เจาะความสำเร็จเสนาฯหลังคว้า3รางวัลพร้อมไปต่อเพื่อความยั่งยืนในทุกมิติ

เจาะความสำเร็จ ‘เสนาฯ’ หลังคว้า3รางวัลจาก PropertyGuru รางวัลแบรนด์ตอบโจทย์คนชั้นกลาง ในงาน Terrabkk และMost Innovative BrandของFuture Trends พร้อมยุทธศาสตร์ไปต่อเพื่อความยั่งยืนในทุกมิติ
ภาพของ “เสนาดีเวลลอปเม้นท์” คือบริษัทใหญ่ในวงการอสังหาฯไทยที่ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มากว่า 40 ปีและสามารถขยายอาณาจักรจนเป็นที่รู้จักทั้งในประเทศ
นอกจากมุ่งขับเคลื่อนองค์กร ผลักดัน “รายได้” และ “กำไร” อีกด้านบริษัทให้ความสำคัญกับแผนพัฒนาอย่างยั่งยืนควบคู่กันด้วยการใช้พลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ โดยเป็นอสังหาฯ เจ้าแรกที่นำแผงโซลาร์เซลล์มาติดตั้งให้กับทุกโครงการของเสนาฯ ในโครงการบ้าน ทาวน์โฮม อาคารพาณิชย์ พื้นที่ส่วนกลางคอนโด เพื่อช่วยประหยัดพลังงาน ลดมลพิษ และรักษาสิ่งแวดล้อมทำให้สังคมในโครงการ และรอบโครงการน่าอยู่อาศัยยิ่งขึ้น
ซึ่งเป้าหมายสำคัญคือการสร้าง“รายได้” และ “กำไร”จากการเติบโตของธุรกิจควบคู่ไปกับ “ความยั่งยืน” หรือ Sustainability เพื่อให้ธุรกิจแกร่งในระยะยาว
จากการดำเนินธุรกิจพร้อมภารกิจ“ลด”ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของ “เสนาฯ” ที่มุ่งมั่นมากว่า 9 ปี และสร้างความสำเร็จจนผ่านด่านจากการเป็นที่ยอมรับและจดจำ จนในปี 2565 สามารถคว้ารางวัลจาก 3 เวทีมาครอบครอง ได้แก่ Thailand Real Estate Personality of the Year Award สุดยอดด้านพลังงานยั่งยืน จาก PropertyGuru Thailand Property Awards 2022 ที่จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 17, รางวัล Excellence in Cater to Economy Group (แบรนด์ตอบโจทย์คนชั้นกลาง) ในงาน The Most Powerful Real Estate Brand ประจำปี 2022 ซึ่งจัดโดย Terrabkk และล่าสุด รางวัล Most Innovative Brand 2022 จาก Future Trends ถือเป็นการ “ตอกย้ำ” เห็นถึงผลลัพธ์จากความมุ่งมั่นในการทำงานมาอย่างต่อเนื่อง
“ทั้ง 3 รางวัลสะท้อนแบรนด์เสนาฯ ที่เป็นแบรนด์ที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย แบรนด์ที่ใส่ใจและรายละเอียดเพื่อคนที่ต้องการซื้ออยู่อาศัยจริง ๆ ถ้าให้เปรียบก็เหมือนคุณภาพดีเหมือนยูนิโคล่ หรือโลคอสต์แอร์ไลน์ รู้สึกภูมิใจที่เป็นแบบนั้น เพราะอยากให้คนสามารถมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง”
เบื้องหลังความสำเร็จ และเป้าหมายของเสนาฯต่อจากนี้ไปจะเป็นอย่างไร “ดร.ยุ้ย - เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ฉายภาพว่า ภารกิจความยั่งยืนของเสนาฯ ไม่ได้เพิ่งเริ่มต้น เพราะหลายโครงการและบริการที่ดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อมนั้นทำมานานหลายปี ตัวอย่างที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์คือการนำแผงโซลาร์เซลล์มาติดตั้งให้กับทุกโครงการของเสนาฯ ไม่ว่าจะเป็นโครงการบ้าน ทาวน์โฮม อาคารพาณิชย์ พื้นที่ส่วนกลางคอนโด เพื่อช่วยประหยัดพลังงาน ลดมลพิษ และรักษาสิ่งแวดล้อมกว่า 9 ปี จนกลายเป็นที่ ”จดจำ” ของผู้บริโภค
