THE FUTURE OF BOUTIQUE:THE FUTURE OF THAILAND

THE FUTURE OF BOUTIQUE:THE FUTURE OF THAILAND AND THE LAW OF SUCCESS FOR BOUTIQUE AND DESIGN HOTEL
               

วรพันธุ์ คล้ามไพบูลย์ ที่ถูกเรียกว่าTHE BOUTIQUE KING กับ 10 ปีแห่งการเปลี่ยนบ้านเก่าเป็นบูติคโฮเต็ล ที่ได้สร้างเครือข่ายคนทำโรงแรมขนาดเล็กและขนาดกลาง โดยเน้นความคิดสร้างสรรค์ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์  จนเกิดขึ้นทั่วประเทศ  เพราะความเชื่อที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ว่า ทุกหนแห่งที่มนุษย์เดินทางไปถึงสามารถเป็นบูติคโฮเต็ล จนมาถึงการสร้างระบบHotel Management Systemในชื่อ Homemade Stay และการเปิดเชน เพื่อโรงแรมสำหรับนักลงทุนรุ่นใหม่ ในชื่อของ KOTELLER วันนี้เขามองอนาคตของธุรกิจนี้อย่างไร มาคุยกันแบบสบายๆ แต่เต็มไปด้วยวิสัยทัศน์กัน

Q: คุณได้เปิดโรงแรมจากโรงรถเพียง 3 ห้องจนกลายเป็นต้นแบบโรงแรมขนาดเล็กทั่วประเทศ จนถึงทำคอร์ส เปลี่ยนบ้านเก่าเป็นบูติคโฮเต็ลที่ได้สร้างผู้ประกอบการทั่วประเทศเช่นกัน คุณทำมันไปเพื่ออะไร 

A: ผมเชื่อในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงประเทศ ที่ปัจจุบันคงไม่ต้องอาศัยการเมืองหรือการปฏิวัติ แต่สามารถทำได้ด้วยธุรกิจที่กลไกของมันทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เคียงคู่ไปกับการอนุรักษ์และใช้ความคิดสร้างสรรค์ รวมถึง ไม่ทิ้งคนที่ไม่มีโอกาสไว้ข้างหลัง การทำโรงแรมขนาดเล็ก แม้จะเป็นในเมืองใหญ่ในบ้านนอก ทำโดยคนจบเมืองนอกหรือครูต่างจังหวัดก็ตาม ช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ เพราะมันเป็นทั้งการกระจายรายได้ การลดความเหลื่อมล้ำต่ำสูงการกระจายโอกาสทางการศึกษา การทำให้คนอยู่ในพื้นถิ่น ที่สำคัญมันสร้างรายได้จริงพร้อมกับการอนุรักษ์ ธรรมชาติและวัฒนธรรม  วันนี้คนทำการเกษตรไม่ได้  เพราะพื้นที่น้อยลงฟ้าฝนมีปัญหา  ที่ 5 ไร่ไม่พอปลูกข้าวกิน  แต่พอเหลือเฟือสำหรับทำโรงแรมครับ

Q:ได้ยินว่าคุณเดินทางไปดูที่ดินให้กับนักเรียนทั่วประเทศไม่ว่าจะอยู่ไกลบ้านนอกแค่ไหนก็ตาม เป็นความจริงหรือที่ทำเลไกลๆ ไม่ว่าจะไกลแค่ไหนก็สามารถทำโรงแรมได้ คนบ้านนอกต่างจังหวัดจะเป็นเจ้าของโรงแรมได้อย่างไร 

