4สมาคมอสังหาฯเล็งชงรัฐบาลผ่อนปรนLTV-ยืดค่าโอนต่อ1ปี

4สมาคมอสังหาฯเล็งชงรัฐบาลผ่อนปรนLTV-ยืดค่าโอนต่อ1ปี

4 สมาคมอสังหาฯจ่อเข้าหารือรองนายก 'สุพัฒนพงษ์' ต้นเดือนธ.ค.ขอผ่อนปรนมาตรการ LTVพร้อมยืดเพดานลดค่าธรรมเนียมโอนต่ออีก1 ปีหวั่นปัจจัยลบรุมเร้ากระทบกำลังซื้อหนักฉุดตลาดหดตัว 20%

นายวรวุฒิ กาญจนกูล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่า  4 สมาคมอสังหาริมทรัพย์  ซึ่งประกอบด้วย สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย สมาคมอาคารชุดไทย สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร และสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน  รวมทั้งสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ได้เตรียมขอเข้าพบ นาย สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์  รองนายกรัฐมนตรี เพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ในต้นเดือนธันวาคมนี้ 

โดย 2 มาตรการ ที่อยากให้พิจารณา ทบทวน  ได้แก่ 

ขยายเวลาผ่อนปรนมาตรการ LTV ออกไปอีก 1 ปี สำหรับผู้ที่ซื้อบ้านหลังที่สองได้เต็มวงเงินกู้ 100%  
ขยายเวลามาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดทะเบียนจำนองอสังหาริมทรัพย์ 0.01% จะสิ้นสุดในสิ้นปี 2565 ขยายระเวลาออกไปอีก  และขยายเพดานราคาจากครอบคลุมบ้านราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท เป็นบ้านราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท

เนื่องจากปัจจัยลบจากปัญหาหนี้ครัวเรือน ภาวะเงินเฟ้อ ดอกเบี้ยขาขึ้น กำลังซื้อผู้บริโภคเปราะบางเริ่มมีสัญญาณรุนแรงมากขึ้นในปีหน้า จะส่งผลกระทบกับภาพรวมของตลาดอสังหาฯ  ไม่นับรวมต้นทุนการก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นการยุติมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐเพื่อกระตุ้นอสังหาฯ
จะส่งกระทบกลุ่มผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยในระดับราคาบ้านกลาง-ล่าง เป็นเรียลดีมานด์ 


 

ข้อเสนอดังกล่าวสอดคล้องกับ ที่ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ได้นำเสนอ ผลการวิเคราะห์ ว่า  แนวโน้มตลาดอส่งหาริมทรัพย์ในส่วนของที่อยู่อาศัยปี 2566 จะมีแรงกดดันสำคัญ จากการไม่ต่ออายุการผ่อนคลายมาตรการเงินดาวน์ขั้นต่ำในการขอสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย หรือ LTV อาจส่งผลให้ผู้ประกอบการชะลอการเปิดตัวโครงการใหม่  และจะส่งผลให้การโอนกรรมส์ทธิ์ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศในปี 2566 อยู่ที่ 320,227 หน่วย มูลค่า 9.53 แสนล้านบาท ลดลง 14.2% และลดลง 4.4% ตามลำดับ 

โดยเสนอให้รัฐบาลพิจารณา ยืดมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดทะเบียนจำนองอสังหาริมทรัพย์ 0.01% ที่จะหมด 31 ธ.ค.2565 ออกไปอีก 1 ปี เพื่อเป็นการบรรเทา จูงใจการซื้อที่อยู่อาศัยของคนไทยในช่วงปี 2566 และ ขอให้ขยายเพดานราคา จากครอบคลุมไม่เกิน 3 ล้านบาท เป็นไม่เกิน 5 ล้านบาท ทั้งบ้านใหม่ และ บ้านมือสอง เพื่อลดผลกระทบของทิศทางตลาดในปี 2566 เพราะไม่เช่นนั้นตลาดอาจหดตัวมากกว่า 20%