เทรนด์อสังหาฯที่ตอบชีวิตคู่LGBTQIAN+ ยุคใหม่รับสมรสเท่าเทียม

การประกาศใช้ พระราชบัญญัติสมรสเท่าเทียม พ.ศ. 2568 ไม่เพียงส่งผลในทางกฎหมาย แต่ยังพลิกโฉมหลายแง่มุมของการใช้ชีวิต โดยเฉพาะการเป็นเจ้าของ “ที่อยู่อาศัย” ซึ่งถือเป็นการวางรากฐานของชีวิตคู่

 ที่อยู่อาศัย...ไร้กรอบเพศ

ดีดีพร็อพเพอร์ตี้  เผยว่า ไลฟ์สไตล์ของกลุ่ม LGBTQIAN+ ในปัจจุบันสะท้อนแนวโน้มการเลือกที่อยู่อาศัยแบบ “Genderless Living” มากขึ้น ความต้องการซื้อหรือเช่าบ้านไม่ยึดติดกรอบเพศ แต่ให้ความสำคัญกับ “คุณภาพชีวิต” และ “อิสรภาพในการตัดสินใจ” ที่ตรงกับตัวตนบ้านในฝันของคนกลุ่มนี้จึงไม่ใช่บ้านหลังใหญ่หรือคอนโดฯ หรูเสมอไป แต่อาจเป็นพื้นที่ที่ เปิดกว้างต่อการมีชีวิตคู่ มีสัตว์เลี้ยง หรืออยู่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก ที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์เฉพาะกลุ่ม

สมรสเท่าเทียม เปิดทาง “กู้ร่วม”

หนึ่งในผลลัพธ์สำคัญของกฎหมายสมรสเท่าเทียม คือ การเปิดโอกาสให้คู่รัก LGBTQIAN+ สามารถยื่นกู้ร่วมเพื่อซื้อบ้านหรือคอนโดฯ ได้อย่างถูกต้องตามเกณฑ์ของธนาคาร

ก่อนหน้านี้ หลายคู่รักไม่สามารถกู้ร่วมได้เนื่องจากขาดสถานะทางกฎหมาย แต่วันนี้ธนาคารหลายแห่งได้ปรับเงื่อนไข พร้อมออกแคมเปญส่งเสริมสิทธิการเข้าถึงสินเชื่อ  ข้อดีของการกู้ร่วม

• เพิ่มโอกาสในการอนุมัติ
• ได้วงเงินสูงขึ้น
• บริหารความเสี่ยงทางการเงินร่วมกัน

“จากวันนี้ไป คู่ชีวิตไม่ใช่แค่คนที่อยู่เคียงข้าง แต่คือคนที่ลงชื่อในโฉนดบ้านด้วยกัน”

DINKs กำลังซื้อใหม่แห่งอสังหาฯ

คู่รักกลุ่ม LGBTQIAN+ จำนวนไม่น้อยใช้ชีวิตในแบบ DINKs (Double Income No Kids) มีรายได้ 2 ทาง ไม่มีภาระเลี้ยงดูบุตร และให้ความสำคัญกับการออมและลงทุนมากขึ้น

อสังหาริมทรัพย์จึงกลายเป็น ช่องทางสร้างความมั่งคั่งที่น่าเชื่อถือ ทั้งในรูปแบบ

• การซื้อ-ขายใบจอง
• ปล่อยเช่าเพื่อรายได้ประจำ
• ลงทุนผ่านกองทุนอสังหาฯ

ซึ่งตอบโจทย์ทั้งเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาว ในบริบทที่กลุ่มผู้ซื้อกลุ่มนี้มีวิสัยทัศน์การวางแผนการเงินที่แม่นยำ

 ใกล้โรงพยาบาล 

ผลสำรวจ DDproperty พบว่า 22% ของผู้บริโภค มองว่า “การอยู่ใกล้โรงพยาบาล” เป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัย สะท้อนแนวโน้มการวางแผนสุขภาพในระยะยาวของคนทุกเพศทุกวัย

ยิ่งในกลุ่ม LGBTQIAN+ ที่มีไลฟ์สไตล์ชัดเจนและใส่ใจสุขภาพ การเลือกบ้านใกล้ศูนย์บริการทางการแพทย์ไม่เพียงตอบโจทย์ด้านความอุ่นใจ แต่ยังสื่อถึง คุณภาพชีวิตที่เลือกได้

Pet Humanization เมื่อสัตว์เลี้ยงคือ “ลูก”

อีกหนึ่งเทรนด์ที่เด่นชัดในกลุ่ม LGBTQIAN+ และกลุ่ม DINKs คือแนวคิด “Pet Humanization” หรือการเลี้ยงสัตว์เทียบเท่าสมาชิกในครอบครัว

ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า คาดการณ์ว่า ปี 2569 ตลาดสัตว์เลี้ยงไทยจะมีมูลค่าสูงถึง 66,748 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 8.4% ต่อปี

“บ้านที่ดีในยุคนี้ไม่ใช่แค่ตอบโจทย์คน...แต่ต้องต้อนรับสมาชิกสี่ขาด้วย”

อสังหาฯ หลายรายปรับตัวด้วยการเปิดตัวโครงการ Pet-Friendly Condo ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ เช่น สนามหญ้า พื้นที่อาบน้ำสัตว์เลี้ยง หรือคาเฟ่ที่สัตว์เข้าได้

อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคควรศึกษาเงื่อนไขของโครงการและกฎหมายท้องถิ่น เช่น ข้อบัญญัติใหม่ของ กทม. ว่าด้วยการควบคุมการเลี้ยงสัตว์ ที่จะบังคับใช้ในปี 2569

เมื่อบ้านคือพื้นที่แห่งอิสรภาพของทุกความรักแนวโน้มการใช้ชีวิตของคู่รัก LGBTQIAN+ กำลังเป็นแรงขับเคลื่อนให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต้องปรับตัว ไม่เพียงแค่เปิดกว้างในแง่กฎหมาย แต่ต้องเข้าใจหัวใจของ “การอยู่ร่วม” ที่แท้จริง