'ทีโอเอ'รุกสีทาเหล็กอัลตร้าพรีเมียม

'ทีโอเอ'รุกสีทาเหล็กอัลตร้าพรีเมียม

ทีโอเอ สบช่องตลาดสีทาเหล็กบูม คนรุ่นใหม่ตื่นตัวกระแสกรีนส่ง TOA Metal Expert นวัตกรรมสีทาเหล็กแบบทูอินวันเขย่าตลาด 4 พันล้าน คาดภายใน 1 ปี ยอดขายทะลุ 100 ล้าน

นายนันทพล บุญเหลือ ผู้อำนวยการสายงานการตลาด บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TOA กล่าวว่า จากเทรนด์การก่อสร้างในประเทศไทยพบว่า “เหล็ก” ได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะมีน้ำหนักเบา และราคาถูก  โดยจากข้อมูลทางการตลาดสีน้ำมันมีมูลค่า 4,000 ล้านบาท แบ่ง 3 กลุ่ม ได้แก่ ยานพาหนะ เครื่องจักร 7% เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ 13% และ ภาคการก่อสร้าง 80% ดังนั้น ทีโอเอในฐานะเป็นผู้นำในตลาดสีที่ส่วนแบ่งการตลาด 50% จากตลาดสีมูลค่า 23,000 ล้านบาท ที่มีอัตราเติบโตปีละ 3-5%  และเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดสีน้ำมันด้วยสัดส่วน 45%

บริษัทจึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ภายใต้ TOA Metal Expertไม่ต้องทาสีรองพื้นและทินเนอร์เพื่อแก้ปัญหาทั้งในเรื่องของกลิ่นลดลง สามารถใช้งานง่ายขึ้น และมีอายุใช้งานนานขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ที่สามารถนำน้ำมาผสมได้ในลักษณะทูอินวัน เป็นการเปิดเซ็กเมนต์อัลตร้าพรีเมี่ยม ซึ่งมีราคาสูงกว่าสีทาเหล็กทั่วไป 15-20%

“แนวโน้มสีทูอินวัน ที่มีความเป็นกรีนจะได้รับความนิยมจากคนรุ่นใหม่เพิ่มขึ้น สังเกตได้จากสีทาภายใน TOA Organic Care สีทาอาคารเทคโนโลยี Bio-Based มาตรฐาน USDA จากสหรัฐ ได้การตอบรับที่ดีจนมียอดขายกว่า 100 ล้านบาทในเวลาเพียง 1 ปี"

ทั้งนี้ เพื่อตอบโจทย์ 3 กลุ่มลูกค้าได้แก่ กลุ่มลูกค้าที่ต้องการทาสีบ้านด้วยตนเอง ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักที่มีกำลังซื้อคิดเป็นสัดส่วน 60% กลุ่มช่างทาสีที่ต้องการสินค้าที่สามารถใช้งานที่หลากหลายโดยไม่ตั้งผสมน้ำมันหรือทินเนอร์ และกลุ่มดีเวลลอปเปอร์ที่ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อม ตามเทรนด์โลก คาดว่า หลังจากเปิดตัวจะสามารถทำยอดขายได้100ล้านบาท ภายใน1ปี

ปัจจุบันภาพรวมตลาดสีทาอาคารในประเทศไทยมีมูลค่ารวมประมาณ 23,000 ล้านบาท แบ่งออกได้เป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มสีน้ำทาอาคารมีมูลค่า 15,000 ล้านบาท มีสัดส่วนตลาดอยู่ที่ 65% 2.กลุ่มสีเคลือบหรือสีน้ำมัน มีมูลค่า 4,000 ล้านบาท มีสัดส่วนอยู่ที่ 18%  3.กลุ่มสีงานไม้และเฟอร์นิเจอร์มีมูลค่า 3,000 ล้านบาท มีสัดส่วน 13% และ 4.กลุ่มสีอื่นๆ เช่น สีเฉพาะทาง สีทาถนน ฯลฯ มีมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท มีสัดส่วน 40%