กรมพัฒนาที่ดิน หนุนเกษตรกรทำเกษตรรักษ์โลก ไม่เผาฟางและตอซังพืช

กรมพัฒนาที่ดิน หนุนเกษตรกรทำเกษตรรักษ์โลก ไม่เผาฟางและตอซังพืช

กรมพัฒนาที่ดิน Kick Off "ไถกลบแทนเผา บรรเทามลพิษ พิชิตหมอกควัน" หนุนเกษตรกรทำเกษตรรักษ์โลก ไม่เผาฟางและตอซังพืช เป้าหมายลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิให้เป็นศูนย์ภายในปี พ.ศ. 2613

24 มกราคม 2566 นายประยูรอินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานพิธีเปิดงาน "ไถกลบแทนเผา บรรเทามลพิษ พิชิตหมอกควัน" ปีงบประมาณ 2566 ซึ่ง กรมพัฒนาที่ดิน จัดขึ้นโดยมีศูนย์กลางการจัดงาน ณ บ้านกลาง หมู่ที่ 2 ตำบลยุหว่า อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับ 55 จังหวัด ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดการเผา (Hot Spot) ทั่วประเทศโดยการถ่ายทอดสดพร้อมกัน ผ่านระบบ Zoom conference Meeting และ Facebook live ผ่านเพจ กรมพัฒนาที่ดิน โดยในพิธีเปิดมี นายปราโมทย์ ยาใจ อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าวรายงาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวต้อนรับ ท่ามกลางผู้ร่วมงานประกอบด้วย ผู้บริหารกรมพัฒนาที่ดิน ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่ดิน ผู้อำนวยการสถานีพัฒนาที่ดิน ผู้แทนจากหน่วยงานราชการ ภาคเอกชน ผู้นำชุมชน หมอดินอาสา และเกษตรกร รวมผู้ร่วมงานในพื้นที่ 56 จังหวัดทั้งสิ้นกว่า 10,000 ราย

นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ให้ความสำคัญกับการพร้อมขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผาในพื้นที่เกษตรกรรมให้บรรลุตามเป้าหมายการลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิให้เป็นศูนย์ภายในปี พ.ศ. 2613 ตามที่ได้ให้คำมั่นไว้ในเวทีโลก กรมพัฒนาที่ดินในฐานะหน่วยงานที่ร่วมส่งเสริมการ ลดก๊าซเรือนกระจก ในพื้นที่เกษตร ได้ส่งเสริมให้เกษตรกร ลด ละ เลิก การเผาเศษวัสดุทางการเกษตร เปลี่ยนมาใช้วิธีการไถกลบตอซังพืชแทนการเผา เพื่อหยุดยั้งปัญหาการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการเผาวัสดุทางการเกษตร ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สุขภาพของประชาชน เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศ
 

ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวต่อว่า การจัดงาน "ไถกลบแทนเผา บรรเทามลพิษ พิชิตหมอกควัน" ปีงบประมาณ 2566 ในครั้งนี้ นับเป็นนิมิตรหมายที่ดีที่ทุกภาคส่วนได้ร่วมมือกันทุกวิถีทางเพื่อหยุดการเผาในพื้นที่เกษตรกรรม สนับสนุนและผลักดันกิจกรรมของทุกหน่วยงานเพื่อให้เกิดความตระหนักรู้ถึงปัญหาจากการเผาที่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรดิน จึงขอให้ทุกคนร่วมแรงร่วมใจไถกลบแทนเผา บรรเทามลพิษ พิชิตหมอกควัน เพื่อนำมาซึ่งความมั่นคงของเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยต่อไป

นายปราโมทย์  ยาใจ อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าวว่า ประเทศไทยประสบปัญหา มลพิษทางอากาศ ซึ่งสาเหตุหนึ่งเกิดจากการเผาวัสดุทางการเกษตรและพื้นที่ป่าไม้ เพื่อเตรียมแปลงปลูกพืชในฤดูถัดไป การที่เกษตรกรเลือกใช้วิธีการกำจัดเศษวัสดุโดยวิธีการเผา เนื่องจากเกษตรกรไม่มีทุนเพิ่มเพื่อกำจัดเศษวัสดุในวิธีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งการเผาเศษวัสดุเป็นการสร้างมลพิษทางอากาศนำไปสู่ ภาวะโลกร้อน พื้นที่ป่าเสื่อมโทรม สูญเสียอินทรียวัตถุและธาตุอาหารในดิน ทำลายโครงสร้างดินที่เหมาะสม และทำลายห่วงโซ่อาหาร

นายปราโมทย์ กล่าวต่อไปว่า กรมพัฒนาที่ดิน เป็นหน่วยงานสำคัญที่ส่งเสริมให้เกษตรกร ลด ละ เลิก การเผาเศษวัสดุทางการเกษตร ซึ่งการจัดงาน "ไถกลบแทนเผา บรรเทามลพิษ พิชิตหมอกควัน" ปีงบประมาณ 2566 เพื่อสร้างความตระหนักให้เกษตรกรทำเกษตรกรรมที่ไม่เผาฟางและตอซังพืช ช่วยให้คุณสมบัติของดินดีไม่ถูกทำลาย เพิ่มอินทรียวัตถุในดิน และสามารถใช้ประโยชน์ที่ดินได้อย่างเหมาะสมและยั่งยืน รวมทั้งช่วยลดปัญหาหมอกควันและฝุ่นละออง และลดผลกระทบต่อการเกิด ภาวะโลกร้อน

ภายในงานมีการจัดแสดงนิทรรศการร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่าย สาธิตการไถกลบตอซังพืช โดย นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้เกียรติเป็นผู้นำขบวนรถไถ เพื่อไถกลบตอซังพืชพร้อมกันทั่วประเทศ รวมทั้งมีการแจกเมล็ดพันธุ์พืชปุ๋ยสดให้เกษตรกรร่วมหว่านเมล็ดพันธุ์ในแปลงสาธิตอีกด้วย

"การจัดงานครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์อย่างมาก โดยนอกจากช่วยส่งเสริมให้เกษตรกรได้ตระหนักรู้ถึงการทำเกษตรกรรมที่ไม่เผาฟางและตอซังพืช ช่วยให้ดินดีคงความอุดมสมบูรณ์ไม่ถูกทำลาย และยังช่วยบำรุงดินให้มีอินทรียวัตถุเพิ่มขึ้น เกิดความสมดุลของระบบนิเวศดินแล้ว ยังส่งผลให้พื้นที่เกษตรกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดการเผาลดลง รวมถึงช่วยลดปัญหาหมอกควันและฝุ่นละออง ส่งผลดีต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม และยังช่วยลดผลกระทบต่อการเกิดภาวะโลกร้อน" อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าว

กรมพัฒนาที่ดิน หนุนเกษตรกรทำเกษตรรักษ์โลก ไม่เผาฟางและตอซังพืช กรมพัฒนาที่ดิน หนุนเกษตรกรทำเกษตรรักษ์โลก ไม่เผาฟางและตอซังพืช