A: ทุกพื้นที่มีเอกลักษณ์ มีจุดขาย เมื่อคุณหามันเจอ คุณจะทำธุรกิจนี้ที่ไหนก็ได้  ที่สำคัญถ้าคุณหาเอกลักษณ์นี้เจอในพื้นที่ห่างไกลเมื่อไร นั่นคือกำไรก้อนแรก เพราะที่ห่างไกลบ้านนอกย่อมมีราคาถูก ผมยินดีด้วยถ้าคุณสามารถซื้อที่ใจกลางกรุงเทพ สุขุมวิท สีลม สาทร เพื่อทำโรงแรม แต่สิ่งที่ท้าทายผมเสมอมาก็คือการส่งมอบปรัชญาและวิธีการที่คนทุกคนหรือคนส่วนมากสามารถทำสำเร็จได้ในชีวิตนี้  ไม่ใช่แค่คนบางกลุ่ม  และวิธีการนี้สามารถทำให้คนไทยมีชีวิตที่ดีขึ้นได้ และแน่นอนถ้าคุณสามารถสร้างจุดขายจากทำเลเลวได้คุณย่อมสามารถประสบความสำเร็จในการลงทุนที่ใดก็ได้ที่มีทำเลดีกว่า ใช่หรือไม่ 

การลงทุนในทำเลห่างไกลไม่ใช่เรื่องใหม่ เชนโรงแรมระดับโลกเช่นAMAN ที่เป็นกลุ่มโรงแรมรีสอร์ทที่มีราคาแพงที่สุดในโลกทำมาแล้วหลายสิบปี  หรือตัวอย่างชัดเจนที่สุดเช่น ประเทศภูฏานที่ไปไกลไปยากไปลำบาก แต่ราคาค่าไปกลับแพง กว่าประเทศ อื่นๆ เช่นญี่ปุ่น หรือ สิงคโปร์ที่พัฒนาแล้วหลายเท่า ทั้งๆที่เต็มไปด้วยความกันดาร นี่คือตัวอย่างการสร้างจุดขายที่พลิกเอาความไกล ความโดดเดี่ยวความสงบ มาเป็นประสบการณ์ สำหรับการขายที่มีราคาสูงให้กับนักเดินทางที่ดีที่สุด 
       

วันนี้ถ้าคุณอยากทำโรงแรม โลกธุรกิจมันเปลี่ยนไปแล้วโดยสิ้นเชิงไม่เหมือนเมื่อแม้กระทั่ง 5 ปีก่อน ก้าวแรกที่คุณต้องข้ามไปให้ได้แน่นอนก็คือเรื่องของทำเล ถ้าคุณสามารถหาทำเลที่มีราคาถูกทุกในหรือในรูแล้วมาสร้างมูลค่าทางการตลาด  จนที่ดินนั้นมีมูลค่าสูงขึ้น นั่นคือชัยชนะข้อแรกในการทำธุรกิจบูติคโฮเต็ล ดั่งเช่นได้เกิดขึ้นมาแล้วกับ กรณีของนักเรียนที่ทำโรงแรมหลายๆแห่ง เช่นบ้านหลวงประสิทธิ์คานาลโฮม ( Luang Prasit Canal Home) ในตรอกที่รถเข้าไม่ได้ของถนนเทอดไท แต่สามารถขายห้องพักได้ถึงห้องละ3,500บาท หรือ บ้านในฝัน ( Naifun BB House )ซอยลาซาล ที่ลึกมาก การตกแต่งเป็นแบบบ้านบ้าน แต่ลูกค้าเต็มทั้งปีหรือโรงแรมแองเจลิโลลักซ์ชัวรี่แฟมิลี่สวีท (Angelo Luxury Family Suite Hotel)ในซอยรัชดา 36 ที่เป็นโรงงานกระเบื้องเก่าเป็นต้น 

Q: ธุรกิจโรงแรมและที่พักขนาดเล็กมีคนอยากเข้ามาแย่งชิ้นเนื้อมากมาย รวมถึงกลุ่มโรงแรมระดับโลกที่ประกาศอย่างชัดเจนว่าจะเข้าสู่ธุรกิจนี้ โรงแรมขนาดเล็กและกลางในเครือข่ายของคุณจะสามารถแข่งขันได้อย่างไร 

A: เป็นเรื่องดีมากที่โรงแรมขนาดใหญ่จะเข้าสู่ธุรกิจนี้ เพราะจะทำให้ผู้ประกอบการขนาดเล็กและกลางพัฒนาตัวเองมากขึ้น สำหรับผมความสำเร็จมีพื้นฐานมาจากปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือโฟกัสที่จุดแข็งของคุณที่เอกลักษณ์ของคุณ ค้นพบมันให้เจอ รักษามัน นอนกอดมันและทำให้ต่อเนื่องยาวนาน แล้วจะไม่มีใครมาแตะต้องตัวคุณได้  ซึ่งวิธีคิดนี้สามารถดัดแปลงใช้กับธุรกิจ  โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวทั้งหมด  FOCUS AND COMPETE WITH YOURSELF !!!

