6พรรค มองการเมือง "รัฐบาล" อยู่ถึง เป็นเจ้าภาพ "เอเปค" ปลายปีหรือไม่

ผู้นำ6พรรคการเมือง ประกอบด้วย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายวราวุธ ศิลปอาชา ประธานยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย นายอุตตม สาวนายน ผู้ก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย และน.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล เปิดมุมมองต่อสถานการณ์การเมืองของรัฐบาลภายในงาน Nation Dinner Talk Thailand Future อนาคตประเทศไทย 2022 ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอทเซ็นทรัลเวิลด์ ถึงประเด็นที่ว่า รัฐบาลจะอยู่ถึงการประชุมเอเปคในช่วงปลายปีนี้ได้หรือไม่ ด้วยเงื่อนไขอะไร

"วราวุธ" โว "รัฐบาล" อยู่ถึง 24 มี.ค.66 

ทั้งนี้ นายวราวุธ มองว่า มีคำถามว่า22พ.ค.นี้ พอฝ่ายค้านยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล รัฐบาลจะไปรอดหรือไม่ ต้องบอกว่า ตั้งแต่เล็กจนโต มีโอกาสคลุกคลีกับวงการเมืองมาตั้งแต่เกิด ยังไม่เคยเห็นรัฐบาลใดที่พังคาสภา อาจจะมียุบสภาก่อนที่จะมีการลงคะแนน หรือก่อนอภิปราย แต่ระหว่างการอภิปราย ยังไม่เคยเจอสถานการณ์นั้น ส่วนวาระของดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี ขอไม่ออกความเห็นเพราะไม่อยากไปก้าวก่ายอำนาจของศาล 

"สิ่งที่ผมมั่นใจคือว่าการเมืองไทยบางครั้ง อะไรที่เห็นว่ามันแน่นอน ชัวร์ๆ มันกลับกลายเป็นไม่แน่ ยกตัวอย่างเช่นรัฐบาลชุดนี้ ตั้งขึ้นมาโดยได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้า เมื่อ10ก.ค.62 ตั้งแต่ตั้งรัฐบาลขึ้นมาทุกฝ่ายจะบอกว่ารัฐบาลไปไม่รอดหรอก ง่อนแง่นๆ อยู่แบบนี้ให้หกเดือนอีกไม่นานก็จะล่ม แต่เท่าที่ผมสังเกต ง่อนแง่นๆ มา นี่เข้าปีที่3แล้ว แล้วผมคิดว่าก็อาจจะง่อนแง่นจนถึงวันที่ 24 มี.ค.66 เพราะว่าบางครั้งอะไรที่คิดว่ามันง่อนแง่น มันอาจจะอยู่นานกว่าที่เราคิด ขณะที่บางครั้ง อะไรที่เห็นว่าเป็นปึกแผ่น มั่นคงสูง กลับกลายเป็นอยู่ไม่อยู่เสียอย่างนั้น สิ่งที่แน่นอนของการเมืองไทยที่สุด ก็คือความไม่แน่นอน ดังนั้น อะไรที่คิดว่ามันจะอยู่ไม่ยืด มักจะอยู่ยืดเสมอ หรือบางครั้งอะไรที่บอกว่าอยู่ยืด อายุกลับสั้นกว่าปกติ" นายวราวุธกล่าว

วราวุธ ศิลปอาชา

"ศิริกัญญา" ชี้ ถ้าหน้าบาง อยู่ไม่ถึง "เอเปค"

น.ส.ศิริกัญญา มองว่า ถ้าเป็นรัฐบาลปกติ คิดว่าความชอบธรรมของรัฐบาลที่เหลือน้อยลงเรื่อยๆ ทั้งความนิยมและผลงานที่ผ่านมา เอาจริงๆแล้วรัฐบาลชุดนี้ถ้ามีสปิริตมากพอ ควรจะยุบสภา หรือนายกรัฐมนตรีควรจะลาออกไปนานมากแล้ว การที่ยังคงอยู่จนถึงทุกวันนี้ มันต้องใช้ต้นทุนทางการเมืองมหาศาล ทำให้การตัดสินใจบางอย่างที่จำเป็นต้องใช้ทุนทางการเมืองไม่สามารถทำได้ ยกตัวอย่างเช่น ในขณะที่ประเทศเกิดวิกฤติมหาศาลแบบทุกวันนี้ ถ้าเป็นรัฐบาลปกติก็ควรจะต้องมีการกู้เงินครั้งใหม่ได้แล้ว เพื่อช่วยพยุงปัญหาค่าครองชีพ หรืออะไรต่างๆ แต่ด้วยทุนทางการเมืองที่เหลือน้อยมาก ถ้าวันนี้ลุกขึ้นมาบอกว่าจะกู้อีกรอบ รับรองว่าประชาชนต้องส่ายหัว ไม่เห็นด้วยแน่นอน ถึงแม้ว่าจะเป็นทางออกเดียวของประเทศนี้

