ไขกุญแจดอกสำคัญวิสัยทัศน์“ ดีเก่งสุข” ในการบริหารบุคคลากรสู่องค์กรที่สร้างความสุขในแบบฉบับDTGO

ที่ DTGO การบริหารบุคลากรเป็นไปภายใต้แนวคิด “ ดี เก่ง สุข” วันนี้เราจะพาทุกท่านมาร่วมกันฟังไอเดีย ที่มาที่ไปของแนวคิดที่ไม่เหมือนใครนี้ด้วยกัน จากคุณกรรณิการ์เศรษฐีผู้อำนวยการบริหารงานพัฒนาวัฒนธรรมองค์กรDTGO ที่เพิ่งจะคว้ารางวัล HR Asia Best Companies to Work for in Asia 2022 (Thailand Edition) หรือองค์กรที่น่าทำงานด้วยมากที่สุดในเอเชียประจำปี 2022 จากนิตยสาร HR Asia หนึ่งในนิตยสารด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลชั้นนำในแถบเอเชียมาหมาดๆ

 

Q: อะไรคือวัฒนธรรมการสร้างคนดี เก่ง สุขในแบบ DTGO

A: ที่DTGO เราเรียกฝ่ายบริหารทรัพยากรมนุษย์ว่างานพัฒนาวัฒนธรรมองค์กร“Corporate Culture Development” หรือ CDO เพราะเราเชื่อว่าวัฒนธรรมเป็นหัวใจสำคัญในการนำองค์กรและบุคลากรและการจะพัฒนาวัฒนธรรมองค์กรให้แข็งแรงได้ ความเป็นครอบครัวคือปัจจัยพื้นฐานสำคัญ เมื่อเรามีความเป็นครอบครัวเป็นพื้นฐาน ทุกคนใน DTGO ที่เราเรียกว่า “สมาชิกองค์กร” จึงเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวที่อยู่ร่วมกันและยอมรับความแตกต่างและหลากหลาย ทั้งบทบาทหน้าที่ ช่วงวัย ประสบการณ์ ได้อย่างมีความสุข

เรื่องนี้เป็นเรื่องของ People Branding หรือคือการสร้างคนจากภายในให้ส่งต่อสู่คนภายนอกในแบบฉบับของ DTGO ที่เน้นทั้ง ดี เก่ง และสุข เราส่งเสริมการพัฒนาสมาชิกองค์กรให้เก่งควบคู่ไปกับการมีจริยธรรม และได้ทำสิ่งที่มีคุณค่าในทุกๆ วันด้วยความรัก เพื่อให้เกิดความสุขเพราะเราเชื่อว่าก่อนที่สมาชิกองค์กรที่ดี เก่ง สุข จะส่งต่อความดี ความเก่ง และความสุขออกไปสู่คนหมู่มากได้เช่นกัน

 

ในเรื่อง “ดี” นั้น เรามีCore Values ขององค์กร ด้วย4 ตัวอักษร D T G O อักษรแรกคือ
D คือ Dynamic หมายถึงการรักษาคำพูดรักษาเวลา การรักษาคำพูดเป็นการให้เกียรติทั้งต่อตัวเองและผู้อื่น ผู้อื่นจะไว้วางใจและให้การสนับสนุนในทุกอย่างที่เราทำ การรักษาเวลานั้นคือการที่เราเห็นคุณค่าของเวลา รู้ว่าเวลานั้นมีจำกัดและหาซื้อไม่ได้ เราจึงลงมือทำทันที เมื่อมีทั้งสองอย่างนี้พร้อมกันdynamic จึงเกิดขึ้นช่วยขับเคลื่อนให้สิ่งที่ทำเดินหน้าอย่างประสบความสำเร็จ T คือ Teamwork การทำงานเป็นทีมเราต้องพร้อมเสมอในการช่วยเหลือทีมและยอมรับในความแตกต่างของกันและกันเอาจุดแข็งของแต่ละคนมาทำงานส่งเสริมซึ่งกันและกัน เพื่อให้งานนั้นสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ G คือ Goodwill การคิดดีพูดดีทำดีซึ่งเป็นความดีพื้นฐานของการอยู่ร่วมกันของมนุษย์ในทุกสังคมและ
O Open-minded การเปิดใจรับฟังและคิดบวก เพราะการเปิดใจรับฟังและคิดบวกเป็นกุญแจแห่งความสุข ทำให้เราเป็นใจกว้าง ไม่ตัดสินผู้อื่น อีกทั้งช่วยให้เราเปิดรับความรู้ หรือโอกาสใหม่ ๆ ที่เข้ามาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

