‘สิงห์ เอสเตท’ ทุ่ม4พันล้าน สร้าง ‘นิคมฯเชิงนิเวศ เอส อ่างทอง

‘สิงห์ เอสเตท’ ทุ่ม4พันล้าน สร้าง ‘นิคมฯเชิงนิเวศ เอส อ่างทอง

สิงห์ เอสเตท เดินหน้าสร้างนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ เอส อ่างทอง มูลค่าโครงการกว่า 4,000 ล้านบาท ชูกลยุทธ์ “Enriching Tomorrow” สร้างสังคมคุณภาพ เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน เน้นพลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนตอบโจทย์ธุรกิจสินค้าเกษตร อาหาร

บมจ. สิงห์ เอสเตท (S) คือบริษัทผู้พัฒนาและลงทุนอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทยที่ให้ความสำคัญกับการใช้พลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และเมื่อเร็วๆนี้ สิงห์ เอสเตทฯ ได้เดินหน้าสร้างนิคมอุตสาหกรรม เอส อ่างทอง (S Industrial Estate) ซึ่งใช้โมเดล Enriching Tomorrow ขับเคลื่อนสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนให้สังคม


นายกำจร ลีประพันธ์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส. ไอเอฟ. จำกัด (บริษัทในเครือสิงห์ เอสเตท) กล่าวว่า สิงห์ เอสเตท เห็นศักยภาพของธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมเกษตร อาหาร และธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ซึ่งมีศักยภาพสูงในการเติบโตตามแนวทาง “หนึ่งนิคมอุตสาหกรรมเกษตรอาหาร หนึ่งกลุ่มจังหวัด” ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงทุ่มงบลงทุน 4,000 ล้านบาทสำหรับพัฒนาโครงการนิคมอุตสาหกรรม เอส อ่างทอง บนพื้นที่ 1,790 ไร่ ตั้งอยู่ริมถนนสายเอเชีย กม.63 จังหวัดอ่างทอง จัดสรรพื้นที่ภายในแบ่งเป็น 3 เขตอุตสาหกรรม คือ 1. เขตอุตสาหกรรมอาหารพื้นที่ 364.7 ไร่ 2. เขตอุตสาหกรรมทั่วไป พื้นที่ 662.3 ไร่  และ 3. เขตธุรกิจพื้นที่พาณิชยกรรม  34 ไร่

โครงการนิคมอุตสาหกรรมเอส อ่างทอง สะดวกต่อการขนส่งสินค้าไปยังศูนย์กระจายสินค้า ท่าเรือ สถานีรถไฟ รวมทั้งท่าอากาศยาน และจังหวัดใกล้เคียง และในโปรเจคนี้ยังมีการก่อสร้างโครงสร้าง ระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานที่เพียงพอและมั่นคง โดยใช้ไฟฟ้าจากพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประเภทพลังงานความร้อนร่วม หรือ Co-Generation (เทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าด้วยกังหันก๊าซและกังหันไอน้ำมาทำงานเป็นระบบร่วมกัน) ซึ่งมีข้อดีคือให้กำลังการผลิตสูง มีความยืดหยุ่นในการเดินเครื่อง มลพิษต่ำ และช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศโลกได้เป็นอย่างดี

“บริษัททมองเห็นศักยภาพของธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมเกษตร อาหาร และธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ซึ่งมีศักยภาพสูงในการเติบโต ตามแนวทาง “หนึ่งนิคมอุตสาหกรรมเกษตรอาหาร หนึ่งกลุ่มจังหวัด” ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประกอบกับทำเลที่ตั้งที่อยู่ในจังหวัดอ่างทอง ถือเป็นรอยต่อของ 4 จังหวัดคือ ลพบุรี สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา และอ่างทอง ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งวัตถุดิบด้านสินค้าเกษตร จากภาคเหนือและภาคกลางตอนบน สู่ศูนย์กระจายสินค้าเกษตรหลักย่านตลาดไทและตลาดสี่มุมเมือง” 
 

สำหรับการจัดสรรพื้นที่ภายในนิคมอุตสาหกรรม แบ่งเป็น เขตอุตสาหกรรมอาหาร และเขตอุตสาหกรรมทั่วไป โดยช่วงที่ 1 มีพื้นที่ 364.7 ไร่ และช่วงที่ 2 มีพื้นที่ 662.3 ไร่  เขตธุรกิจพื้นที่พาณิชยกรรม  34 ไร่ พื้นที่สีเขียวและสันทนาการ 147 ไร่ โรงไฟฟ้า พื้นที่ 77.4 ไร่ และระบบสาธารณูปโภค รวม 215 ไร่ โดยจะแล้วเสร็จทั้งโครงการภายในปี พ.ศ. 2566 


นอกจากนี้ ผู้ประกอบการจะได้รับสิทธิประโยชน์จากการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ในการขอใบอนุญาตต่างๆ ผ่านศูนย์ Total solution Center รวมถึงการนำเงินตราต่างประเทศออกนอกราชอาณาจักร และยังได้รับสิทธิประโยชน์จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) อีกด้วย และการออกแบบพัฒนาโครงการที่ปลอดภัยจากภัยพิบัติต่างๆ โดยเฉพาะ อุทกภัยเนื่องจากมีการนำข้อมูลสถิติมาใช้ในการวิเคราะห์ในการสร้างกำแพงป้องกันน้ำท่วม (flood protection) ล้อมรอบโครงการ


“นิคมอุตสาหกรรม เอส อ่างทอง เป็นก้าวสำคัญของธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม และโครงสร้างพื้นฐาน ของสิงห์ เอสเตท เนื่องจากเป็นโครงการแรกในกลุ่มธุรกิจนี้ ที่พัฒนาจากแนวคิด “Enriching Tomorrow” ที่มุ่งสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนให้กับสังคมและยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชน และโครงการนี้จะส่งเสริมศักยภาพด้านเศรษฐกิจให้กับจังหวัดอ่างทองและจังหวัดใกล้เคียง พร้อมทั้งรักษาความสมบูรณ์ด้านสิ่งแวดล้อม ให้คงอยู่ตลอดไป” 


ทั้งนี้ สิงห์ เอสเตท เป็นบริษัทชั้นนำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และการลงทุน สร้างการเติบโตด้วยพอร์ทการลงุทนที่มีความสมดุลและหลากหลายจากการพัฒนาธุรกิจพื้นที่สำนักงานให้เช่า พื้นที่ค้าปลีก ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจที่พักอาศัย และธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม และโครงสร้างพื้นฐาน มุ่งเน้นลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพสูงทั้งในและต่างประเทศ เพื่อก้าวสู่การเป็นบริษัทลงทุน และโฮลดิ้งระดับโลก