Q: ทำไมคุณถึงสร้าง เชนโรงแรมขนาดเล็กชื่อKOTELLER ขึ้นมา มันแตกต่างจากเชนที่มีอยู่แล้วอย่างไร 

A:  เมื่อเราได้ ช่วย ให้กำเนิดโรงแรมเกือบ 100 แห่งทั่วประเทศมาแล้วนั้นเราพบว่าปัญหาที่ยากกว่าก็คือการรักษาธุรกิจให้มันต่อเนื่องยาวนานโดยที่ยังเก็บเอกลักษณ์ เอาไว้ พร้อมกับการเพิ่มมูลค่าธุรกิจ KOTELLERจะช่วยวาง Business Model โรงแรมที่ยอดเยี่ยมไปพร้อมๆกับการออกแบบที่มีเอกลักษณ์ รวมถึงช่วยวางระบบบริหารจัดการ การจัดการการเงิน ที่มีประสิทธิภาพ เพราะจุดเด่นที่สุดก็คือทีมของเรา เกิดจากการรวมตัวของคนที่คลุกคลี  ในธุรกิจโรงแรมขนาดเล็กและขนาดกลางมาตลอดชีวิต  คือผมที่มีความเชี่ยวชาญในการเปลี่ยนอาคารเก่าเป็นโรงแรม  คุณจิตติพันธุ์ ศรีกสิกรณ์ ผู้ร่วมก่อตั้งหลับดีโฮสเทล และ ผู้ร่วมก่อตั้งโรงแรมPRINCE THEATRE HERITAGE STAY ที่เปลี่ยนจากโรงหนังโป๊เก่าเป็นโรงแรมชื่อดังระดับโลก รวมถึงคุณโอภาส ลิมปิอังคนันต์ นักออกแบบ Brandingโรงแรมบูติคระดับโลกชื่อดังหลายแห่งของประเทศไทยซึ่งในปลายปีหน้า เราน่าจะมีโรงแรมในกลุ่มของเรากว่า15แห่งทั่วประเทศ บางแห่งอยู่ในทำเลที่น่าตื่นเต้น และมี Business Modelที่มีประสิทธิภาพมากมาก เราเชื่อว่าหลายโรงแรมจะเป็นการDisruptรูปแบบธุรกิจนี้ในประเทศไทย อยากให้รอดูกัน

Q: ทราบมาว่า คุณยังลงทุนสร้างระบบการจัดการโรงแรมที่ชื่อว่า HOMEMADE STAYอีกด้วย

A: ใช่ครับ Homemade Stay เป็นระบบที่ออกแบบมาเพื่อโรงแรมขนาดเล็กและกลาง รวมถึง Boutique Hotel , Homestay, Bed and Breakfast โดยเฉพาะเพื่อช่วยให้ เครือข่ายโรงแรมของเรา มีระบบดีๆที่เหมาะกับโรงแรมขนาดเล็กใช้ ที่มีประสิทธิภาพสูง  แต่  ในราคาที่ไม่แพง นอกจากนั้นทีมบริการของเรายังมีประสิทธิภาพมากเพราะอยู่ในเมืองไทยและเป็นกลุ่มคนที่ทำโรงแรม มาอย่างช่ำชอง  กันทุกคน

ขณะนี้มีโรงแรมขนาดเล็กและกลางรวมถึง บีแอนด์บี ที่ใช้ระบบนี้ทั่วประเทศแล้วกว่า150แห่ง ซึ่งปลายปีนี้เราตั้งเป้าว่าจะมีโรงแรมที่ใช้ระบบนี้กว่า300แห่ง รวมถึงอีก50แห่งในรอบรอบประเทศไทยด้วย 

