4 องค์กรภาคธุรกิจ ผนึกพลังมุ่งสู่เป้าหมาย “Carbon Neutrality” ภายในปี 2050

4 องค์กรภาคธุรกิจ ผนึกพลังมุ่งสู่เป้าหมาย “Carbon Neutrality” ภายในปี 2050

4 องค์กรภาคธุรกิจ ผนึกพลังมุ่งสู่เป้าหมาย “Carbon Neutrality” ภายในปี 2050

ภาคเอกชนผนึกพลังประกาศจุดยืน “Carbon Neutrality” ภายในปี 2050 บนเวทีระดับผู้นำ “โครงการ Climate Action Leaders Forum หรือ CAL Forum รุ่น 1” พร้อมแลกเปลี่ยนแนวคิดและประสบการณ์ เพื่อนำไปสู่การลดก๊าซเรือนกระจกลดโลกร้อนอย่างเป็นรูปธรรม โดยมี เอสซีจี-กสิกรไทย-บางจาก-เชลล์ ตบเท้าเข้าร่วมงาน

คุณรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ เอสซีจี กล่าวว่า ภายในปี 2030 เอสซีจีตั้งเป้าลดก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 20% จากปี 2020 และตั้งเป้าให้เป็น Net Zero ภายในปี 2050 โดยมีแนวทางการดำเนินงาน 4 ข้อ ได้แก่ 1. มุ่งสู่ Net Zero เน้นกระบวนการผลิตที่เป็น Low carbon พร้อมลงทุนในเทคโนโลยีสะอาดเพื่อลดก๊าซเรือนกระจก 2. Go Green ทั้งในเรื่องสินค้า บริการ และโซลูชันที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกที่เป็นสินค้าคาร์บอนต่ำ รวมถึงการผลิตบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกที่เรียกว่าเป็น Sustainable Packaging เพื่อให้ลูกค้าได้รับสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถที่จะลด Carbon Footprint ได้อีกด้วย 3. Lean เหลื่อมล้ำ ด้วยการเข้าไปช่วยทำให้สังคมมีความเท่าเทียมกันมากขึ้น โดยจะมีการอบรม SME หรือการทำงานกับองค์กรที่อยู่ใน Supply Chainเพื่อให้เขาสามารถมีส่วนร่วมในการลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมให้เกิดน้อยที่สุด และข้อสุดท้าย 4. ย้ำร่วมมือ มุ่งเน้นความร่วมมือกับหน่วยงานทุกภาคส่วน ทั้งในและต่างประเทศ หรืออยู่ใน Supply Chain ของเรา เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการทำธุรกิจบนพื้นฐานความยั่งยืน รวมถึง Plus เป็นธรรม โปร่งใส ดำเนินธุรกิจตามหลักธรรมาภิบาลที่เน้นเรื่องความเป็นธรรม โปร่งใส และการเปิดเผยข้อมูลที่สามารถตรวจสอบได้

4 องค์กรภาคธุรกิจ ผนึกพลังมุ่งสู่เป้าหมาย “Carbon Neutrality” ภายในปี 2050

คุณขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารกสิกรไทยมีการดำเนินงานสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของ Climate Action Leaders Forum รุ่น 1 ด้วยการประกาศ Net Zero Commitment โดยตั้งเป้าลดก๊าซเรือนกระจกสุทธิจากการดำเนินงานของธนาคารเป็นศูนย์ภายในปี 2030 ) รวมทั้งกำหนดเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในพอร์ตโฟลิโอของธนาคารให้สอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศไทย และจะเร่งดำเนินการในส่วนที่เป็นไปได้ให้รวดเร็วขึ้น พร้อมให้การสนับสนุนทางการเงินเพื่อให้ภาคธุรกิจและประชาชนเปลี่ยนผ่านไปสู่การดำเนินธุรกิจและการดำเนินชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยธนาคารตั้งเป้าสนับสนุนด้านการเงินและการลงทุนเพื่อความยั่งยืนไม่น้อยกว่า 1 - 2 แสนล้านบาท ภายในปี 2573 (ค.ศ.2030) ซึ่งที่ผ่านมา ปี 2564 ธนาคารปล่อยสินเชื่อ Green Finance รวม 65,200 ล้านบาท  และต้นปี 2565 ธนาคารนำร่องเปิดตัวโครงการ “GO GREEN Together” เพื่อเชื่อมโยงและผลักดันให้เกิด Green Ecosystem ในไทย ซึ่งธนาคารเตรียมวงเงินสินเชื่อสำหรับแคมเปญนี้ 3,000 ล้านบาท เพื่อเชิญชวนให้คนไทยเข้าสู่ Green Lifestyle และสร้าง Green Ecosystem ร่วมกัน พร้อมให้ความร่วมมือให้คำปรึกษา ชักชวน และสื่อสารเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจกับ

