KANNAแอปฯสัญชาติญี่ปุ่นรุกตลาดอสังหาฯไทย

KANNAแอปฯสัญชาติญี่ปุ่นรุกตลาดอสังหาฯไทย

KANNAสบช่องวงการก่อสร้าง ธุรกิจอสังหาฯไทยปรับตัวใช้เทคโนโลยี Digital Transformation นำเสนอแอปพลิเคชันบริหารโครงการก่อสร้างสัญชาติญี่ปุ่นรุกตลาดเพื่อเป็นเครื่องมือบริหารโครงการ และช่วยลดความสูญเสีย

นายฮิคารุ นากายามา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Aldagram Inc. สตาร์ทอัพสัญชาติญี่ปุ่นผู้พัฒนา “KANNA” แอปพลิเคชันบริหารจัดการโครงการก่อสร้าง กล่าวว่า ภาพรวมของเครื่องมือที่ใช้ในการบริหารจัดการโครงการต่าง ๆ ที่ผ่านมามักจะพบปัญหาการรับข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน รวมถึงการถ่ายทอดข้อมูลที่ไม่ราบรื่นระหว่างโครงการก่อสร้างกับบริษัทส่งผลให้การบริหารโครงการทำได้ค่อนข้างยาก ผิดพลาดง่าย

ซึ่งในประเทศญี่ปุ่นมีค่าใช้จ่ายก่อสร้างสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก เนื่องจากจำนวนแรงงาน"ลดลง"อย่างต่อเนื่องจากอัตราการเกิดที่น้อยลง และประชากรสูงอายุมีจำนวนเพิ่มขึ้น เป็นจุดเริ่มต้นของ Aldagram Inc. ในการคิดค้นและพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อช่วยให้การส่งมอบงานที่มีคุณภาพ ทำทันตามกำหนดเวลาที่ตั้งไว้ และสามารถควบคุมต้นทุนได้ด้วย

โดยได้เปิดตัวในปี2563 และได้พัฒนาระบบที่สามารถรองรับภาษาอังกฤษในปี 2565 ที่ผ่านมาเพื่อขยายกลุ่มผู้ใช้งานนอกประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งได้เพิ่มรองรับการใช้งานในภาษาไทยและภาษาสเปนด้วย ไม่เพียงแต่ใช้งานสำหรับกลุ่มบริษัทก่อสร้างเท่านั้น ได้ขยายกลุ่มผู้ใช้ในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นอีกด้วยส่งผลปัจจุบันมีผู้ใช้งาน“KANNA”มากกว่า 20,000บริษัท จากกว่า10ประเทศทั่วโลก เช่น ญี่ปุ่น ดูไบ อังกฤษ อินเดีย ออสเตรเลีย สเปน ไทย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เวียดนาม เคนย่า และยูกันดา

สำหรับแอปพลิเคชัน “KANNA” มีจุดเด่นที่การควบคุมคุณภาพ การบริหารจัดการต้นทุน และการส่งมอบงานตามกำหนด ด้วยการบริหารจัดการงานตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ให้สามารถเชื่อมข้อมูลการทำงานทุกแผนกผ่านแพลตฟอร์มในแอปพลิเคชันเดียว ในรูปแบบของแอปพลิเคชันที่เข้าถึงได้ง่าย ส่งผลดีต่อผู้ปฏิบัติงานให้สามารถบริหารจัดการโครงการ พร้อมกับแชร์และเรียกดูข้อมูลได้ตลอดเวลา ลดปัญหาหน้างาน สื่อสารได้รวดเร็ว และจัดเก็บเอกสารบนแพลตฟอร์มที่แม่นยำ พร้อมระบบการรักษาความปลอดภัยขั้นสูง

ทุกวันนี้การใช้เทคโนโลยี Digital Transformation มีความจำเป็นในวงการก่อสร้างไทยมากขึ้น เพราะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต้องปรับตัวอย่างมากหลังการฟื้นตัวจากวิกฤติโควิด-19 โดยเฉพาะความรวดเร็วในการดำเนินงานก่อสร้าง เพื่อให้ทันกับการขยายตัวของระบบสาธารณูปโภค ขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ ระบบรางและถนน รวมถึงเมกะโปรเจกต์ต่าง ๆ ที่กระจายตัวไปตามจังหวัดใหญ่ ๆ มากขึ้น จึงได้เตรียมจัดตั้งสำนักงานตัวแทนในประเทศไทยเพื่อรองรับธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์