ภูเก็ตแตก!รัสเซียคัมแบ็คจีนจ่อช้อปสวนทุเรียนต่อ

แฟรงก์ ข่าน  กรรมการบริหารและหัวหน้าฝ่ายที่พักอาศัย ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย กล่าวว่า  ตลาดอสังหาฯ ในปี 2566 มีสัญญาณเชิงบวกในการเติบโตจากโครงการใหม่หลายแห่งที่กำลังจะเปิดตัว ซึ่งเป็นผลมาจากความเชื่อมั่นของผู้ซื้อที่สูงขึ้นจากสถานการณ์การเปิดประเทศจีนและ การเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น  ในส่วนโครงการคอนโดเปิดใหม่และการขายต่อคอนโดหรูหลายแห่งมีผลประกอบการที่ดีและเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป 

• คอนโดวิทยุ หลังสวน เอกมัยฮอต 

โดยในไตรมาสที่ 1 ปี 2566 การขายต่อคอนโด มีความต้องการและยอดขายสูงในทำเลวิทยุ หลังสวน และเอกมัย ซึ่งรับอานิสงส์กำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นจากต่างชาติหลังการผ่อนคลายมาตรการโควิด-19  ประกอบกับผู้ประกอบการส่วนใหญ่กระตุ้นการขายด้วยส่วนลดประมาณ 15 % เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ

นอกจากนี้ ผลสำรวจบ้านระดับบนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล พบว่าบ้านราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทถึง 100 ล้านบาทขึ้นไป มียอดขาย 19,476 ยูนิต คิดเป็นยอดขาย 79.2 % จากทั้งหมด 24,602 ยูนิต  แต่อย่างไรก็ดีในส่วนตลาดคอนโดในกลุ่ม Branded Resident ยังมีอัตราการขายดีต่อเนื่อง ทั้งนี้จากเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง ทั้งคนไทย สิงคโปร์ ฮ่องกง ที่ต้องการเพื่ออยู่อาศัยและลงทุนระยะยาวในทำเลที่หายาก

• กำลังซื้อรัสเซีย-จีนฟื้นอสังหาฯภูเก็ต

 ส่วนจังหวัดภูเก็ตยังเป็นตลาดที่อยู่อาศัยเพื่อพักผ่อนที่ได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยคอนโดเปิดขายใหม่ส่วนใหญ่อยู่บริเวณหาดบางเทามากถึง 45 %  รองลงมาเป็นที่หาดลายัน 31 % และอื่น ๆ ภาพรวมตลาดคอนโดในภูเก็ตปลายปี 2565 ขายได้ 18,613 ยูนิต จาก 24,211 ยูนิต ในปี 2564  ปัจจุบันมียูนิตเหลือขายอยู่ในตลาด 5,598 ยูนิต คาดว่าตลาดจะกลับสู่ภาวะปกติเหมือนช่วงก่อนวิกฤตโควิด-19 ภายใน 1-2 ปี 

แฟรงก์ ระบุว่า ทิศทางตลาดวิลล่ามีแนวโน้มสดใส อุปสงค์และอุปทานเติบโตทั้งการซื้อและเช่า จากกำลังซื้อที่เกิดขึ้นพบว่าชาวต่างชาติบางคนสนใจซื้อบ้านที่ภูเก็ตไว้เป็นบ้านหลังที่สอง ขณะที่บางคนสนใจเช่าวิลล่ามากกว่าคอนโดเพราะต้องการสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับครอบครัว และยังสามารถปล่อยเช่า สร้างผลตอบแทนได้ 8-10 % ต่อปี 

ในช่วงปลายปี 2565 วิลล่าในภูเก็ต ขายได้ 3,595 จากทั้งหมด 4,375 ยูนิต คิดเป็นอัตราขาย 82.1% เพิ่มขึ้น 1% จากปี 2564 ที่มียูนิตใหม่ขายได้ 341 หลัง จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาดวิลล่าเป็นผลมาจากนักท่องเที่ยวรัสเซียเดินทางเข้ามาในไทยด้วยเหตุผลต้องการหนีภาวะสงคราม และเพื่อท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซั่น ประกอบกับความกังวลเกี่ยวกับนโยบายของประเทศที่จะประกาศห้ามโอนเงินข้ามประเทศหรืออาญัติบัญชี ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถทำธุรกรรมประเภทเดบิตได้ในอนาคต 

โดยทำเลที่ได้รับความนิยมในการพัฒนาวิลล่ามากที่สุดอยู่ในพื้นที่ตำบลเชิงทะเล แม้จะไม่ติดชายหาด แต่เป็นทำเลใกล้ภูเขาและป่าไม้บรรยากาศโดยรวมเงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อนตอบโจทย์การใช้ชีวิตของชาวต่างชาติ

• ดันราคาอสังหาฯภูเก็ตขยับ15-20 %          

ณัฏฐา คหาปนะ กรรมการผู้จัดการ ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า ตลาดอสังหาฯในภูเก็ตได้รับประโยชน์จากการท่องเที่ยวฟื้นตัว โดยเฉพาะชาวรัสเซียที่มีสัดส่วนถึง 40-60%จากลูกค้าทั้งหมด หากเทียบกับเมื่อก่อนจะมีสัดส่วนเพียง 10-15%เท่านั้น   สำหรับความสนใจจะอยู่ที่ทำเลหาดกะตะ หาดกะรน หาดป่าตอง หาดกมลา หาดบางเทา เชิงทะเล (ลากูนา) และหาดในทอนส่งผลให้ราคาอสังหาฯในพื้นที่ดังกล่าวขยับขึ้นอีก 15-20 %

ทั้งนี้คาดว่าความต้องการของลูกค้ารัสเซียจะยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไปอีก 1-2 ปีข้างหน้า  ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อทำเล ราคาขาย และชื่อเสียงของผู้พัฒนาโครงการ ซึ่งนอกจากชาวรัสเซียแล้วยังมีความต้องการจากลูกค้าชาวจีนที่ต้องการซื้อเป็นบ้านหลังที่สอง หลังจากที่เกิดโควิด-19และนโยบายความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน หรือ Common Prosperityของ ปธน. สี จิ้น ผิง

“ธรรมชาติลูกค้ารัสเซียซื้ออสังหาฯเพื่ออยู่อาศัย ขณะที่คนจีนนิยมซื้อคอนโดเพื่อปล่อยเช่าคนจีนที่เข้ามาเที่ยวในภูเก็ต ซึ่งเป็นธรรมชาติของคนจีนที่ต้องการซื้อเพื่อลงทุนไม่เฉพาะคอนโด แต่ยังรวมไปถึงสวนทุเรียน เรือ ฯลฯ คาดว่า หากประเทศจีนเปิดให้คนจีนออกมาต่างประเทศมากขึ้นทำให้คนจีนเข้ามาลงทุนซื้ออสังหาฯในประเทศไทยมากขึ้น”