“รวมไทยสร้างชาติ” ดึงจังหวะ “บิ๊กเนม-บิ๊กเซอร์ไพรส์”กลางปี

“รวมไทยสร้างชาติ” ดึงจังหวะ  “บิ๊กเนม-บิ๊กเซอร์ไพรส์”กลางปี

แม้จะพบความเคลื่อนไหวของ "สุเทพ เทือกสุบรรณ " ในภารกิจ "รวมไทยสร้างชาติ" แต่อาจต้องรอดูสถานการณ์ในวันข้างหน้า เพราะยามที่ พี่น้อง 2 ป. “ประวิตร-ประยุทธ์”เคลียร์ใจกันได้ ว่ายังหนุนนายกฯชื่อเดิมหรือไม่

รวมไทยสร้างชาติ” ออกอาการสะดุด เมื่อไม่มี “บิ๊กเซอร์ไพรส์” ในการประชุมใหญ่ของพรรค เมื่อ 31 มี.ค.2565 ที่อาคารหอประชุมใหญ่ BTU Hall มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี เขตทวีวัฒนา เพื่อเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ หลังจากถูกจับจ้องว่าจะมีการเปิดตัวแกนนำระดับ “บิ๊กเนม”หรือไม่

“แรมโบ้อีสาน” เสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ก่อตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ ชี้แจงว่า เดิมคิดจะเปิดตัว มีบิ๊กเซอร์ไพรส์ แต่จากการหารือเห็นร่วมกัน อยากให้ทุกอย่างเรียบร้อยก่อน จึงเป็นการประชุมตามระเบียบที่ กกต.กำหนด เพื่อปรับปรุงระเบียบ โครงสร้างพรรค ตั้งกรรมการสรรหา และรายงานงบดุล เท่านั้น

ผู้ใหญ่ที่เราประสานไว้ บอกให้เตรียมการให้เรียบร้อยก่อน เพราะถ้าหากยังไม่เรียบร้อย เดี๋ยวผู้ใหญ่ที่จะมาร่วมอุดมการณ์กับเราจะไม่สะดวกใจ และนับแต่วันนี้พรรครวมไทยสร้างชาติถือว่าสมบูรณ์แล้ว 

"ตั้งใจว่าจะมีการประชุมเพื่อเปิดตัวบิ๊กเซอร์ไพรส์ประมาณเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม ที่เห็นว่าผู้หลักผู้ใหญ่ยังไม่ควรมาเปิดตัวในวันนี้ ขอทำพรรคให้เรียบร้อยก่อน หลังจากนั้นจะเชิญผู้หลักผู้ใหญ่มาร่วมอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง พูดคุยกันหมดแล้ว คิดว่าไม่ช้าเกินไป" 

“เสกสกล” เคลียร์ประเด็น ที่ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า ผู้ใหญ่ในรัฐบาลมีคำสั่งให้ระงับการเปิดตัวแกนนำคนสำคัญที่จะเข้าร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยเฉพาะตำแหน่งหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคเอาไว้ก่อน       

ดังนั้น กรณีที่มีข่าวว่า “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และปรึกษาหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะมานั่งเป็นหัวหน้าพรรค รวมถึงอดีต ส.ส.กลุ่ม กปปส. ก็คงยังไม่เข้าร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ

มีข้อน่าสังเกต เดิมทีการประชุมใหญ่ของพรรครวมไทยสร้างชาติ จะจัดที่สโมสรราชพฤกษ์ แต่มีการเปลี่ยนแปลงสถานที่การประชุมไปเป็นที่หอประชุมมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี เขตทวีวัฒนา ซึ่งเป็นของมารดาดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง เลขาธิการพรรครวมพลังประชาติไทย

พลันที่ แรมโบ้อีสาน ชง พรรครวมไทยสร้างชาติ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” เป็นคนแรกๆ ที่ออกมาสนับสนุนการตั้งพรรคที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย ถัดมา มีข่าวว่า “เอกนัฏ พร้อมพันธุ์” อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ลูกเลี้ยงของสุเทพ จะมาร่วมงานกับพรรคนี้ด้วย

