อาคาร 'เอ็มไพร์' ฉีกกรอบอาคารสำนักงาน ชู 'Co-Living Space' เนรมิต EA Rooftop

อาคาร 'เอ็มไพร์' ฉีกกรอบอาคารสำนักงาน ชู 'Co-Living Space' เนรมิต EA Rooftop

อาคาร "เอ็มไพร์" ชู "Co-Living Space" พลิกนิยามการใช้ชีวิต ฉีกกรอบอาคารสำนักงานยุคใหม่ พร้อมเนรมิต EA Rooftop เพื่อก้าวสู่จุดหมายปลายทางระดับโลก

เมื่อไลฟ์สไตล์การทำงานยุคใหม่เปลี่ยนไป พนักงานออฟฟิศต่างให้ความสำคัญกับ "การสร้างสมดุลแห่งการทำงานและการใช้ชีวิต" (Work-life Balance) อย่างแท้จริง ควบคู่กับการเติมคุณค่าแก่ชีวิตทุกด้าน ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว เกิดเทรนด์ความต้องการหลากหลาย "อาคารสำนักงาน" จึงต้องผันตัวเป็น "พื้นที่มอบประสบการณ์" ตอบโจทย์ชีวิตที่มากกว่าการทำงานให้น่าอยู่และคุ้มค่ากับเวลาที่พนักงานออฟฟิศจ่ายไปอย่างน้อย 1 ใน 3 ของแต่ละวัน

อาคาร "เอ็มไพร์" อาณาจักรแห่งอาคารสำนักงาน คอนเซ็ปต์ "ENERGY EXCELLENCE EXPERIENCE" เป็นหนึ่งใน 4 อาคารสำนักงานยุคใหม่ของ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC กลุ่มบริษัทผู้พัฒนาอสังหาฯ ที่มุ่งตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบครบวงจรของประเทศไทย นอกเหนือจากการตั้งบนทำเลทอง "สาทร" พื้นที่ศักยภาพย่าน CBD ใจกลางกรุงเทพฯ แล้ว อาคาร "เอ็มไพร์" ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมด้วยเทคโนโลยีทันสมัย มุ่งยกระดับความเป็นอยู่ที่ดี (Wellbeing) สะท้อนคำว่า "น่าอยู่ น่าทำงาน น่าใช้ชีวิต" ได้เป็นอย่างดี

อาคาร "เอ็มไพร์" น่าอยู่อย่างไร? มีคำตอบจาก AWC ระบุว่า ได้ให้ความสำคัญกับสภาพแวดล้อมและสุขอนามัย ด้วยระบบอาคารยั่งยืน มีการติดตั้งระบบ 3M Filter เพิ่มประสิทธิภาพของระบบอากาศ ช่วยกรองอากาศและฝุ่นละอองขนาดเล็ก ขณะเดียวกันยังมุ่งมั่นตามมาตรฐาน LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) ซึ่งเป็นมาตรฐานการประเมินอาคารสีเขียว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรของอาคารและช่วยลดผลกระทบด้านลบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัยของผู้อยู่อาศัยและผู้ใช้อาคาร รวมถึงมาตรฐาน WELL (WELL Building Standard) เป็นมาตรฐานการออกแบบที่เกี่ยวข้องกับการยกระดับสุขภาวะและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้ใช้งานอาคารผ่านการพัฒนาและยกระดับเทคโนโลยีด้านบริหารจัดการอาคารให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด ก้าวสู่เป้าหมาย "สิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น" (BETTER PLANET) มุ่งทำให้โลกมีสภาพแวดล้อมดีขึ้น เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมยกระดับวงการ อสังหาริมทรัพย์ ของไทยให้เดินหน้า "สร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่า" ตามสโลแกน "Building A Better Future" ของ AWC ตอกย้ำวิสัยทัศน์มุ่งพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์คุณภาพเพื่อสร้าง "คุณค่าระยะยาว" ให้แก่ทุกภาคส่วน

อาคาร \'เอ็มไพร์\' ฉีกกรอบอาคารสำนักงาน ชู \'Co-Living Space\' เนรมิต EA Rooftop

ด้านมาตรฐานความปลอดภัย อาคาร "เอ็มไพร์" เติมเทคโนโลยีเพื่อยกระดับความมั่นใจ ตรงเคาน์เตอร์ Reception ที่ล็อบบี้มีระบบสแกนจดจำใบหน้า ขณะที่พนักงานออฟฟิศสามารถเข้า - ออกอาคารได้อย่างสะดวก ด้วยคิวอาร์โค้ดได้ง่ายๆ บนแอปพลิเคชัน AWC Infinite Lifestyle 

