เมื่อ “สีทาบ้าน” กลายเป็นเครื่องมือของนักออกแบบและสิ่งแวดล้อม

วันนี้ “เบเยอร์” ไม่ได้มองตัวเองว่าเป็นแค่แบรนด์สีอีกต่อไป แต่คือแบรนด์นวัตกรรมที่พร้อมจะเปลี่ยนภาพของวงการสถาปัตยกรรมไทย และการอยู่อาศัยทั่วโลก ผ่านแนวคิดใหม่ที่เรียกว่า “Designing Future”

จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ ที่ไม่ใช่แค่เรื่องสี

กว่า 20 ปีที่เบเยอร์ครองตำแหน่งผู้นำด้านนวัตกรรมสีบ้านเย็น และในปี 2568 นี้ พวกเขาเดินหน้าเปลี่ยนเกมอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว Green Palette ครั้งแรกในประเทศไทย ที่งาน สถาปนิก’68 โดยเฉดสีนี้ไม่ใช่แค่สีสัน แต่คือผลลัพธ์จากการวิจัยระดับลึกเพื่อเป้าหมายเดียวคือ “ลดคาร์บอนให้ได้จริง”

นี่ไม่ใช่แค่ครั้งแรกที่ประเทศไทยได้เห็นโทนสีที่ออกแบบมาเพื่อลดทั้ง Embodied Carbon (คาร์บอนจากการผลิตวัสดุ) และ Operational Carbon (คาร์บอนจากการใช้งานอาคาร) แต่ยังเป็นครั้งแรกที่แบรนด์ไทยกล้านำ เฉดสี ไปใส่ใน BIM (Building Information Modeling) ให้สถาปนิกใช้ในการออกแบบจริงได้ทันที

ไม่ได้แค่ขายสี แต่ขายอนาคต

อาวุธลับ 5 อย่าง ที่เบเยอร์นำมาสั่นสะเทือนวงการออกแบบ

Green Palette – เฉดสีที่ช่วยลดความร้อนและคาร์บอน สร้างมาเพื่องานออกแบบที่ต้องการผลลัพธ์ด้านพลังงาน

BegerCool – เทคโนโลยีสีสะท้อนร้อน ที่ช่วยประหยัดพลังงานสูงสุด

2in1 Series – สีที่รวมทั้งรองพื้นและทับหน้าในหนึ่งเดียว เร่งสปีดงานก่อสร้าง

BegerCool 2in1 – นวัตกรรมใหม่ “เย็น-เร็ว-ประหยัด” ที่ตอบโจทย์ช่างมืออาชีพ

วัสดุก่อสร้าง Low Embodied Carbon – ก้าวสู่ Net Zero อย่างเป็นรูปธรรม

โดยเฉพาะ BegerCool ที่ใช้เทคโนโลยี AeroTech สกัดกั้นความร้อนได้สูงสุดถึง 97.5% พร้อมผลการทดสอบที่ยืนยันว่า ช่วยลดอุณหภูมิได้สูงสุด 6 องศา และประหยัดค่าไฟได้ถึง 32%

เพราะ “สี” กลายเป็นเครื่องมือของนักออกแบบ

การออกแบบในอนาคตไม่ใช่แค่เรื่องความสวย แต่คือการออกแบบเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน เบเยอร์เข้าใจจุดนี้ และจึงเปลี่ยนแนวคิดใหม่ทั้งหมดของอุตสาหกรรมที่หลายคนมองว่าเก่า ให้กลายเป็น “แพลตฟอร์มแห่งนวัตกรรม”

การเปิดตัว Green Palette ไม่ได้เป็นเพียงแค่นวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์ แต่มันกำลังกลายเป็นเครื่องมือใหม่ของสถาปนิกที่ต้องรับมือกับ “ความท้าทายของโลกร้อน” และข้อจำกัดของทรัพยากรพลังงาน

อนาคตของอุตสาหกรรมสี คือ “ข้อมูล + ความยั่งยืน” ในยุคที่เทคโนโลยี BIM และความยั่งยืนกลายเป็น “ภาษากลาง” ของนักออกแบบทั่วโลก การที่เบเยอร์เลือกจะฝังนวัตกรรมไว้ในทุกชั้นของการผลิต ตั้งแต่ฐานข้อมูล BIM จนถึงผลลัพธ์ในบ้านจริง คือจุดที่ทำให้แบรนด์ไทยแบรนด์นี้ อาจกลายเป็นผู้เล่นในเวทีโลก

เบเยอร์กำลังใช้ “สี” เป็นภาษาของการเปลี่ยนแปลงโลกคำถามคือ แบรนด์อื่นจะทันไหม? หรือจะต้องวิ่งตาม?