เมื่อเร็วๆ นี้ เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โพสต์เฟซบุ๊ก ประกาศลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมขอบคุณผู้หลักผู้ใหญ่ที่ให้โอกาสทำงานมากว่า 10 ปี พร้อมทิ้งท้ายว่า “จะทำงานการเมืองต่อไป” ทุกคนก็คาดว่า เอกนัฏจะไปสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ

วันที่ 22 มี.ค.2565 ที่ประชุม ครม.อนุมัติตามที่รัฐมนตรีการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)เสนอแต่งตั้ง เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ 

แสดงว่า เอกนัฏ คงไปฝึกวิทยายุทธ์อยู่ที่บอร์ดอวกาศของกระทรวง อว.ไปพลางๆ ก่อน เหมือน “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” ที่ยังนั่งอยู่ทำเนียบรัฐบาล ในตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง

ดังนั้น พีระพันธุ์จึงบอกกับนักข่าวว่า ยังไม่ได้ลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ และยังเป็นที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคอยู่ ส่วนเรื่องพรรครวมไทยสร้างชาติ คงต้องไปอีกสักระยะหนึ่ง

การเคลื่อนไหวหลังม่านของ “สุเทพ”ในภารกิจรวมไทยสร้างชาติ จึงมีคำถามว่า พรรครวมพลังประชาชาติไทย จะเอาอย่างไรในอนาคต

เมื่อปลายปีที่แล้ว พรรครวมพลังประชาชาติไทย ได้จัดประชุมใหญ่ที่อาคารหอประชุมใหญ่ BTU Hall มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ซึ่งที่ประชุมได้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ที่มี เอนก เหล่าธรรมทัศน์ เป็นหัวหน้าพรรค และดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง เป็นเลขาธิการพรรค

ที่น่าสังเกต มีการแจ้งย้ายที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของพรรค จากเดิมตั้งอยู่ที่อาคารทูแปซิฟิคเพลส ชั้น 21 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย ย้ายที่ตั้งไปอยู่ที่บ้านเลขที่ 29 ซอยเพชรเกษม 102/3 แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค ซึ่งเป็นที่มั่นของเลขาธิการพรรคคนใหม่

“ดร๊าฟ-ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง” เป็นลูกชายบังอร เบ็ญจาธิกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี โดยที่ผ่านมา บังอรเป็นแม่ทัพใหญ่ผู้นำมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ตั้งแต่สมัยที่เป็นวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี

การเลือกตั้งปี 2562 “ดร๊าฟ ดวงฤทธิ์” ได้เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 25 พรรคประชาธิปัตย์ ก่อนจะลาออกมา และย้ายเข้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย พ่วงตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เมื่ออาจารย์เอนก ได้เป็นรัฐมนตรีการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ดวงฤทธิ์ก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเลขานุการรัฐมนตรี และโฆษกกระทรวง อว.

ประมาณกลางเดือน มี.ค.2565 มีกระแสข่าวว่า “นายกฯประยุทธ์” ส่งสัญญาณให้มีการทาบทาม ดร๊าฟย้ายเข้าสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ และจะได้รับตำแหน่งเลขาธิการพรรคอีกต่างหาก

ปรากฎว่า การประชุมใหญ่นัดแรกวันที่ 31 มี.ค.2565 มีตัวละครแค่ “เสกสกล อัตถาวงศ์” ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี พร้อมกับลูกชายตระกูลอดิเรกสาร “ปรพล” เป็นตัวชูโรงไปก่อน เป็นการชั่วคราว

ส่วนทัพหลวงของ สุเทพ เทือกสุบรรณ น่าจะรอดูสถานการณ์ในวันข้างหน้า เพราะยามนี้ พี่น้อง 2 ป. “ประวิตร-ประยุทธ์”เคลียร์ใจกันได้ ฝ่ายบ้านป่ารอยต่อให้ความมั่นใจว่า ยังหนุนนายกรัฐมนตรีชื่อเดิมไปต่ออีกสมัย