน

แนวทางด้านความยั่งยืนของศุภาลัยไม่ได้จำกัดอยู่แค่การปลูกป่า แต่ครอบคลุมถึงการดำเนินธุรกิจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมในทุกมิติ โดยเฉพาะการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งตั้งเป้าไว้ชัดเจนว่าจะลดลง 40% ภายในปี 2573

ความพยายามเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าศุภาลัยไม่ได้มอง “การดูแลสิ่งแวดล้อม” เป็นภาระทางต้นทุน แต่คือ การสร้างคุณค่าร่วมระหว่างธุรกิจ สังคม และโลกใบนี้

‘ศุภาลัย’ปลูกป่าสร้างสุขตั้งเป้าลดคาร์บอนกว่า665ตัน

จากนโยบาย สู่วัฒนธรรมองค์กร

อีกหนึ่งปัจจัยความสำเร็จของ “ป่าสร้างสุข” คือการมีส่วนร่วมของพนักงานทุกระดับ ที่เห็นคุณค่าของการลงมือปลูกป่าอย่างจริงจัง และร่วมผลักดันให้ “ความยั่งยืน” ไม่ใช่เพียงนโยบายจากผู้บริหาร แต่คือวัฒนธรรมองค์กรที่หยั่งรากลึก

กิจกรรมในปีนี้จึงไม่ใช่แค่การปลูกต้นไม้ 2,250 ต้น หากแต่คือการเพาะ “จิตสำนึกสีเขียว” ที่งอกงามในหัวใจของพนักงานกว่า 300 ชีวิตที่เข้าร่วมกิจกรรมอย่างมีความหมาย

ก้าวต่อไปของ ‘Green Supalai’

ด้วยจุดยืนที่ชัดเจนในเรื่องสิ่งแวดล้อม และการลงมือทำอย่างต่อเนื่อง “Green Mission” ของศุภาลัยจึงเป็นมากกว่าแผนงานในรายงาน ESG แต่คือการพัฒนาเมืองควบคู่ไปกับธรรมชาติอย่างกลมกลืน

ในวันที่อุณหภูมิโลกสูงขึ้น ป่าไม้ลดลง และคาร์บอนเพิ่มขึ้น ความเคลื่อนไหวขององค์กรอย่างศุภาลัยคือบทพิสูจน์ว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์สามารถอยู่ร่วมกับโลกอย่างสมดุลได้

“ศุภาลัยเชื่อว่าเมืองและธรรมชาติสามารถเติบโตไปด้วยกันได้ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”
 

เพราะอนาคตของเมือง อนาคตของธุรกิจ และอนาคตของโลกไม่ใช่สามเส้นทางที่แยกจากกัน แต่คือทางเดียวกันที่เราทุกคนต้องเดินไปด้วยความรับผิดชอบร่วมกัน