Q: โรงแรมในขนาดกลางจะสามารถแข่งขันกับโรงแรมขนาดใหญ่ได้อย่างไร การตลาดออนไลน์การใช้โซเชียลมีเดียหรือการใช้ Blogger มีความสำคัญมากน้อยแค่ไหนสำหรับโรงแรมใน กลุ่ม นี้ 

A: เมื่อคุณยิ่งเล็กยิ่งแตกต่าง การตลาดออนไลน์ Social Media และ Blogger รวมถึงความเข้าใจในเทคโนโลยีการตลาดยิ่งมีความสำคัญ    เพราะว่าคุณมีงบน้อยความเข้าใจยิ่งต้องมีเยอะ ไม่ว่าจะทำเองหรือจ้างคนทำก็ต้องสามารถ ชี้นำหรือตัดสินงานของเขาได้ถูกต้อง ทำเลไกล ประสบความสำเร็จได้ก็ด้วยการสื่อสารการตลาดที่บอกว่าความไกลมันคือประสบการณ์ 
        
หรือทักษะที่เจ้าของโรงแรม ขนาดเล็กและขนาดกลางจำเป็นต้องมี เช่นสามารถถ่ายรูปได้เองสามารถเขียน Content เกี่ยวกับโรงแรมตัวเองได้ สามารถ เข้าใจการทำตลาดออนไลน์บน Facebook  หรือตั้งชื่อให้คนค้นหาได้ง่ายเป็นต้น สิ่งเหล่านี้จำเป็นที่สุด 

แต่ถ้าคุณเขียนและถ่ายรูป เองไม่ได้ ผมย้ำอีกครั้งว่าการใช้Blogger, Influencer เป็นทางลัดที่สำคัญมากสำหรับธุรกิจประเภทนี้ และเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องลงทุน

Q:  ช่วยสรุปสูตรสำเร็จการทำโรงแรม ให้ที สำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐานมาก่อนและไม่อยากเจ๊ง 

A: ง่ายมาก ผมให้คาถา 3 บท

บทแรกสำหรับเมื่อเริ่มเปิด มี 4  คำคือ จุดขาย กฎหมาย การเงิน และระบบ ทำ4คำนี้ให้ครบ ธุรกิจคุณไม่มีเจ๊ง รุ่งแน่นอน ขายออกก็ง่าย โดยเฉพาะต้องถูกกฎหมายและมีระบบการจัดการมารองรับ เพราะเวลาจะออกจากธุรกิจจะให้คนอื่นทำต่อ ระบบที่มีข้อมูลครบคือตัวตัดสิน พวกโรงแรมเล็กจะพลาดตรงนี้มากที่สุด
บทที่สอง ITS NOT WHAT YOU HAVE TO INVEST BUT TO INVEST IN WHAT YOU HAVE. ค้นหาตัวเองให้ดี เพราะคุณจะพบว่าสิ่งที่มีค่าที่สุด คือสิ่งที่ คุณ มีอยู่แล้ว และ  คุณไม่เคยใช้มันเลย สิ่งนั้นมันจ้องมองคุณและรอคอยคุณอยู่ 

บทที่สาม ขอบคุณทุกสรรพสิ่งรอบตัวให้มาก เพราะธุรกิจโรงแรม เริ่มต้น และดำเนินไปด้วยการรบกวนทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติ ผู้คน สิ่งแวดล้อม ทรัพยากร รวมถึงบรรพบุรุษที่ก่อตั้งประเทศนี้ขึ้นมา  เมื่อคุณนำสิ่งเหล่านี้ออกมาใช้ คุณต้องสำนึกในบุญคุณขอบคุณพวกเขาและตอบแทนคืนให้เท่าเทียมกันด้วย แล้วธุรกิจที่พักของคุณทุกรูปแบบ จะมีความยั่งยืนจนถึงลูกหลาน

       *** สอบถามปัญหาการทำโรงแรม ขอคำปรึกษา  รวมถึงดูรายละเอียดเพิ่มเติม เรื่อง คอร์สอบรม , ระบบHomemade Stay และ Koteller ได้ที่ www.theboutiqueking  และ Facebook: เปลี่ยนบ้านเก่าเป็นบูติคโฮเตล

หรือโทรและLine: 0896969896