“ความจริงคำว่า Sustainability ไม่ได้หมายความว่า ธุรกิจไม่ได้ทำกำไรนะ ยังทำกำไรเหมือนเดิมเพียงแต่ว่าเราจะคิดอีกมิติหนึ่งมากขึ้น โดยที่สินค้าหรือบริการที่ขายจะไม่ทำร้ายฟิวเจอร์เจนเนอร์เรชั่น”
จากความท้าทายทางสังคม (Social Challenge) ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังที่ทำให้โลกเปลี่ยนไป ทั้งสภาพแวดล้อม พลังงาน สุขภาพและความเหลื่อมล้ำในทุกมิติของสังคม จึงก่อให้เกิด Mega Trend ที่เป็นแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงสำคัญของโลก เข้ามามีบทบาทในการพัฒนาธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เสนาฯ จึงก้าวไปอีกขั้นในการพัฒนาที่อยู่อาศัย และการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของความยั่งยืน เพื่อให้สอดคล้องกับ Mega Trend ของโลกในยุคปัจุบัน
“เวลาที่มองว่าอะไรเป็นโซเซียล ชาเลนท์แสดงความมันมีความเสี่ยงและเมื่อไรที่มีความเสี่ยงแสดงว่ามีโอกาสมีความต้องการในการแก้ไขและต้องการรับบริการ ซึ่งในแง่ธุรกิจแสดงว่ายังมีของให้ขาย เช่น ธุรกิจเฮลท์แคร์ บ้านมือสองเกิด เป็นต้น”
ทั้งนี้ ทางเสนาฯ ยังคงมีความพร้อมที่จะเดินหน้าติดตั้งโซลาร์ให้กับทุกโครงการ พร้อมสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ที่ช่วยลดการใช้พลังงาน เพื่อให้เป็นบ้านพลังเป็นศูนย์ “Zero Energy House (ZEH)” ตอบรับกับพฤติกรรมบริโภคยุคใหม่
เริ่มต้นพัฒนาบ้าน SENA HHP Zero Energy House (SENA HHP ZEH) ตามกรอบแนวคิดของ ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ป โดยในปี2566 เสนาฯได้เตรียมความพร้อมเพื่อก้าวไปอีกขั้นกับการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ Sustainable Development และ Net Zero Emissions
ด้วยการนำแนวคิด Zero Energy House (ZEH) จากญี่ปุ่น ซึ่งเป็นกรณีศึกษาจากพาร์ทเนอร์ คือ Hankyu Hanshin Properties Corp (HHP) มาเป็น “ต้นแบบ” ของการพัฒนาและประยุกต์ใช้ เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและวิถีชีวิตของคนไทย
โดยการเลือกใช้วัสดุที่ช่วยประหยัดพลังงาน และการออกแบบเพื่อกันความร้อน โดยมีการผลิตพลังงานหมุนเวียนหรือพลังทดแทนขึ้นใช้เอง เพื่อใช้พลังงานไฟฟ้าจากภายนอกลดลงจนเป็น “ศูนย์”
สำหรับเกณฑ์ “บ้านพลังงานเป็นศูนย์” แบ่งเป็น 4 ระดับ ได้แก่
1. SENA ZEH ลดการใช้พลังงานได้ 100% ขึ้นไป (รวมการใช้พลังงานสะอาด)
2. SENA Nearly ZEH ลดการใช้พลังงานได้ 75% ขึ้นไป (รวมการใช้พลังงานสะอาด)
3. SENA ZEH Ready ลดการใช้พลังงานได้ 50% ขึ้นไป (รวมการใช้พลังงานสะอาด)
4. SENA ZEH Oriented ลดการใช้พลังงานได้ไม่ต่ำกว่า 20% (รวมการใช้พลังงานสะอาด)
“ปีหน้าเราพร้อมไปต่อด้วยการพัฒนาโครงการใหม่ภายใต้แนวคิดนี้ออกมาเพื่อรองรับเป้าหมายลดการใช้พลังงานให้ได้ไม่ต่ำกว่า 20% รวมการใช้พลังงานสะอาดมากขึ้นเพื่อความยั่งยืนในทุกมิติ”