สำหรับมิติ "น่าทำงาน" จิ๊กซอว์แรกคือ โลเคชันใจกลางกรุง เดินทางเชื่อมต่อได้อย่างสะดวกจากสถานีรถไฟฟ้า BTS ช่องนนทรี และรถโดยสารด่วนพิเศษ BRT สถานีสาทร ไม่บั่นทอนแรงกาย ช่วยประหยัดเวลาการเดินทาง เพราะสิ่งเหล่านี้ คือต้นทุนสำคัญที่มีผลต่อ "พลังงาน" ของเหล่าพนักงานออฟฟิศ ในการช่วยพิชิตความสำเร็จและเพิ่มประสิทธิภาพแก่องค์กร 

นอกเหนือจากความสะดวกเรื่องระบบขนส่งมวลชนแล้ว อาคาร "เอ็มไพร์" ยังตอบความต้องการผู้ใช้รถยนต์ส่วนตัว ด้วยที่จอดรถรองรับได้มากถึง 2,600 คัน นอกจากนี้บริเวณชั้นใต้ดิน B1 มีจุดให้บริการ EV Charger Station และบริการ รถยนต์ไฟฟ้า ให้เช่ารายชั่วโมง เกาะเมกะเทรนด์โลกทั้งการใช้ พลังงานสะอาด และเศรษฐกิจแบ่งปัน (Sharing Economy) ขับเคลื่อนโลกให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น

เมื่อมองจากภายนอก อาคาร "เอ็มไพร์" โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมภายนอกไล่ระดับความสูงดึงดูดสายตา ขณะที่การออกแบบภายในเน้นสไตล์โมเดิร์น บริเวณล็อบบี้เลือกใช้โทนสีขาว แสงธรรมชาติสาดส่องผ่านกระจก ขับบรรยากาศโถงกลางอันกว้างใหญ่ให้ดูกระจ่าง โปร่งโล่ง ไม่รู้สึกแออัด ส่งผลดีในเชิงจิตวิทยา ต้อนรับผู้คนในวันทำงานให้รู้สึกผ่อนคลาย

สุดท้าย มิติ "น่าใช้ชีวิต" เชื่อว่าเหล่าพนักงานออฟฟิศหลายคนน่าจะเคยประสบปัญหาความแออัดขณะพักกลางวัน แม้อาคารสำนักงานจะตั้งอยู่ในทำเลดัง รายล้อมด้วยร้านอาหารและเครื่องดื่มมากมาย แต่จะดีกว่าไหม ถ้าอาคารสำนักงานยุคใหม่ช่วยแก้ปัญหาที่ดูเหมือนน้อยนิดทว่ามหาศาลในความรู้สึก ตกผลึกแนวคิดการออกแบบที่ดีขึ้น เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

อาคาร "เอ็มไพร์" จึงฉีกกรอบแนวคิดเพื่อแก้ Pain Point ด้วยการเติมพื้นที่รีเทลขนาดใหญ่ "EmSpace" ให้คนทำงานสามารถใช้ชีวิตภายในอาคารสำนักงานแห่งนี้ได้ตั้งแต่เช้ายันค่ำ แวะเติมพลังงานระหว่างวัน มีสิ่งอำนวยความสะดวกภายในอาคารครบครัน ด้วยร้านค้าหลากหลายหมวดให้เลือกซื้อสินค้าและบริการ ทั้งร้านอาหารและเครื่องดื่มนานาชาติ ซูเปอร์มาร์เก็ต ฟู้ดคอร์ท ธนาคาร ร้านสินค้าเทคโนโลยี ร้านหนังสือ นอกจากนี้ยังมีโคเวิร์กกิ้งสเปซ พื้นที่ห้องประชุม รองรับการจัดประชุม อีเวนต์ และกิจกรรม รวมถึงคลินิกความงามและสุขภาพ ร้านขายยา และฟิตเนส ตอบไลฟ์สไตล์การดูแลใส่ใจสุขภาพของคนยุคใหม่

