SCG ปักธงปูนคาร์บอนต่ำผ่านอุตฯก่อสร้างสู่เป้าหมาย Net Zero

SCG ปักธงผู้นำ “ปูนคาร์บอนต่ำ” ดัน INTERCEM Asia 2025 โชว์พลังนวัตกรรมสู่เป้าหมาย Net Zeroเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมก่อสร้าง สู่โลกที่ยั่งยืน
"Green Innovation" ไม่ได้เป็นเพียงคำขวัญบนเวที หากแต่กลายเป็นพันธสัญญาที่ผู้ร่วมงาน INTERCEM Asia 2025 ต่างสะท้อนกลับมาอย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จากเวทีที่เอสซีจี ในฐานะผู้นำด้านวัสดุก่อสร้างของภูมิภาค นำเสนอวิสัยทัศน์ “SCG’s Inclusive Green Growth”
สุรชัย นิ่มละออ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจซีเมนต์และกรีนโซลูชัน เอสซีจี สะท้อนภาพการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรม ผ่านเลนส์ของนวัตกรรมที่ไม่เพียงลดคาร์บอน หากยังสร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจไปพร้อมกัน จุดยืนของ SCG ครั้งนี้ ชัดเจนกว่าเป็นผู้นำการปฏิวัติ "Low-carbon Cement" ของภูมิภาคเอเชีย
กรีนนวัตกรรมที่ไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่คือทางรอด
ภายในงาน SCG เปิดตัว “SCG LC3 Structural Cement” ปูนโครงสร้างคาร์บอนต่ำที่ลดการปล่อย CO₂ ได้ถึง 30-40% โดยยังคงคุณภาพและมาตรฐานระดับสากล เหมาะสำหรับการก่อสร้างยุคใหม่ที่ต้องการทั้งความแข็งแรงและความยั่งยืน ขณะเดียวกัน “SCG 3D Printing” ก็ฉายภาพอนาคตของงานสถาปัตยกรรม ที่ความซับซ้อนไม่ใช่อุปสรรคอีกต่อไป ด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์โครงสร้างสามมิติจากปูนคาร์บอนต่ำ ที่ช่วยลดเศษวัสดุ ลดแรงงาน และเพิ่มความเร็วในการก่อสร้าง
4 กรีนที่เชื่อมโยงนวัตกรรมกับโลก
ความมุ่งมั่นของเอสซีจีไม่หยุดอยู่แค่ผลิตภัณฑ์ แต่ครอบคลุมสู่ “ระบบนิเวศสีเขียว” ครบวงจร ผ่าน 4 แกนหลัก ได้แก่
- Green Products ปูนซีเมนต์และคอนกรีตคาร์บอนต่ำ ที่ได้รับการรับรอง EPD ระดับ North America
- Green Process การใช้เชื้อเพลิงทางเลือกและพลังงานหมุนเวียน โดยตั้งเป้าการใช้เชื้อเพลิงทางเลือก 70% และพลังงานทดแทน 100% ภายในปี 2040
- Green Construction การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อการก่อสร้างที่รวดเร็วและใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า
- Green Society ความร่วมมือจากพันธมิตรทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกันสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ
Saraburi Sandbox แบบจำลองแห่งอนาคต
อีกหนึ่งไฮไลต์ของงาน คือการนำเสนอ “Saraburi Sandbox” เมืองคาร์บอนต่ำต้นแบบของไทย ที่ดำเนินงานในรูปแบบ PPPP (Public – Private – People – Partnership) โดยมีเป้าหมายลดคาร์บอน 5 ล้านตัน CO₂ ภายในปี 2027 ผ่าน 5 แกนสำคัญ ตั้งแต่การเปลี่ยนพลังงาน ไปจนถึงการส่งเสริมพื้นที่สีเขียว
เมืองต้นแบบแห่งนี้ เป็นสนามทดสอบความเป็นไปได้ของนวัตกรรม ทั้งการเปลี่ยนขยะให้เป็นเชื้อเพลิง การสร้างมูลค่าเพิ่มจากของเหลือใช้ การส่งเสริมเกษตรพลังงาน ไปจนถึงการออกแบบระบบนิเวศเพื่อการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
ไม่ใช่แค่แสดง แต่ให้ "สัมผัส" นวัตกรรม
ผู้เข้าร่วมงานยังได้เข้าเยี่ยมชม SCG Home Experience สาขาเลียบทางด่วนเอกมัย–รามอินทรา เพื่อสัมผัสนวัตกรรมก่อสร้างยุคใหม่ ทั้ง SCG 3D Printing และ TORA S-ONE เครื่องพ่นฉาบปูนระบบดีเซลที่เพิ่มความเร็วการทำงานถึง 40% ยกระดับฝีมือแรงงานและการใช้วัสดุอย่างคุ้มค่า
เสียงสะท้อนจากผู้เข้าร่วมงานสะท้อนถึงบทบาทที่ชัดเจนของเอสซีจี ในฐานะผู้นำที่ไม่เพียงเป็นต้นแบบ แต่ยังเชื่อมโยงเครือข่ายพันธมิตรทั่วภูมิภาค พร้อมประกาศจุดยืนอย่างชัดเจนว่า “ความยั่งยืนไม่ใช่จุดหมาย แต่คือหนทางที่ต้องเดินร่วมกัน”
ด้วยความเชื่อว่า "ความร่วมมือวันนี้ คือรากฐานของอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน" เอสซีจีกำลังพิสูจน์ว่าอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย สามารถเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญต่อเศรษฐกิจสีเขียวระดับภูมิภาค ด้วยนวัตกรรม และความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง







