“ศศิกานต์”เปิดตัวชิงผู้ว่าฯกทม.-ชูนโยบาย“กรุงเทพเมืองปลอดภัย”

“ศศิกานต์”เปิดตัวชิงผู้ว่าฯกทม.-ชูนโยบาย“กรุงเทพเมืองปลอดภัย”

“ศศิกานต์”เปิดตัวชิงผู้ว่าฯกทม.-ชูนโยบาย“กรุงเทพเมืองปลอดภัย” ไม่กังวลเป็นหน้าใหม่ทางการเมือง ชี้ลงอิสระเป็นเรื่องที่ดี ยันทำงานได้กับทุกฝ่าย-ทุกพรรคการเมือง

นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ หรือ จิ๊บ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หมายเลข 16 ในนามอิสระ จากกลุ่ม “ใส่ใจ” ที่ก่อตั้งโดยนายวินท์ สุธีรชัย อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล จัดแถลงเปิดตัวพร้อมนโยบายในการลงชิงเก้าอี้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยชูนโยบาย “กรุงเทพเมืองปลอดภัย” ซึ่งครอบคลุมชีวิตทรัพย์สิน สุขภาพ คุณภาพชีวิต และสร้างอนาคตด้วยการศึกษา 

โดยนางสาวศศิกานต์ กล่าวว่า แม้ตนจะไม่ใช่คนกรุงเทพฯโดยกำเนิด แต่ตั้งแต่อายุ 15 ปีจนถึงปัจจุบัน ตนได้ใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพฯมาตลอด รับรู้ปัญหาของคนกรุงเทพมหานครมาตลอด และตนเคยใช้บริการรถเมล์นั่งตั้งแต่ต้นสายจนสุดสาย รับรู้ถึงความรู้สึกของการยืนบนรถเมล์ตั้งแต่ต้นสายจนสุดสายเป็นอย่างไร เคยเดินตกต่อระบายน้ำมาแล้ว เคยตกรถเมล์ และเคยเดินตลาดที่มีหนูตัวเท่าแมวมาแล้ว

“เชื่อว่าคนที่อาศัย ทำงานอยู่ในกรุงเทพฯกว่าครึ่งมีพื้นเพมาจากต่างจังหวัดจึงเป็นเรื่องปกติ เพราะกรุงเทพฯเป็นเมืองหลวงของประเทศ ตอนนี้จึงถึงเวลาแล้วที่ตนจะเข้ามาช่วยประเทศ ช่วยกรุงเทพมหานคร ถือเป็นการตอบแทนบุญคุณแผ่นดินอีกอย่างหนึ่ง”
 

ส่วนที่มีการมองว่าเป็นหน้าใหม่ทางการเมืองนั้น ตนก็ไม่รู้สึกกังวล เพราะถือว่าเป็นเรื่องดีและข้อได้เปรียบของตนด้วยซ้ำ เพราะตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครไม่ได้มีอำนาจเบ็ดเสร็จแต่เพียงผู้เดียว เนื่องจากบางเรื่องต้องมีการอาศัยอำนาจและความร่วมมือจากหน่วยงานอื่น 

ดังนั้นสิ่งที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครต้องมีคือการประสานงาน และเมื่อมาจากกลุ่มอิสระก็จะไม่มีสลักทางการเมืองติดหลังมา และจะสามารถทำงานกับทุกพรรคการเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าพรรคการเมืองใดก็ตามถ้ามีนโยบายที่ดี ทำเพื่อประชาชน

พร้อมยืนยันว่าจะไม่มีปัญหาในการทำงานถึงแม้จะไม่มีสมาชิกสภากรุงเทพมหานครเป็นของตนเอง เพราะ ส.ก.ในแต่ละเขตก็จะมาจากหลายพรรคการเมือง ดังนั้นหากตนสังกัดพรรคการเมือง ในมุมของผู้ว่าฯ กทม.ก็จะทำงานได้ไม่เต็มที่ แต่การที่มาจากกลุ่มอิสระจ้อดีข้อได้เปรียบก็คือจะสามารถทำงานได้กับทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย ทุกพรรคการเมือง ถ้าเขาเป็นคนดี 

ส่วนที่มีการมองว่าเป็นหน้าใหม่ทางการเมืองนั้น ตนก็ไม่รู้สึกกังวล เพราะถือว่าเป็นเรื่องดีและข้อได้เปรียบของตนด้วยซ้ำ เพราะตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครไม่ได้มีอำนาจเบ็ดเสร็จแต่เพียงผู้เดียว เนื่องจากบางเรื่องต้องมีการอาศัยอำนาจและความร่วมมือจากหน่วยงานอื่น 

