ชีวาทัยสำรองเงินรับมือหุ้นกู้ รุกสร้างวินัยการเงินGen Zแก้กับดักหนี้

บุญ ชุน เกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) ยอมรับว่า ปัจจุบันสภาวะตลาดหุ้นกู้มีความท้าทายสูง บริษัทปรับแผนด้วยการจะเปิดขายหุ้นกู้ก่อนถึงกำหนดชำระ 2-3 สัปดาห์ ขณะเดียวกันเตรียมเงินสำรองไว้ล่วงหน้าอย่างน้อย 50% ของมูลค่าที่จะครบกำหนดชำระเผื่อใช้หากหุ้นกู้ที่เปิดขายไม่สามารถขายได้หมด ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรกที่ใช้วิธีนี้ในการเตรียมความพร้อมจ่ายหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดชำระ

   “ที่ผ่านมาเราเคยประสบปัญหาหุ้นกู้ขายไม่หมด แต่ก็ยังมีเงินสำรองในการจ่าย สถานการณ์ดังกล่าวทำให้เรามีวินัยด้านการเงินมากขึ้น แต่ก็หวังว่าสถานการณ์แบบนั้นจะเกิดแค่ชั่วคราวและปีหน้าความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นกู้จะดีขึ้น”

บุญ กล่าว กล่าวต่อว่า ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ แนวทางการบริหารจัดการเน้นระมัดระวังการลงทุน บริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ เพื่อความอยู่รอดในระยะยาว กรณีหุ้นกู้มีปัญหา อาจต้องการหาเงินกู้จากต่างประเทศ รวมถึงการร่วมทุนในการพัฒนาโครงการกับพันธมิตร เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ ในมุมของ ชีวาทัย มีความท้าทายต่อเนื่อง โดยเฉพาะปัญหาหนี้สินครัวเรือนที่สูงขึ้น! ถือเป็น ”ปัจจัยลบ” ที่สร้างความกังวลมาก อยากให้รัฐบาลออกมาตรการหรือนโยบายช่วยเหลือประชาชนในระยะสั้นก่อน เพื่อป้องกันปัญหาลุกลาม ขณะเดียวกันอยากให้ผู้บริโภคตระหนักถึงการมีวินัยทางการเงินมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นความหวังของประเทศ เพราะที่ผ่านมาพบว่า คนรุ่นใหม่มีภาระหนี้สูงสวนทางรายได้ ทำให้ไม่สามารถกู้สินเชื่อบ้านได้

จาก “pain point” ดังกล่าวเป็นที่มาของโครงการ “Chewa Exclusive Talk” กิจกรรมให้ความรู้ทางการเงินกับ นิสิต นักศึกษาปี 3 และปี 4 ตามมหาวิทยาลัยต่างๆ เน้นให้ความรู้เพื่อเป็นแนวทางหลังจบการศึกษาในการเตรียมตัวทำงานและวางแผนการเงิน สร้างความมีวินัยทางการเงินของคนรุ่นใหม่ ช่วงที่ผ่านมาได้จัดกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, เกษตร, หอการค้า, สยาม, หัวเฉียว และ เอเชีย ในเดือน พ.ย. จัดที่มหาวิทยาลัยมหิดล และอนาคตจะทำหลักสูตรร่วมกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในสาขาวิชาเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์

"กิจกรรมนี้ส่วนหนึ่งถือเป็นการทำ CSR ทำให้แบรนด์ชีวาทัย เป็นที่รู้จักมากขึ้น อยากให้เด็กรุ่นใหม่มีวินัยทางการเงินมากขึ้นเพราะทำให้ปัญหาหนี้สินครัวเรือนของประเทศลดลงได้ยั่งยืน สุดท้ายจะส่งผลดีต่อธุรกิจทางอ้อม"

สำหรับผลการดำเนินงานช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 มีรายได้รวม 1,300 ล้านบาท ไตรมาส 3 มีรายได้ 536 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนเป็นผลมาจากยอดโอนกรรมสิทธิ์โครงการคอนโดมิเนียม 349 ล้านบาท อาทิ ชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค ลาดพร้าว-โชคชัย 4 เฟส 2 และ แนวราบ 6 โครงการ มูลค่า 152 ล้านบาท โครงการบ้านมือสอง มูลค่า 17 ล้านบาท และรายได้อื่นๆ 17 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทมียอดรอโอน (Backlog) 1,195 ล้านบาท เป็นโครงการแนวราบ 249 ล้านบาท แนวสูง 948 ล้านบาท

แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2567 น่าจะดีกว่าปีนี้ เพราะทิศทางดอกเบี้ยน่าจะไม่ปรับขึ้นสูงไปกว่านี้ และคาดว่ารัฐบาลจะมีมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์