นอกจาก core valuesที่เป็นตัวขับเคลื่อนวัฒนธรรมองค์กรแล้ว เรายังมี 21 Good People หรือหลักการใช้ชีวิตแบบคน DTGO และหลักปฏิบัติทางจริยธรรม 14 ข้อ หรือ Moral Code ที่เราได้ปลูกฝังให้กับสมาชิกองค์กร เป็นแนวทางในการปฏิบัติทั้งความคิด คำพูด และการกระทำที่ดีต่อกัน  เพื่อสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่อยู่ร่วมกันด้วยความรัก สามัคคี และสร้างประโยชน์ต่อคนหมู่มาก

สำหรับความ‘เก่ง” นั้นเราสนับสนุนในการเรียนรู้ของสมาชิกองค์กรอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เรามี University Model ที่สมาชิกองค์กรสามารถเลือกและจัดการการเรียนรู้ของตัวเองได้ (Personalized Training) เรามี career choice ที่สมาชิกองค์กรสามารถเลือกเส้นทางการทำงานได้ตามความสนใจโดยมี competency เป็นแกนกลางในการประเมินและวางอนาคตของเส้นทางผ่าน individual development plan เพื่อสร้างโอกาสในการทำงานที่ท้าทายและหลากหลายอยู่ตลอดเวลา

และสุดท้ายเราเชื่อว่าทุกคนจะทำทุกอย่างได้ดีเมื่อทุกคนมี “ความสุข” ดังนั้นเราจึงดูแลสมาชิกองค์กรในทุก ๆ ด้านอย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะสุขภาพ กาย ใจ การเงิน สังคม รวมไปถึงสถานที่ทำงานที่เหมาะสมเพื่อมั่นใจว่าสมาชิกองค์กรมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุขไม่มีความกังวล พร้อมทำงานและใช่ชีวิตทุกวันอย่างมีความหมาย

ที่ DTGO เราไม่ได้นึกถึงผลกำไรเป็นสิ่งแรกหรือคิดว่าเราจะต้องเหนือกว่าใครแต่พวกเรามุ่งมั่นที่สร้างวัฒนธรรมที่สมาชิกองค์กรนึกถึงการทำประโยชน์เพื่อสังคมเป็นอันดับแรกตามปรัชญาของท่านประธานอาวุโสธนินท์เจียรวนนท์ที่ว่า“ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามที่เราสละทั้งกำลังกายใจสมองสิ่งนั้นต้องเป็นประโยชน์กับคนหมู่มาก ต่อสังคม ต่อองค์กร และต่อผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมด”

Q: ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ DTGO คว้ารางวัลหนึ่งในองค์กรที่น่าทำงานด้วยที่สุดในเอเชีย

รางวัล HR Asia Best Companies to Work for in Asia 2022 (Thailand Edition) หรือองค์กรที่น่าทำงานด้วยมากที่สุดในเอเชียประจำปี 2022 จากนิตยสาร HR Asia ในครั้งนี้เกิดจากการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแรงอย่างที่กล่าวไปในตอนต้น

รวมไปถึงการพัฒนาคนของDTGO เรามีคอนเซ็ปท์ที่เรียกว่า Mother Tree Concept เราเปรียบองค์กรDTGO เป็นเสมือนต้นไม้แม่ ที่อยู่ในผืนป่าอันกว้างใหญ่ซึ่งมีผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมดของ DTGO นั้น เป็นต้นไม้อื่น ๆ ที่อยู่ในผืนป่าแห่งเดียวกันนี้ โดยต้นไม้แม่จะส่งต่อสารอาหารส่งต่อสติปัญญาและการเตือนภัยให้กับต้นอื่นๆในป่าเพื่อให้ต้นไม้อื่น ๆ นั้นเจริญเติบโตอย่างแข็งแรง เพื่อรักษาความอุดมสมบูรณ์และความสมดุลของระบบนิเวศน์อย่างยั่งยืน

ด้วยแนวคิดนี้เราจึงไม่มี organization chart แต่เรามี Family tree ที่ผู้บริหารระดับสูงของ DTGO นั้นจะไม่ได้อยู่ ณ จุดสูงสุด หากแต่อยู่ด้านล่าง เปรียบเสมือนรากแก้วที่คอยสนับสนุนผลักดันให้ผู้ใต้บังคับบัญชาที่เปรียบเสมือนลำต้น กิ่งใบให้เติบโตผลิดอกออกผลต่อไป ดังนั้นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดในวัฒนธรรมองค์กรของเราคือNurturing Leader หรือผู้นำที่มี Mindset เป็นผู้ให้มีความปรารถนาดีที่จะช่วยผลักดันให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเติบโตอย่างมีความสุขออกดอกออกผลสร้างระบบนิเวศน์ที่ดีต่อไปในองค์กรและเราเชื่อเรื่องบทบาทมากกว่าตำแหน่ง เราจึงนำ “บทบาท” ที่ใช้ในการสร้างผืนป่ามาใช้เรียกแทนชื่อตำแหน่ง เช่นจาก Chairman เป็น Taproot Captain สู่ Business Group Chairman หรือ Root Captain ก่อนส่งต่อไปสู่ส่วนอื่นๆของต้นไม้ตั้งแต่รากไปจนถึงปลายยอดใบ เราเชื่อว่าความเข้าใจในบทบาทมากกว่าตำแหน่งทำให้เราทำงานข้ามสายงานได้อย่างคล่องตัวมากขึ้นและไม่ยึดติดกับรูปแบบการทำงานแบบเดิม ๆ อีกทั้งส่งเสริมความร่วมมือในการทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี

Q: เราพัฒนา DTGO ให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ได้อย่างไร

A: เราเชื่อว่าทุกคนที่เข้ามาร่วมงานกับเราเป็นคนเก่งอยู่แล้ว สิ่งที่เราต้องทำคือสร้างโอกาสในการเรียนรู้ให้กับสมาชิกองค์กรของเราในทุก ๆ วัน สมาชิกองค์กรเองก็ต้องมีความกระตือรือร้นและมองเห็นทุกอย่างในการทำงานเป็นการเรียนรู้ องค์กรเรามีธุรกิจหลากหลายไม่ใช่แค่เรียลเอสเตท แต่ยังมีธุรกิจด้านอื่นๆ โดยเฉพาะธุรกิจใหม่ๆ ที่เป็นธุรกิจแห่งอนาคตมากมาย นั่นคือโอกาสของสมาชิกองค์กรทุกคนที่จะได้มีความร่วมงาน เรียนรู้ จากทั้งสิ่งที่องค์กรจัดให้ ที่สมาชิกองค์กรเรียนรู้เอง และรวมถึงการที่มีโอกาสได้ทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ระดับโลกมากมายอีกด้วย

เรามีกลยุทธ์การออกแบบการเรียนรู้ให้น่าสนใจ เหมาะกับความต้องการและระดับความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกัน (personalized learning) เพื่อให้ทุกคนได้เลือกในสิ่งที่ตนสนใจ อีกทั้ง ยังกำหนดหลักสูตรที่คล้ายกับมหาวิทยาลัย มีวิชาบังคับ วิชาเลือก ในสายงานต่างๆ ทั้งหลักสูตรภายในและภายนอกองค์กร ในประเทศและต่างประเทศให้เลือกเรียนมากมาย

Q: ช่วยอธิบายแนวคิดที่ทำให้ DTGO ใช้นโยบาย work anywhere มาตั้งแต่ก่อนเกิดโควิด

A: อีกไม่กี่เดือนก็จะเข้าสู่ปี 2023 แล้วเราผ่านเหตุการณ์โรคระบาดครั้งใหญ่ที่เปลี่ยนแปลงโลกของการทำงานไปอย่างสิ้นเชิง คนคุ้นชินกับการทำงานร่วมกันโดยไม่ต้องนั่งทำงานที่เดียวกัน

แต่นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับที่นี่ นโยบาย Work Anywhere นั้น องค์กรเรานำร่องประกาศใช้ก่อนที่ไวรัสโควิด-19 จะระบาดเพราะเราเข้าใจว่าโลกจะต้องเปลี่ยนไปความต้องการของ Generation ใหม่ๆจะไม่เหมือนกับคนเจนเก่าอีกต่อไปเรามองว่าไม่จำเป็นที่จะต้องเข้ามานั่งทำงานที่ออฟฟิศงานก็เกิดผลสำเร็จได้

อีกทั้ง การเติบโตทางธุรกิจของเราจำเป็นที่จะต้องปรับการทำงานให้คล่องตัว ทำงานจากที่ใดในโลกก็ได้  นโยบายนี้จึงเป็นองค์ประกอบสำคัญอันหนึ่งที่ช่วยนำเราไปสู่เป้าหมายนั้นได้

ในปีหน้าDTGO จะให้ความสำคัญกับเรื่องของความหลากหลายและความมีส่วนร่วม (Diversity & Inclusion) ที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมมากขึ้น เพราะนี่คือความท้าทายของโลกการทำงานในวันที่องค์กรและจำนวนสมาชิกองค์กรเติบโตไปอย่างรวดเร็วพร้อมๆ กัน ส่งผลให้ CDO ต้องวางกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับความหลากหลายทั้งด้าน generation ด้าน location และด้าน function ต่างๆ ในงานที่แตกต่างออกไปให้ครอบคลุมมากขึ้น

ดังนั้น การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ให้ความสำคัญกับความหลากหลายและความมีส่วนร่วมอย่างเป็นรูปธรรมจึงเป็นสิ่งสำคัญโดยการให้โอกาสให้ทุกคนได้เท่าเทียมกันไม่ว่าอายุเพศมีความเป็นหนึ่งเดียวกันภายใต้วิสัยทัศน์ในการเป็นองค์กรที่สร้างความสุขดีเก่งให้กับทุกคนจึงเป็นคำตอบสุดท้าย