“แอลพีเอ็น”เปลี่ยนโฟกัสพร้อมเสี่ยงจากคอนโดราคาถูกรุกตลาดบ้านหรู

“แอลพีเอ็น”เปลี่ยนโฟกัสพร้อมเสี่ยงจากคอนโดราคาถูกรุกตลาดบ้านหรู

“แอลพีเอ็น”ประกาศเปลี่ยนโฟกัสพร้อมเสี่ยงจากคอนโดราคาถูกรุกตลาดบ้านหรู เปิดตัวโครงการใหม่รวม 17 โครงการ มูลค่ารวม 1.4หมื่นล้านรายได้ 7.6พันล้านโต 20 %

5ปีที่ผ่านมาที่ผ่านมา “แอลพีเอ็น” ได้เดินหน้าปรับโครงสร้างทุกมิติเพื่อวางแผนจะเดินหน้าต่อหลังชะลอการพัฒนาโครงการ เพื่อที่ตั้งรับกับสถานการณ์ทำให้รายได้ในอนาคต จากยอดขายที่รอรับรู้รายได้ลดลง ขณะเดียวกันในแง่แบรนด์ดิ้งเริ่มเลือนหายไปจากวงการ 

"โอภาส ศรีพยัคฆ์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า  5 ที่ผ่านมาบริษัทพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเองทุกเรื่องเพื่อวางแผนจะเดินหน้าต่อ หลังจากที่ศึกษาพบว่า แอลพีเอ็นเป็นแบรนด์ที่น่าไว้ใจได้ในธุรกิจอสังหาฯ

 

" จากโมเดลเดิมของการพัฒนาโครงการใช้ สเกลคือการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่10โครงการโต 20% เทียบกับบริษัทอื่น ต้องทำโครงการ 30-40โครงการถึงจะโตได้เท่าแอลพีเอ็น และสปีดคือความสามารถควบคุมต้นทุน ลดค่าใช้จ่ายได้ ถือเป็นจุดแข็งของแอลพีเอ็น"

ปัจจุบันกลุ่มลูกค้ากลายเป็นหนุ่มสาวที่อยู่ในเจนวายจากเดิมกลุ่มเจนเอ็กซ์ ดังนั้นถ้าแอลพีเอ็นจะเดินหน้าต่อต้องปรับปรุงเรื่องเหล่านี้เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค โดยปลายปี2563 ได้เสนอแผนธุรกิจ 5ปีเพื่อให้แบรนด์“แอลพีเอ็น”กลับมายืนอยู่บนเวทีธุรกิจอสังหาฯ และกลับมายืนหนึ่งในใจของผู้บริโภคเหมือนในอดีตที่ผ่านมา

"โดยภายใน5 ปี ตั้งแต่ปี 2565-2569ควรมีรายได้รวม50,000 ล้านบาทในปี2569 เฉลี่ยปีละ10,000และกำไร 5,000ล้านบาท "

โอภาส  กล่าวว่า ธุรกิจอสังหาฯไม่ใช่โรงงานที่ของหมดไปผลิตขึ้นมาใหม่ได้ทันที ที่ผ่านมาบริษัทชะลอที่เปิดตัวโครงการใหม่ตั้งแต่ปี2562 ในช่วงเกิดโควิด-19 และพยายามที่จะรักษาเงินสด โดยปีที่ผ่านมามีสต็อกเกือบ10,000 ล้านบาทและเร่งระบบสต็อกปัจจุบันเหลือ 7,000 ล้านบาท ปีนี้เป็นปีที่สองของแผนในการพัฒนาโครงการทุกรูปแบบออกมาเพื่อขยายฐานลูกค้าภายใต้แนวคิด “Transform for Better Living” เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของคนทุกวัย และขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นผ่านการพัฒนาและการออกแบบที่อยู่อาศัยที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าในทุกระดับ เพื่อสร้างรายได้รวม 50,000 ล้านบาทตามแผนโรดแมป 5 ปี

" นอกจากเป้ารายได้ปรับภาพลักษณ์แบรนด์รวมทั้งการขยายโครงการบ้านเพิ่มขึ้นสามารถขยายพอร์ตได้พอสมควรจากเดิมที่โฟกัสไปที่ Affordableคอนโด แต่พอเซกเมนต์คอนโดที่ทำอยู่มีปัญหา บริษัทมีปัญหาตามมาด้วย ฉะนั้นต่อจากนี้ไปเราปรับจุดโฟกัสไปหลายๆจุดเพื่อลดความเสี่ยงและเดินต่อไปได้ "

ในปี 2566 แอลพีเอ็นได้วางเป้าหมายรายได้ที่ 7,600 ล้านบาทเติบโต 20 % จากปี 2565 โดยมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่รวม 17 โครงการ มูลค่ารวม 14,000 ล้านบาท  แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมจำนวน 4 โครงการ มูลค่า 5,000ล้านบาท และโครงการบ้านพักอาศัย 13 โครงการ มูลค่า 9,000 ล้านบาท โดยพร้อมเปิดพรีเซลล์ 3 โครงการที่พักอาศัยระดับพรีเมี่ยมตั้งแต่7-50ล้านบาทได้แก่ Residence 168 ราชพฤกษ์ , Maison 168 เมืองทอง และ Villa 168 เวสต์เกต

“ปี 2566 นี้จะเป็นปีแรกในรอบ 5 ปีของแอลพีเอ็นที่จะขยายการพัฒนาโครงการที่พักอาศัยในต่างจังหวัด  อีกครั้ง หลังจากที่เคยเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมในจังหวัดอุดรธานี ชลบุรี พัทยา และชะอำ มาแล้ว เนื่องจากเห็นโอกาสในการขยายการลงทุนตามการขยายตัวของเมือง เส้นทางคมนาคม และความต้องการของผู้ซื้อโดยแอลพีเอ็นจะเน้นขยายการพัฒนาโครงการไปในจังหวัดที่มีศักยภาพในการขยายตัวและกำลังซื้อสูง โดยเฉพาะในทำเลเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ” นายโอภาสกล่าว