"ถ้าเป็นรัฐบาลที่อาจจะหน้าบางหน่อยก็คงอยู่ไม่ถึงเอเปค แต่ที่ผ่านมามันได้ถูกพิสูจน์แล้วรัฐบาลอาจจะไม่ได้ฟังความคิดเห็นหรือฟังเสียงของประชาชนอย่างหนักแน่นพอ หรือยอมให้ประชาชนตัดสินใจอีกครั้ง ว่าอยากที่จะได้ผู้นำประเทศ คนใหม่มาบริหารประเทศหรือไม่ หรือว่ายังคงอยากได้ผู้นำประเทศคนเดิม" น.ส.ศิริกัญญา กล่าว

ศิริกัญญา ตันสกุล

รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุอีกว่า เมื่อเปิดสมัยประชุมสภา ตนในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้าน ก็จะทำหน้าที่ของเราอย่างเต็มที่เช่นเดิมเพื่อที่จะพิสูจน์ครั้งแล้วครั้งเล่าให้ประชาชนได้เห็นว่าความชอบธรรมของรัฐบาลนี้หมดไปแล้วจริงๆ เหลือแค่การตัดสินใจคลิกเดียวว่าจะอยู่หรือจะไปต่อ แต่ถ้าเป็นรัฐบาลที่แคร์เสียงประชาชนจริงๆ ต้องยอมสละอำนาจให้ประชาชนได้ตัดสินใจอีกครั้งหนึ่ง ว่าอยากให้รัฐบาลนี้อยู่ต่อหรือให้รัฐบาลนี้ไป

"กรณ์" ข้องใจ อยู่แล้วแก้เศรษฐกิจ ปากท้อง อย่างไร 

ขณะที่นายกรณ์ ระบุว่า พรรคกล้าไม่ได้อยู่ในสภาจึงไม่มีสิทธิ์มีเสียง ที่จะไปมีส่วนร่วมในการกำหนดว่ารัฐบาลจะอยู่หรือไม่อยู่ ถ้ารัฐบาลเลือกที่จะอยู่ ตนคิดว่าประเด็นที่สำคัญที่สุด คำถามมีอยู่ว่า นอกจากรอรับแขกบ้านแขกเมืองในช่วงการประชุมเอเปค รัฐบาลจะแก้ปัญหาปากท้องแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้พี่น้องประชาชนได้อย่างไรในช่วงเวลาที่มี ตนคิดว่า คำถามนั้นน่าสนใจสำหรับประชาชนมากกว่าการจะอยู่หรือไม่อยู่ 

กรณ์ จาติกวณิช

"ประชาชนอยากรู้ว่าถ้าอยู่ คุณ (รัฐบาล) จะทำอะไรเพราะตอนนี้ฉันเดือดร้อน แค่นั้นแหละ" นายกรณ์ กล่าว

"จุรินทร์" จี้ "ผู้จัดการรัฐบาล" เช็กเสียงโหวตใน "สภา"

ขณะที่นายจุรินทร์ มองว่า รัฐบาลจะอยู่ได้หรือไม่ตรงประเด็นที่สุดก็คือขึ้นอยู่กับเสถียรภาพ ซึ่งขึ้นอยู่กับสองปัจจัยหลัก สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน 1. เสถียรภาพในรัฐบาล และ 2. เสถียรภาพในสภาผู้แทนราษฎร โดยเสถียรภาพในคณะรัฐบาลขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณอะไรที่จะบอกว่ารัฐบาลจะไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ แต่มีประเด็นนอกเหนือไปจากนั้นคือว่า ไม่ใช่แค่จับมือกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลให้แน่น แล้วก็จะทำอย่างไรก็ได้ เพราะการมีเสถียรภาพของฝ่ายบริหารจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้เสถียรภาพนั้น ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับการบริหารราชการแผ่นดิน หมายความว่าจะต้องสร้างผลงาน การแก้ปัญหา และผลงานอื่นๆ ให้ปรากฏเป็นรูปธรรมชัดเจน ในทุกประเด็นที่ประชาชนต้องการ

นายจุรินทร์ ระบุอีกว่า ถ้าเรามองด้วยความเป็นธรรมขนาดนี้ มันก็มีหลายเรื่องที่ประสบความสำเร็จ และมีบางเรื่องที่ยังจะต้องใช้เวลาในการแก้ปัญหา บางเรื่องเป็นที่พอใจบ้าง บางเรื่องยังไม่เป็นที่พอใจ ผมก็เป็นนักการเมืองมานาน แล้วก็อยู่มาหลายรัฐบาล เป็นฝ่ายค้านก็เคย เป็นประธานวิปฝ่ายค้านอภิปรายรัฐบาลมาก็เคย มันก็ไม่มีรัฐบาลไหนสมบูรณ์ไปทั้งหมด เพราะฉะนั้น มันก็มีทั้งปัญหาที่แก้ได้และแก้ไม่ได้

จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์

"อย่างน้อยถ้าถามถึงเสถียรภาพในการทำงานร่วมกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลในขณะนี้ ถือว่ายังไม่ได้มีประเด็นอะไร แต่เสถียรภาพในสภา รัฐบาลในระบบนี้จำเป็นต้องมีเสียงข้างมากในสภา เพราะเป็นระบบรัฐสภา ไม่ใช่ระบบประธานาธิบดีที่แพ้เสียงในสภา ประธานาธิบดีก็ไม่ต้องยุบสภาหรือลาออก แต่ในระบบนี้ต้องมีเสียงข้างมาก ผมคิดว่าประเด็นนี้สังคมจับตามองมากกว่า สมมติถ้าเปิดสภาเที่ยวหน้า รัฐบาลจะรอดไหม เพราะไม่แน่ใจว่ารัฐบาลจะมีเสียงข้างมากอยู่มากน้อยแค่ไหน ผมก็เคยให้ความเห็นว่ารัฐบาลก็ต้องสำรวจเสียงให้ชัดเจนว่าเสียงที่ชัดเจนมีจำนวนเท่าไหร่ แต่ในภาพรวมก็ยังถือว่ามีเสียงข้างมากอยู่ แต่ถ้าฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ มันก็ต้องมีการประเมินเสียงให้มีความชัดเจน คนที่จะต้องตอบคือพรรคแกนนำที่ไปชวนพรรคร่วมรัฐบาลอื่นมาร่วมรัฐบาล ว่าประเมินเสียงทั้งหมดแล้วมีจำนวนเท่าไหร่เพราะฉะนั้นรัฐบาลจะอยู่ถึงเอเปคหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับเสถียรภาพ เสถียรภาพก็ขึ้นอยู่กับการทำหน้าที่ ของฝ่ายบริหารกับเสียงในสภาเป็นหลัก" นายจุรินทร์ กล่าว

"หญิงหน่อย" ฟันธง "ยุบสภา" หลัง "เอเปค" ฉะ อยู่กันด้วยผลประโยชน์ 

คุณหญิงสุดารัตน์ ให้ความเห็นว่า ขออนุญาตฟันธง ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ถูกใจและไม่ได้เป็นประโยชน์กับประชาชน ตนฟันธงว่ารัฐบาลนี้ เขาอยู่กันด้วยผลประโยชน์ ถ้าตกลงผลประโยชน์กันลงตัว เขาอยู่ยาวจนถึงหลังประชุมเอเปค แล้วค่อยยุบสภา ตนเชื่อว่าเขาจะเลือกยุบสภาเพราะสามารถเป็นรัฐบาลรักษาการระหว่างการเลือกตั้งได้

สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์

"เหตุผลสนับสนุนว่าเขาจะอยู่ถึงหลังประชุมเอเปค แล้วยุบสภา ก็เพราะว่าเป็นรัฐบาลที่คุยกันด้วยผลประโยชน์ ถ้าผลประโยชน์เพื่ออยู่ด้วยกัน ผลประโยชน์อยู่รอดเขาอยู่ได้ แต่นั่นไม่ใช่ผลประโยชน์ประชาชน เป็นผลประโยชน์ของผู้มีอำนาจ ส่วนผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนดิฉันคิดว่าไม่ต้องตอบ ผู้คนจะตอบแทนดิฉันได้ ว่าผลประโยชน์ของประชาชนมีมากน้อยแค่ไหน ดังนั้น เขาก็จะอยู่จนถึง หลังประชุมเอเปคเพื่อใช้งบประมาณ และขอเป็นหมอดูว่าจะมีการแจกเงินโครงการประชารัฐออกมาอีกเยอะแยะ แจกเป็นเบี้ยหัวแตก เป็นการซื้อใจประชาชนล่วงหน้าตรงนี้ไม่ได้ทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ เพราะไม่ได้ทำให้ประชาชนลุกขึ้นมายืนบนขาของตัวเองในการทำมาหากินได้ และจะมีการใช้อำนาจในการแต่งตั้งโยกย้าย หลังจากนั้นค่อยยุบสภา" คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุ

"อุตตม" ถาม รัฐบาลอยู่ได้ แต่ประเทศ-ปชช. อยู่ไม่ได้ จะว่าอย่างไร 

อุตตม สาวนายน

ทั้งนี้ นายอุตตม ระบุว่า โดยหลักการในรัฐธรรมนูญ ผู้นำรัฐบาลมีอำนาจอยู่แล้วที่จะตัดสินใจไม่ว่าจะเป็นการยุบสภา หรืออื่นๆก็ตาม เมื่อคิดว่าต้องการทำ ตนคงไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่าที่ทุกท่านได้พูดไปแล้ว เพียงแต่อยากจะขอเสนอข้อคิดข้อเดียว ในภาวะที่พวกเราวันนี้ได้มาพูดคุยรับฟังความเห็นหลายประการ เรื่องหนึ่งที่เห็นตรงกันคือวันนี้ประเทศเหนื่อย วิกฤติ ตนเพียงแต่ขอนำเสนอข้อคิดเท่านั้นว่า ถ้ารัฐบาลอยู่ได้ แต่ประชาชนและประเทศอยู่ไม่ได้ จะพิจารณากันอย่างไร