“วันทูวัน คอนแทคส์” ตอกย้ำอันดับ 1 ในธุรกิจ

“วันทูวัน คอนแทคส์” ตอกย้ำอันดับ 1 ในธุรกิจ

ด้วยรางวัลสุดยอดคอนแทคส์เซ็นเตอร์ในระดับเอเชีย 7 ปีซ้อน

OTO ประกาศยืน 1 ในธุรกิจคอนแทคส์เซ็นเตอร์ด้วยรางวัลการันตีความสามารถ 7 ปีซ้อน พร้อมลุยธุรกิจต่อเนื่อง มุ่งสู่การเป็นผู้ให้บริการคอนแทคส์เซ็นเตอร์ในรูปแบบของ Digital Customer Management Solutions เต็มตัว ปีนี้ตั้งเป้าเติบโตเพิ่มขึ้น 20% เปอร์เซ็นต์ ด้วยการรุก New Service และ New Market เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจในการสร้างรายได้ต่อเนื่อง พร้อมเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า

1_64

นางสุกัญญา วนิชจักร์วงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการจัดการด้านธุรกิจและบริการลูกค้าด้วยระบบดิจิตอลแบบครบวงจร ทั้งในรูปแบบของ Voice และ Non-voice ในหลากหลายช่องทาง เปิดเผยว่า “บริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ OTO ได้รับรางวัลระดับ เอเชีย “2019 Thailand Outsourced Contact Center Service Provider of the Year” ติดต่อกันเป็นปีที่ 7 จากเวที 2019 Frost & Sullivan Thailand Excellence Awards ที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบโดยองค์กรที่ให้คำปรึกษาและวิจัยระดับโลกเป็นผู้คัดเลือกและตัดสินมอบรางวัลให้แก่บริษัทที่มีความโดดเด่นและเป็นเลิศในการครองส่วนแบ่งทางการตลาดได้มากที่สุดในอุตสาหกรรมของตนเองภายในปีนั้น ๆ รวมถึงมีการบริหารจัดการองค์กรที่ดี มีการสรรสร้างและพัฒนาผลิตภัณฑ์การให้บริการที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดทั้งในปัจจุบันและอนาคต การได้รับรางวัลดังกล่าวจึงเป็นเครื่องพิสูจน์และยืนยันว่า OTO เป็นที่หนึ่งในธุรกิจด้านคอนแทคส์เซ็นเตอร์และการบริหารจัดการลูกค้าตามมาตรฐานระดับสากล

ทั้งนี้ OTO เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจคอนแทคส์เซ็นเตอร์มานานถึง 19 ปี เติบโตมาอย่างต่อเนื่อง และสามารถครองส่วนแบ่งตลาดถึง 27 เปอร์เซ็นต์ มีลูกค้าที่ให้บริการครอบคลุมทุกกลุ่มอุตสาหกรรม อาทิ กลุ่มประกัน กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มสายการบิน กลุ่มอาหารและสุขภาพ เป็นลูกค้ารายย่อยไปจนถึงลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ รวมแล้วกว่า 80 รายในปัจจุบัน ปัจจัยหนุนที่ทำให้ธุรกิจของ OTO เติบโต มาจากองค์กรต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชน ล้วนให้ความสำคัญต่อคุณภาพการให้บริการลูกค้าอย่างต่อเนื่องที่ และต่างให้การยอมรับในการใช้บริการ Outsource Contact Center มากยิ่งขึ้น เพราะนอกจากความเป็นมืออาชีพในการให้บริการแล้ว ยังมองที่เป้าหมายทางธุรกิจของลูกค้าเป็นหลัก ว่าจะเป็นการเพิ่มความพึงพอใจ การเพิ่มยอดขาย หรือ ทำการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ นอกจากนี้การใช้บริการในรูปแบบ Outsource นั้นยังช่วยลดขั้นตอนและงบประมาณในการลงทุน ทั้งยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการได้ดีและคล่องตัวกว่า อีกทั้งองค์กรผู้ใช้บริการยังสามารถทุ่มเทเวลาเพื่อพัฒนาธุรกิจหลักของตนเองได้อย่างเต็มที่

ด้านรายได้ ปีนี้ OTO ตั้งเป้าเติบโตที่ 20 เปอร์เซ็นต์ โดยยังคงเน้นลูกค้าภาครัฐและ ภาคเอกชน มุ่งเน้นไปที่กลุ่มธนาคารและกลุ่มธุรกิจประกัน โดยวาง 2 แนวรุก เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ คือ New Service มุ่งพัฒนาสินค้า และบริการด้านธุรกิจคอนแทคส์เซ็นเตอร์ที่เป็น Digital Customer Management Solutions อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมาได้มีการจัดตั้งบริษัทย่อย ชื่อ “บริษัท อินโน ฮับ จำกัด” เพื่อดำเนินการวิจัยและพัฒนาซอฟต์แวร์ และนวัตกรรมใหม่ๆ รองรับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และพฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อต่อยอดธุรกิจ Contact Center เช่น การให้บริการ Voice AI, การนำ Chatbot มาให้บริการสอบถามข้อมูลผ่านช่องทาง Line Connect, facebook และ website ที่ช่วยลดระยะเวลา และค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้า New Market โดยการร่วมมือกับ partner อย่างเป็นทางการกับ LINE Company (Thailand) Limited ในโครงการ LINE Customer Connect, LINE for Government Tech, AWS, และอื่นๆ อีกมากมาย

OTO ตั้งใจพัฒนาเทคโนโลยีให้ทันกับยุคสมัย และพร้อมให้บริการคอนแทคส์เซ็นเตอร์ในรูปแบบของ Digital Customer Management Solutions อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยบริการที่หลากหลาย ด้วยการผนวกของ Human ผสมผสานกับ Bots ออกมาเป็น Solutions ที่เหมาะสมกับลูกค้าได้มากที่สุด บวกกับรางวัลรับรองมาตรฐานต่างๆ ทั้ง Outsourced Contact Center Service Provider of the Year รวมถึงมาตรฐานการให้บริการและมาตรฐานการบริหารจัดการภายในระดับโลก ทั้ง ISO 9001 , ISO 20000 , ISO/IEC 27001 , CMMI Level 3 จะเป็นสิ่งที่สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่าจะได้รับบริการที่ดีที่สุด และคุ้มค่าที่สุด