เจาะสมรภูมิค้าปลีก 'บิ๊กซี' เร่งไฮเปอร์มาร์เก็ต - ปรับสาขามินิสู่ไซส์ใหญ่

เข้าสู่ช่วงไตรมาสสอง สมรภูมิค้าปลีกมูลค่า 4 ล้านล้านบาท ยังพร้อมเดินหน้าการขยายอย่างต่อเนื่อง โดยห้างค้าปลีกบิ๊กซี วางแผนรุกเปิดสาขาใหม่ ทั้งสาขาขนาดเล็ก และสาขาขนาดใหญ่ พร้อมปรับชื่อทุกสาขา นำหน้าด้วย บิ๊กซีทั้งหมด 

วีระชาติ คำกลัด ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายจัดซื้อสินค้าบริโภค และ คนึงหา แซ่ตัน ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายจัดซื้อสินค้าเสื้อผ้าและรองเท้า บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึง แผนของบิ๊กซี ในการเปิดสาขาใหม่นับจากนี้ จะใช้คำว่า บิ๊กซี นำหน้าในทุกสาขาทั้งหมด เพื่อสร้างการจดจำให้แก่ลูกค้า โดยมีแผนเปิดสาขาขนาดใหญ่ ไฮเปอร์มาร์เก็ตรวม 2 สาขา และมีแผนเปิดสาขาขนาดเล็ก บิ๊กซี มินิ รวมประมาณ 20-30 สาขาต่อเดือน

 

สำหรับแนวทางการขยายสาขาใหม่ของ บิ๊กซี มินิ จะปรับสาขาให้มีขนาดใหญ่มากขึ้น จากเดิมพื้นที่ 2-3 คูหา ไปสู่ขนาด 3-4 คูหา หรือมีพื้นที่ต่อสาขาประมาณ 60-100 ตร.ม.รองรับความต้องการของตลาด และกลุ่มลูกค้าที่ต้องการกลุ่มสินค้าที่หลากหลายมากขึ้น

“แนวโน้มการเปิดสาขาใหม่ต่อเนื่อง ตามความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่สนใจเข้ามาเลือกใช้จ่ายในศูนย์การค้ามากขึ้น ทำให้ภาพรวมยอดทราฟฟิกเพิ่มขึ้น แม้ว่ายอดการใช้จ่ายต่อบิลจะลดลงก็ตาม”

 

ทั้งนี้ ภาพรวมของ บิ๊กซี สาขาที่สร้างยอดขายสูงสุดได้แก่ ราชดำริ พัทยา และภูเก็ต โดยเป็นสาขาที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก โดย บิ๊กซี ได้มีการร่วมมือกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในร่วมดึงดูดกลุ่มลูกค้าและนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่ ซึ่งในปัจจุบัน บิ๊กซี มีสาขาที่อยู่ในทำเลแหล่งท่องเที่ยวรวมประมาณ 14 สาขา

ทั้งนี้กลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยว มีการใช้จ่ายที่ขยายตัวดีเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีกลุ่มลูกค้าจากประเทศเพื่อนบ้าน มาเลเซีย เข้ามาใช้จ่ายในประเทศจำนวนมาก เป็นผลดีต่อภาคค้าปลีกของไทย

ภาพรวมของ บิ๊กซี มีสาขารวมประมาณ 2,000 สาขา แบ่งเป็น ไฮเปอร์มาร์เก็ต 151 สาขา บิ๊กซี มินิ 1,500 สาขา บิ๊กซี ซูเปอร์มาร์เก็ต 54 สาขา บิ๊กซี ฟู้ดเพรส 11 สาขา และ บิ๊กซี ฟู้ดเซอร์วิส โดยเป็นค้าส่งรวม 6 สาขา จากเดิมใช้ชื่อแบรนด์ เอ็มเอ็ม ฟู้ด เซอร์วิส