GISTDA จับมือ จีไอเอส เดินหน้าพลิกโฉมพัฒนาประเทศด้วยข้อมูลเชิงพื้นที่

1 ธันวาคม 2568 สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA จับมือ บริษัท จีไอเอส จำกัด ผู้นำด้านการให้บริการระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์แบบครบวงจร ในกลุ่มบริษัทซีดีจี ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อยกระดับมาตรฐานข้อมูลเชิงพื้นที่ของประเทศ พัฒนาโซลูชันรองรับภารกิจสำคัญ ยกระดับทักษะบุคลากร วางรากฐานการพัฒนาที่ตอบโจทย์ทุกภาคส่วน พร้อมเดินหน้าสู่เป้าหมายการยกระดับเทคโนโลยี GIS ให้เป็นโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศ

ทั้งสององค์กรจะร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีผ่านการบูรณาการข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมและข้อมูลเชิงพื้นที่ เพื่อสนับสนุนการทำงานของทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคส่วนอื่นๆ อย่างมีประสิทธิภาพ โดยบริษัท จีไอเอส จำกัด และ GISTDA ร่วมกันขยายศักยภาพการใช้เทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ ประยุกต์สร้างโซลูชันที่เหมาะสมกับแต่ละภารกิจ ผ่านโครงการในทุกมิติ ตั้งแต่โครงการระยะสั้นเพื่อรองรับงานเร่งด่วน ระยะกลางเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ ไปจนถึงโครงการระยะยาวเพื่อวางรากฐานข้อมูลของประเทศให้แข็งแกร่ง รองรับการขับเคลื่อนการพัฒนาระดับชาติในอนาคต

ดร.ธนพร ฐิติสวัสดิ์ ประธานบริษัท จีไอเอส จำกัด กล่าวว่า เราพร้อมนำเทคโนโลยีและโซลูชันด้านระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ที่เรามีความเชี่ยวชาญ มาช่วยต่อยอดข้อมูลที่มีคุณค่าจาก GISTDA ให้ถูกนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงในทุกภารกิจ เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการทำงานและระบบบริหารจัดการประเทศให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม ความร่วมมือครั้งนี้จึงเป็นการผสานจุดแข็งของระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อสร้างรากฐานข้อมูลที่เชื่อมโยงและรองรับการพัฒนาระบบดิจิทัลของประเทศในระยะยาว ทำให้เทคโนโลยีสารสนเทศภูมิศาสตร์ ไม่ใช่เพียงเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลเท่านั้น แต่เป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศให้ก้าวหน้าอย่างมีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ประชาชนได้อย่างแท้จริง

ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการ GISTDA กล่าวว่า GISTDA มุ่งผลักดันให้ข้อมูลอวกาศและภูมิสารสนเทศเป็นฐานข้อมูลกลางที่ประเทศใช้ร่วมกันอย่างมีมาตรฐาน เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจเชิงนโยบายบนพื้นฐานข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้าน ความร่วมมือกับ บริษัท จีไอเอส จำกัด ครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญในการต่อยอดข้อมูลเชิงพื้นที่และข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมของ GISTDA ด้วยเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญจากภาคเอกชน ทำให้ข้อมูลเหล่านี้ถูกนำไปใช้งานจริงในหลากหลายภารกิจ ตั้งแต่การบริหารจัดการภาครัฐ การพัฒนาและวางแผนเมือง การวางรากฐานการพัฒนาที่ตอบโจทย์ทุกภาคส่วน เดินหน้าสู่เป้าหมายการยกระดับเทคโนโลยี GIS ให้เป็นโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของชาติร่วมกัน ไปจนถึงการพัฒนาโซลูชันที่ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในระยะยาว

ทั้งนี้ บันทึกข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำพลังของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อเป้าหมายในการต่อยอดข้อมูลสารสนเทศภูมิศาสตร์ของประเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุดในทุกมิติ พร้อมสร้างกลไกการดำเนินงานที่ยั่งยืนและต่อเนื่องในอนาคต การผนึกกำลังครั้งนี้ยังสะท้อนพันธกิจระยะยาวของทั้งสององค์กรในการผลักดันเทคโนโลยีสารสนเทศภูมิศาสตร์ให้ก้าวขึ้นเป็นโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศ ที่เชื่อมโยงการทำงานระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคสังคมเข้าด้วยกัน อันเป็นรากฐานสำคัญสู่การพัฒนาประเทศอย่างมีทิศทาง เปลี่ยนข้อมูลเชิงพื้นที่ให้กลายเป็นพลังในการตัดสินใจระดับชาติ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและสังคมให้ดียิ่งขึ้น