4 องค์กรภาคธุรกิจ ผนึกพลังมุ่งสู่เป้าหมาย “Carbon Neutrality” ภายในปี 2050

คุณกลอยตา ณ ถลาง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารภาพลักษณ์และสื่อสารองค์กร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บางจากฯ ให้ความสำคัญกับเรื่องลดโลกร้อนมาอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มตั้งแต่ช่วงต้นปี 2010 ที่มีการนำก๊าซธรรมชาติมาใช้เป็นเชื้อเพลิงทดแทนน้ำมันเตาในโรงกลั่นบางจาก มีการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรเครื่องยนต์และอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมาโดยตลอด  ซึ่งบางจากฯ ได้ปรับเปลี่ยนเพื่อความยั่งยืน เพิ่มการลงทุนโดยให้ความสำคัญกับแหล่งพลังงานสีเขียว รวมถึงดำเนินธุรกิจสีเขียวผ่านบริษัทในกลุ่มอย่าง BCPG ที่ประกอบธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดและระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้าขนาดใหญ่และ BBGI ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวภาพ กำลังรุกเข้าสู่ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูง ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วยเช่นกัน  โดยบางจากฯ มีแผนสู่ Net Zero ในปี 2050  และตั้งเป้าแรกในปี 2030 เป็นCarbon Neutrality ด้วยการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ด้วยตัวเองให้ได้ 50% และชดเชยด้วยวิธีอื่นอีก 50% โดยให้ความสำคัญกับการปรับปรุงประสิทธิภาพในการผลิตและการทำงานเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนด้วยตัวเองให้มากที่สุดในทุกธุรกิจการดูดซับคาร์บอนทางธรรมชาติผ่านการปลูกป่าบก ป่าชายเลน และหญ้าทะเล การซื้อขายคาร์บอน เครดิต  ควบคู่ไปกับการศึกษาเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ ที่จะตอบโจทย์ด้านนี้ที่จะนำมาใช้เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายสำคัญ Net Zero ในปี 2050

4 องค์กรภาคธุรกิจ ผนึกพลังมุ่งสู่เป้าหมาย “Carbon Neutrality” ภายในปี 2050

คุณปนันท์ ประจวบเหมาะ ประธานกรรมการ บริษัทเชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่าบริษัทฯสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการเป็น Carbon Neutrality ในปี2050 ซึ่งก็สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของเชลล์ที่ต้องการเป็น Net Zeroในปี 2050 เช่นกัน โดยเชลล์อยู่เมืองไทยมา 130 ปี เราสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านพลังงานของประเทศไทยมาโดยตลอด สิ่งใดที่เหมาะสมเราก็ได้นำมาใช้กับประเทศไทย ซึ่งสิ่งที่เชลล์กรุ๊ปทำคือ การลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในกลไกการผลิต ไม่ว่าจะเป็นขุดเจาะ โรงกลั่น การผลิต ที่ต้องมีการควบคุมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและคาร์บอนไดออกไซด์ โดยมีเป้าหมายที่จะขายก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดที่สุดในสัดส่วน 55% ก็คือมากกว่าน้ำมันปกติในปี 2030 นอกจากนี้ เรายังมีการลงทุนด้านพลังงานทดแทนตลอดเวลา ทั้งจากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม พร้อมตั้งเป้าใช้พลังงานทดแทนในการผลิตพลังงานไฟฟ้าให้กับ 50 ล้านครัวเรือน ในปี 2030 รวมถึงเรายังวางแผนที่จะมีจุดชาร์จ EV ทั่วโลก 2,500,000 จุดในปี 2030 เช่นกัน