'พันธมิตร'กุญแจความสำเร็จของโนเบิล เจาะตลาดต่างประเทศ

'พันธมิตร'กุญแจความสำเร็จของโนเบิล เจาะตลาดต่างประเทศ

เคล็ดลับความสำเร็จของโนเบิล ภายใต้การกุมบังเหียน ของ“ธงชัย บุศราพันธ์” ดึงพันธมิตร“แฟรงค์ เหลียง ”เข้ามาเสริมความแข็งแข็งแกร่ง เจาะตลาดต่างประเทศ

หลัง“ธงชัย บุศราพันธ์”กลับมาบริหาร "โนเบิล" เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2562  เมื่อ“กิตติ ธนากิจอำนวย”  ได้ขายหุ้นกับ “ธงชัย” หลานชาย สัดส่วน 23.3% เป็นการกลับสู่โนเบิลในรอบ 7 ปีของธงชัย มาพร้อมกับผู้ถือหุ้นใหม่ “บีทีเอส กรุ๊ป” ยักษ์ใหญ่ในธุรกิจระบบขนส่งมวลชน สื่อโฆษณาและอสังหาริมทรัพย์ ร่วมถือหุ้น 9.9%
    โดยมีพันธมิตรสำคัญ “ฟัลครัม โกลบอล แคปิตอล” ซึ่งมี “แฟรงค์ เหลียง ”เป็นผู้ถือหุ้นได้เข้ามาถือหุ้นโนเบิล 24.9% ผ่านการลงทุนของบริษัท เอ็นคราวน์ จำกัดตั้งแต่เดือนตุลาคม 2561 การกลับสู่โนเบิลครั้งนี้ จึงมาในนามผู้ถือหุ้นใหญ่ร่วมกับพันธมิตรและเข้ามาบริหาร   

 ภายในระยะเวลา3 ปีที่เข้ามาบริหารโนเบิล สามารถที่จะสร้างยอดขายและรายได้เติบโตขึ้นก้าวกระโดดจากยอดขาย5,000 ล้านบาทมาเป็น17,400 บาท สูงสุดในรอบ32 ปีตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมาโดยมียอดขายจากต่างชาติถึง  607 ยูนิต !!

    ธงชัย   กล่าวว่า ผลการดำเนินการและการเติบโตที่ดีของโนเบิล ส่วนหนึ่งมาจาก “แฟรงค์ เหลียง ” ซึ่งมีเชี่ยวชาญในการทำตลาดต่างประเทศ ในนามของ“ฟัลครัม โกลบอล แคปิตอล” พันธมิตรผู้ถือหุ้นหลักในโนเบิล ซึ่งเป็นกองทุนลงทุนในอสังหาฯระหว่างประเทศและพัฒนาอสังหาฯระดับโลก ดูแลโครงการในสหราชอาณาจักร จีน ญี่ปุ่น และประเทศไทย ทำให้ในปีที่ผ่านมาสามารถปิดโครงการ noble Ploenchit, noble BE33, noble Around33, noble Ambience42, NUE Cross คูคต 
    

นอกเหนือจากการขยายพอร์ตสินค้าให้มีความหลากหลายพัฒนาคอนโดมิเนียมแบรนด์ใหม่ " NUE " จุดขายคอนโดหน้ากว้าง ,ส่วนกลางจัดเต็ม และทำเลศูนย์กลางไล์สไตล์ใหม่ๆเพื่อเจาะกลุ่มตลาดกลางเข้ามากขึ้น ราคาเฉลี่ย 1-1.5 แสนบาทต่อตารางเมตร ราคา 3-7 ล้านบาทต่อยูนิต เน้นทำเลรถไฟฟ้าสายใหม่ ติดห้างสรรพสินค้าแล้วเพื่อรองรับดีมานด์และโลเคชั่นใหม่นอกเหนือจากพื้นที่กลางใจเมือง

\'พันธมิตร\'กุญแจความสำเร็จของโนเบิล เจาะตลาดต่างประเทศ

ที่สำคัญการทำตลาดต่างประเทศที่"แตกต่าง"จากคู่แข่งอย่างเห็นได้ชัดเจน ตั้งแต่ “ธงชัย บุศราพันธ์”กลับมาบริหารทำให้โนเบิลเป็นผู้นำในการทำตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะการขายคอนโดมิเนียมในต่างประเทศ แม้ในช่วงปี2563  ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการเกิดโควิด-10 สามารถขายได้ 265 ยูนิต  ปี2564   จำนวน 432  ยูนิต  ปี 2565 จำนวน  607  ยูนิต จำนวนตัวเลขเพิ่มขึ้นตามลำดับ ใกล้เคียงกับยอดขายก่อนเกิดโควิดในปี2562  ที่มียอดขายจำนวน  620ยูนิต 

\'พันธมิตร\'กุญแจความสำเร็จของโนเบิล เจาะตลาดต่างประเทศ

 สำหรับในปี 2566 การทำตลาดต่างประเทศแตกต่างจากคู่แข่งอย่างเห็นได้ชัดเจน  ยังคงให้ความสำคัญกับ " One price policy"  คือ ต่างชาติ ก็ซื้อราคาเดียวกับคนไทย และจากปัจจัยบวกของการกลับมานักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน ส่งผลดีให้กับโนเบิล ที่มีส่วนแบ่งในตลาดขายคอนโดให้กับคนต่างชาติ  60%  

\'พันธมิตร\'กุญแจความสำเร็จของโนเบิล เจาะตลาดต่างประเทศ

ซึ่งปัจจุบันมีสินค้าทั้งในกลุ่มไฮเอนด์และกลุ่มตลาดกลางมากขึ้น  สอดคล้องกับที่ แฟรงค์ ฟง คึ่น เหลียง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมของ โนเบิล ระบุว่า ปี 2566 อสังหาฯไทย มี"โอกาส"จากดีมานด์ความต้องการของลูกค้าต่างชาติที่หลากหลายมากขึ้น "ไม่ใช่" แค่คนจีน อีกต่อไป

ขณะเดียวกันจากภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics)และความไม่แน่นอนต่างๆ ทำให้พฤติกรรมการซื้ออสังหาฯไทยของคนจีน เปลี่ยนไป จากเดิมที่เน้นลงทุนเก็งกำไร มาสู่ การซื้อที่ลงทุนระยะยาว หวังผลตอบแทนจากการถือครองระยะยาวและ การมองหาบ้านหลังที่2 ทำให้อสังหาฯ ไทย กลายเป็นหมุดหมายสำคัญของคนต่างชาติที่เข้ามาซื้อเพื่อเป็นบ้านหลังที่2  

รวมทั้งแนวโน้มการลงทุนของกลุ่มกองทุนต่างประเทศเพิ่มขึ้นเช่นกัน  คาดว่า  ยอดขายจากต่างชาติในปีนี้ 6,500 ล้านบาท จากเป้าหมายที่ยอดขาย 23,000ล้านบาท และรายได้ 15,000ล้านบาท