“คอร์แนล” จับมือ “เนติฯ-TIJ” เปิดทุนต่อ ป. โท ยกระดับบุคลากรกฎหมาย

“คอร์แนล” จับมือ “เนติฯ-TIJ”  เปิดทุนต่อ ป. โท ยกระดับบุคลากรกฎหมาย

“คอร์แนล” จับมือ “เนติฯ-TIJ” เปิดทุนต่อ ป. โท ยกระดับบุคลากรกฎหมาย

การพัฒนา “คน” คือหัวใจและจุดเริ่มต้นของการพัฒนาในทุกด้าน โดยเฉพาะในด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม เพราะตัวบทกฎหมายนั้น สามารถยกร่างให้ดีเลิศอย่างไรก็ได้ แต่หากการ “บังคับใช้” โดยผู้รับผิดชอบไม่ดี ไม่มีประสิทธิภาพ หรือไม่มีความรู้ความสามารถเสียแล้ว ก็ยากที่จะอำนวยความเป็นธรรมแก่พี่น้องประชาชนได้

ด้วยเหตุนี้จึงเกิดความร่วมมือทางวิชาการ เพื่อยกระดับบุคลากรด้านกฎหมายและระบบยุติธรรมของไทยขึ้น โดยคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยคอร์แนล สหรัฐอเมริกา เนติบัณฑิตยสภา ในพระบรมราชูปถัมภ์ และสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (TIJ) 

ผู้แทนจากภาคีทั้ง 3 หน่วยงาน ได้ร่วมกันลงนามในบันทึกความตกลงระหว่างกัน ผ่านระบบการประชุมออนไลน์ เมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้แก่ นางสาวปิยกุล บุญเพิ่ม ประธานศาลฎีกา และนายกเนติบัณฑิตสภา นายเจน เดวิด โอลิน คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยคอร์แนล และ นายพิเศษ สอาดเย็น ผู้อำนวยการ TIJ 

วัตถุประสงค์สำคัญของความร่วมมือ คือ เพื่อส่งนักกฎหมายของไทยไปศึกษาต่อในระดับปริญญาโท ณ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยคอร์แนล ภายใต้การดำเนินงานของ “กองทุนพัชรกิติยาภาเพื่อการศึกษากฎหมาย” รวมทั้งขยายความร่วมมือทางวิชาการ ในด้านการแลกเปลี่ยนบุคลากรของมหาวิทยาลัยคอร์แนล และบุคลากรในหน่วยงานด้านกฎหมายของประเทศไทยด้วย 

พิธีลงนามบันทึกความตกลงนี้ ได้ดำเนินการมาแล้ว 3 ครั้ง ทุกรอบ 5 ปี เพื่อสานต่อการดำเนินการให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ร่วมกัน ซึ่ง TIJ ได้เข้ามามีส่วนร่วมในฐานะคู่ภาคีเพิ่มเติมในการลงนามความตกลงครั้งที่ผ่านมา โดยมุ่งเน้นเสริมความเข้มแข็งด้านความร่วมมือทางวิชาการที่กว้างขวางมากขึ้นระหว่างวงการกฎหมายไทยในภาพรวม กับคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยคอร์แนล

สำหรับพิธีลงนามในครั้งล่าสุดนี้ นายสจ๊วต เจ ชวาบ ศาสตราจารย์ด้านกฎหมาย อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยคอร์แนล พร้อมด้วย นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ กรรมการกองทุนพัชรกิติยาภาเพื่อการศึกษากฎหมาย และที่ปรึกษา TIJ  ได้ร่วมกันแบ่งปันเรื่องราวในความทรงจำเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของความร่วมมือระหว่างคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยคอร์แนล กับวงการกฎหมายไทย และพัฒนาการจวบจนปัจจุบัน

“กองทุนพัชรกิติยาภาเพื่อการศึกษากฎหมาย” ก่อตั้งขึ้นภายใต้การกำกับดูแลของเนติบัณฑิตยสภาฯ โดยขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต อัญเชิญพระนามของ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ขณะเมื่อทรงดำรงพระอิสริยยศ พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา มาตั้งเป็นชื่อกองทุนเมื่อปี พ.ศ.2549 เพื่อรำลึกถึงพระจริยาวัตรในขณะทรงศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยคอร์แนลตลอดระยะเวลา 5 ปี ที่ทรงได้สร้างความประทับใจแก่คณาจารย์และนักศึกษาที่นั่น

จวบจนปัจจุบันมีนักศึกษากฎหมายไทยที่มีศักยภาพสูงจากประเทศไทย ได้รับทุนไปศึกษาต่อแล้วจำนวน 14 คน ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งที่นักเรียนทุนเหล่านี้ได้กลับมาเป็นบุคลากรคุณภาพร่วมพัฒนาวงการกฎหมายไทยอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นในฐานะผู้พิพากษา อัยการ และที่ปรึกษากฎหมาย

นางสาวปิยกุล กล่าวว่า “เนติบัณฑิตยสภาในฐานะองค์กรวิชาชีพทางกฎหมาย ซึ่งเป็นแหล่งรวมนักกฎหมายทุกสายอาชีพ มีความภาคภูมิใจและมุ่งมั่นที่จะสานต่อความร่วมมือทางวิชาการกับทั้งสองสถาบัน เพื่อต่อยอดการส่งเสริมความรู้และพัฒนาบุคลากรในวิชาชีพกฎหมาย อันเป็นบทบาทและวิสัยทัศน์สำคัญของเนติบัณฑิตยสภาเสมอมา”

ขณะที่ นายโอลิน ได้แสดงทัศนะว่า “สิ่งสำคัญที่สุดคือการได้เห็นนักกฎหมายที่มีพรสวรรค์ มีพลัง 
และกระตือรือร้นคนแล้วคนเล่าได้รับคัดเลือกให้เข้ารับทุนในพระนามของพระองค์ท่าน อีกทั้ง การลงนามในบันทึกความตกลงครั้งใหม่นี้ จะส่งผลให้สายสัมพันธ์ระหว่างมหาวิทยาลัยคอร์แนลและประเทศไทยยังคงแน่นแฟ้นสืบไป”

นายพิเศษ กล่าวเช่นกันว่า “สถาบัน TIJ ให้คำมั่นว่าเราจะดำเนินการอย่างเต็มกำลังเพื่อมุ่งสู่การบรรลุเป้าหมายร่วมกัน ในการที่จะส่งเสริมความเป็นเลิศทั้งในด้านวิชาการและในทางวิชาชีพ สำหรับคณาจารย์และผู้นำในแวดวงยุติธรรม โดยจะได้แลกเปลี่ยนมุมมองและประสานความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดกับองค์กรภาคีต่อไป” 

หากท่านใดสนใจสมัครเพื่อสอบแข่งขันรับทุนพัชรกิติยาภาเพื่อการศึกษากฎหมาย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thethaibar.or.th