ดังนั้นสิ่งที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครต้องมีคือการประสานงาน และเมื่อมาจากกลุ่มอิสระก็จะไม่มีสลักทางการเมืองติดหลังมา และจะสามารถทำงานกับทุกพรรคการเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าพรรคการเมืองใดก็ตามถ้ามีนโยบายที่ดี ทำเพื่อประชาชน

พร้อมยืนยันว่าจะไม่มีปัญหาในการทำงานถึงแม้จะไม่มีสมาชิกสภากรุงเทพมหานครเป็นของตนเอง เพราะ ส.ก.ในแต่ละเขตก็จะมาจากหลายพรรคการเมือง ดังนั้นหากตนสังกัดพรรคการเมือง ในมุมของผู้ว่าฯ กทม.ก็จะทำงานได้ไม่เต็มที่ แต่การที่มาจากกลุ่มอิสระจ้อดีข้อได้เปรียบก็คือจะสามารถทำงานได้กับทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย ทุกพรรคการเมือง ถ้าเขาเป็นคนดี 

นางสาวศศิกานต์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของนโยบายนั้นทางกลุ่มใส่ใจให้ความสำคัญกับ 3 ข้อในการทำงาน คือ

1.อำนาจต้องมาจากประชาชน

2.ไม่ยอมรับการคอรัปชั่นทุกรูปแบบ

3.จะบริหารงานอย่างมืออาชีพตามหลักสากล เพราะหากเปรียบกรุงเทพมหานครเหมือนบ้านหลังใหญ่หลังหนึ่ง ดังนั้นสิ่งที่เรากำลังต้องการคือการสร้างบ้าน 

ในขณะที่ปัจจุบันเรากำลังไปโฟกัสกับการสร้างถนน การสร้างอุโมงค์รอการระบายน้ำ การสร้างรถไฟฟ้าหรือโครงข่ายสาธารณูปโภค แต่ลืมไปหรือเปล่าว่าบ้านจะไม่เป็นบ้านหากเราไม่ใส่ใจคนในบ้าน เพราะบ้านจะสมบูรณ์แบบได้ต้องมีความรักความใส่ใจในบ้าน บ้านใหญ่แค่ไหนหากคนไม่รักกัน เกลียดกัน บ้านก็ไม่มีความสุข ดังนั้นเราต้องการแม่บ้านแบบไหน 

“ถ้าเปรียบผู้ว่าราชการกรุงเทพฯเหมือนกับพ่อบ้านและแม่บ้าน เราต้องการพ่อบ้านแม่บ้านที่ไม่ได้แค่ปัดกวาดเช็ดถูกบ้าน ไม่ได้แค่เปลี่ยนผ้าปูที่นอนหรือซักผ้า แต่เราต้องการพ่อบ้านแม่บ้านที่รู้ว่าน้ำยาซักผ้าเด็กยี่ห้อไหนใช้ไม่ได้กับผิวลูกเรา เราต้องการพ่อบ้านแม่บ้านที่รู้น้ำยาถูกพื้นยี่ห้อไหนมันลื่นเกินไป แล้วคุณตาคุณยายอาจจะลื่นห้ามซื้อมาใช้ เราต้องการพ่อบ้านแม่บ้านที่ละเอียดเบอร์นั้น และนี่คือสิ่งที่กลุ่มใส่ใจยึดว่ามาตลอด ก็คือเราจะใส่ใจทุกๆคนในกรุงเทพมหานคร” นางสาวศศิกานต์ กล่าว 

ด้านนายวินท์ กล่าวเน้นย้ำถึงนโยบายของกลุ่มใส่ใจ ว่า จะเน้นให้มีการใช้พลังงานสะอาด ซึ่งรถยนต์ที่ใช้ใน กทม. โดยเฉพาะรถของส่วนราชการจะต้องปรับเปลี่ยนเป็นรถที่ใช้พลังงานสะอาด แต่ไม่กำหนดว่าจะเป็นพลังงานชนิดใด ไม่ว่าจะเป็นพลังงานไฟฟ้า หรือแก๊สธรรมชาติ เพื่อให้คนกรุงเทพฯปลอดจากปัญหาฝุ่น P.M.2.5