ล่าสุด เปิดตัว "Co-Living Collective : Empower Future" ยกระดับอาคารให้เป็นไลฟ์สไตล์สเปซแห่งใหม่ รองรับเทรนด์อนาคตของการผสมผสานการทำงานและการใช้ชีวิตเข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ โดยถือเป็นครั้งแรกของการนำพื้นที่ "Co-Living Space" รวมกว่า 1,500 ตารางเมตร บนชั้น 53 สร้าง "The Residence at Empire Co-Living" นำรูปแบบการใช้ชีวิตเหมือนอยู่บ้านมาเชื่อมต่อกับการทำงาน สร้างประสบการณ์ใหม่ให้ผู้เช่าโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เช่น ห้องนั่งเล่น พื้นที่สันทนาการเพื่อการพักผ่อน สามารถเพลิดเพลินกับเกมคอนโซล โต๊ะพูล และโต๊ะปิงปอง ห้องครัวแบบเปิดส่วนกลางและพื้นที่รับประทานอาหาร ห้องสำหรับเด็ก ห้องเปลี่ยนผ้าอ้อม และพื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยง นอกจากนี้ยังมีโซนพื้นที่ทำงานร่วมกัน ประกอบด้วย พื้นที่ส่วนกลาง และพื้นที่ทำงานส่วนตัว พื้นที่สำหรับสนทนากลุ่มและประชุม ตลอดจนโซนเพื่อการผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ ประกอบด้วย Nap Lounge สำหรับการพักผ่อนเติมพลัง ห้องอาบน้ำ และห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า โดยทยอยเผยโฉมแต่ละส่วนตลอดปี 2566

อาคาร \'เอ็มไพร์\' ฉีกกรอบอาคารสำนักงาน ชู \'Co-Living Space\' เนรมิต EA Rooftop

ในอนาคตอันใกล้ อาคาร "เอ็มไพร์" จะไม่ได้เป็นเพียงศูนย์รวมของผู้บริหาร นักธุรกิจ พนักงานออฟฟิศ และคู่ค้าบริษัทชั้นนำของไทยและบริษัทข้ามชาติที่มาตั้งสำนักงานอยู่ในอาคารเท่านั้น เพราะที่นี่กำลังจะมีแม่เหล็กใหม่ เตรียมเปิด "EA Rooftop" จุดหมายด้านอาหารและเครื่องดื่มบนยอดอาคารแห่งใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศภายในปี 2566 ด้วยพื้นที่กว่า 8,460 ตารางเมตร บนชั้น 55 - 58 รวบรวมประสบการณ์การรับประทานอาหารเหนือระดับจากหลากหลายแบรนด์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกมากมายไว้ในที่เดียว ชูแนวคิดการออกแบบ "EA" (เอ-ยา) ซึ่งแปลว่า "เสรีภาพ อากาศ การเฉลิมฉลอง" นำโดย Nobu Restaurants และอื่นๆ อีกมากมาย ตอกย้ำภาพ "CBD HANGOUT" ตัวจริงยืนหนึ่งในกรุงเทพฯ

หลังจาก AWC ผนึกความร่วมมือกับพันธมิตร Nobu Hospitality แบรนด์ไลฟ์สไตล์ระดับโลก เปิดร้านอาหาร "Nobu Restaurants" แห่งแรกและแห่งเดียวในไทย เนรมิตพื้นที่รูฟท็อปของอาคาร "เอ็มไพร์" ให้เป็นร้านอาหารรูฟท็อปขนาดใหญ่ ก้าวสู่การเป็น "จุดหมายปลายทางระดับโลก" ดึงดูดผู้คนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาเช็กอิน กินดื่ม พบปะสังสรรค์ ดื่มด่ำความมีชีวิตชีวาอันผสมผสานระหว่างธุรกิจกับไลฟ์สไตล์ ด้วยการออกแบบบริการอันโดดเด่นของ Nobu Hospitality เลือกใช้วัตถุดิบอย่างดี เสิร์ฟบริการพร้อมผสานความเป็นท้องถิ่น ให้ได้ลิ้มรสประสบการณ์กินดื่มไม่เหมือนใคร ชูแนวคิด "Kokoro" ในภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่า "ความรัก" ซึ่งเป็นหัวใจและจิตวิญญาณของแบรนด์

นอกเหนือจากประสบการณ์กินดื่มแล้ว ผู้คนที่ได้มาเยี่ยมเยือน Nobu Restaurants จะประทับใจกับวิวและบรรยากาศบนรูฟท็อป เก็บเกี่ยวความงดงามของวิวกรุงเทพฯ จากมุมสูงและคุ้งน้ำเจ้าพระยาทั้งในยามกลางวันและค่ำคืน โดยวิวจากยอดอาคาร "เอ็มไพร์" นับเป็นหนึ่งในจุดขายใหม่ ดึงดูดนักธุรกิจและนักเดินทางจากทั่วโลกมาสัมผัสประสบการณ์ใหม่บนรูฟท็อปของอาคารสำนักงานแห่งนี้ ซึ่งเป็นมากกว่าอาคารสำนักงานทั่วไป พร้อมมอบคุณค่า ช่วยสร้างสมดุลระหว่างเรื่องงานผสานกับไลฟ์สไตล์