"สกลธี" ชู นโยบายสังคม กระจายงบฯ ดูแลทุกกลุ่มเปราะบาง ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

"สกลธี" ชู นโยบายสังคม กระจายงบฯ ดูแลทุกกลุ่มเปราะบาง ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

"สกลธี" แสดงวิสัยทัศน์ นโยบายด้านสังคม พร้อม กระจายงบฯ ให้ทั่วถึง ดูแลทุกกลุ่มเปราะบาง เผย มีช่องทางหารายได้เข้ากทม. มุ่งทลายข้อจำกัดทางกฎหมาย ให้เกิดความเท่าเทียม มั่นใจทำได้แน่นอน ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

ที่สมาคมผู้บำเพ็ญประโยชน์ ถนนพญาไท นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 3 ในนามอิสระ เข้าร่วมแสดงวิสัยทัศน์ในเวทีสาธารณะ “เสนอไป-แถลงมานโยบายทางสังคมของผู้ว่าฯ กทม.” โดยมีกลุ่มเครือข่ายสตรี ผู้สูงอายุ เด็ก คนพิการและเครือข่ายแรงงานเข้าร่วมฟัง พร้อมเสนอแนะนโยบายต่อผู้สมัครฯ 

โดยนายสกลธี กล่าวว่า สิ่งสำคัญของการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่รับทราบจากตัวแทนทุกกลุ่ม ตนคิดว่า สิ่งแรกที่จะทำ คือการกระจายงบประมาณลงไปให้ทั่ว เพราะแต่เดิมอาจจะมีการวางงบประมาณไปอยู่ทางด้านใดด้านหนึ่ง งานด้านสังคม เป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ งบปีหนึ่งได้ประมาณ 200-300 ล้านบาท ไม่ถึงครึ่งเปอร์เซ็นต์ ถ้ามีโอกาสได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. จะเทน้ำหนักไปในส่วนนี้ มันอาจจะไม่เห็นผลทันที ไม่เห็นเป็นถนน ท่อ ตึก แต่ว่าสิ่งเหล่านี้มันจะพัฒนาคุณภาพชีวิตทุกช่วงวัย ทุกเพศสภาพ ทุกสาขาอาชีพ โดยจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

“การที่จะบริหารงานได้โดยที่เงินมีจำกัด กทม. ต้องทำพยายามหาเงินเข้าทุกทาง ที่ผ่านมา 40- 50 ปีที่แล้ว ผู้ว่าฯ ใช้เงินเก็บภาษีได้และเงินอุดหนุนจากรัฐ มันมีหลายช่องที่เปิดกว้างให้กรุงเทพมหานคร สามารถหาเงินได้เอง ไม่ว่าจะเป็นขยะ ปกติเราเสียเงิน 4,000-5000 ล้านบาท เช่าซื้อรถขยะ ถังขยะ สิ่งนี้สามารถให้เอกชนทำได้ แทนที่จะจ่ายกลับได้เงินเข้ามาด้วย เงินที่เราต้องจ่ายเอามาลงในด้านสังคม หลายนโยบายที่เราคุยในวันนี้มันทำได้แน่นอน” นายสกลธีกล่าว

นายสกลธี กล่าวว่า ตนเป็นนักกฎหมาย ดังนั้น จะเข้าไปดูว่าข้อกฎหมายที่เป็นข้อจำกัดในการทำงานภายใต้อำนาจของกทม. ต้องทลายข้อจำกัดนั้น เช่น ศูนย์เด็กเล็กที่ในที่เอกชน งบประมาณกรุงเทพมหานครลงไม่ได้ เพราะติดข้อบัญญัติ งบของกรุงเทพฯ ลงได้ที่สาธารณะเท่านั้นลงที่เอกชนไม่ได้ ทุกคนจ่ายภาษี แต่ทำไมต้องมาติดว่า ลงได้เฉพาะที่สาธารณะ ลงเอกชนไม่ได้ ด้วยพื้นฐานทางด้านกฎหมายจึงคิดว่าจะทำลายข้อจำกัดทุกอย่างที่เกี่ยวกับเงินของกทม. ไปอุดหนุนให้กับคนกรุงเทพโดยเท่าเทียมเข้าถึงและทั่วกันให้ได้

“วันนี้การที่ได้มาพูดคุยกับผู้แทนทางด้านสังคมต่างๆ มันเหมือนความผูกพัน เหมือนสิ่งที่เราได้รับปากทุกคนเอาไว้ เป็นนโยบายที่เราได้เอาไปทำประโยชน์ได้ไม่มากก็น้อย ผมขอบคุณทุกองค์กรที่ได้นำเสนอสิ่งดีๆ เข้ามา ถ้าหากผมได้เป็นผู้ว่าฯ ด้านการบริหารงบ การหาเงินเข้า รวมถึงการทลายข้อบัญญัติทางกฎหมายต่างๆ ทำให้งบประมาณต่างๆ ในการดูแลคนทุกกลุ่มมันทำได้แน่นอน” นายสกลธี กล่าว

นายสกลธี กล่าวว่า ในส่วนของกองทุนต่างๆ ที่หลายหน่วยงานด้านสังคมเสนอมานั้น ตนคิดว่าจะสามารถลงไปดูและสามารถจะทำได้เพื่อให้คนกรุงเทพฯ ทุกคนสามารถร่วมกันในการบริหารจัดการเมืองนี้  ส่วนขอเสนอให้มีความหลากหลายทางเพศในคณะทำงานนั้น หากติดตามการทำงานของคณะทำงานของตนก็จะเห็นว่าคณะทำงานในทีมมีความหลายหลายในทุกเพศ ทุกกลุ่ม ซึ่งลักษณะของการทำงานแบบคนรุ่นใหม่ที่ไม่มีการแบ่งแยก และคิดว่าทุกคนมีความตั้งใจที่จะทำให้กรุงเทพเป็นเมืองน่าอยู่อย่างแน่นอน