5 ทำเลที่ดินราคาพุ่งสูงสุด นครปฐมครองแชมป์ สมุทรสาครรั้งอันดับสอง

หากพูดถึงการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบัน คงไม่สามารถมองข้ามทำเลที่มีการเติบโตของราคาที่ดินอย่างรวดเร็วได้ โดยเฉพาะในเขตชานเมืองของกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องทั้งในแง่ของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและความต้องการที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้นในพื้นที่เหล่านี้

ปัจจัยหลักที่ผลักดันราคาที่ดิน

การขยายตัวของราคาที่ดินในโซนชานเมืองได้รับแรงผลักดันจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ อาทิ การสร้างถนนทางหลวงและทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ที่ทำให้การเดินทางเข้า-ออกกรุงเทพฯ สะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งทำให้พื้นที่เหล่านี้กลายเป็นจุดสนใจของนักลงทุนและผู้ประกอบการอสังหาฯ ที่มองหาทำเลราคายังไม่สูงนัก แต่มีศักยภาพในการพัฒนาเป็นโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบที่สอดคล้องกับกำลังซื้อของกลุ่มผู้บริโภค

ในขณะเดียวกัน ราคาที่ดินในกรุงเทพฯ ชั้นในกลับมีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เหลือไม่มากแล้วสำหรับการพัฒนา ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นที่ดินขนาดไม่ใหญ่แต่มีมูลค่าสูง โดยมักถูกพัฒนาเป็นโครงการ Mixed-use ที่ประกอบด้วย อาคารสำนักงาน อาคารพาณิชย์ และอาคารชุดที่ใช้สำหรับที่อยู่อาศัย
 

5 ทำเลที่ดินราคาพุ่งสูงสุด

นครปฐม  ทำเลนี้ครองอันดับ 1 ด้วยอัตราการเพิ่มขึ้นของราคาที่ดินสูงถึง 59.6% ถือเป็นการเติบโตที่โดดเด่น เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่เชื่อมต่อกับกรุงเทพฯ และกำลังได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการคมนาคมและการขยายตัวของเมือง
สมุทรสาคร   รั้งอันดับ 2 ด้วยการเติบโตของราคาที่ดินที่ 44.2% ซึ่งสมุทรสาครกำลังเป็นที่นิยมสำหรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมและที่อยู่อาศัยเชิงพาณิชย์ ทำให้ราคาที่ดินในพื้นที่นี้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เมืองปทุมธานี-ลาดหลุมแก้ว-สามโคก  คิดเป็นการเพิ่มขึ้นของราคาที่ดิน 27.3% เป็นอีกหนึ่งทำเลที่เติบโตเร็วจากการพัฒนาทางการคมนาคมและโครงการที่อยู่อาศัยที่หลากหลาย
 

กรุงเทพชั้นใน  พื้นที่ยอดนิยมในกรุงเทพฯ เช่น จตุจักร ห้วยขวาง ยานนาวา วัฒนา และอื่น ๆ มีการเพิ่มขึ้นของราคาที่ดิน 16.4% แม้ราคาจะสูงแล้ว แต่พื้นที่เหล่านี้ยังคงเป็นจุดหมายสำคัญ

สำหรับการพัฒนาโครงการใหม่

บางเขน-สายไหม-ดอนเมือง-หลักสี่-มีนบุรี-หนองจอก-คลองสามวา-ลาดกระบัง ราคาที่ดินในโซนนี้เพิ่มขึ้นในอัตรา 14.1% โดยเป็นพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในปัจจุบัน

แนวโน้มและโอกาสในการลงทุน

การที่ราคาที่ดินในพื้นที่ชานเมืองเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงปีที่ผ่านมา สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นในตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ได้รับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการเชื่อมโยงการเดินทางที่ดีขึ้น ทำให้ทำเลเหล่านี้กลายเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในการลงทุนที่น่าสนใจอย่างมาก

ในขณะที่ราคาที่ดินในกรุงเทพฯ ชั้นในอาจมีอัตราการเติบโตที่ต่ำกว่า แต่ความต้องการในพื้นที่เหล่านี้ยังคงสูง โดยเฉพาะในโครงการ Mixed-use ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ การลงทุนในทำเลที่ดินเหล่านี้จึงยังคงมีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีในอนาคต

การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ที่มีการขยายตัวของราคาแบบนี้ จึงถือเป็นโอกาสที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหาทำเลที่มีศักยภาพในการเติบโต และสามารถสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนในระยะยาว