เพื่อไทย-"แพทองธาร" คิกออฟ "กรุงเทพฯมั่งคั่ง"ชู 5 นโยบาย เปิดผู้สมัคร 50 ส.ก.

เพื่อไทย-"แพทองธาร" คิกออฟ "กรุงเทพฯมั่งคั่ง"ชู 5 นโยบาย เปิดผู้สมัคร 50 ส.ก.

เพื่อไทย "แพทองธาร" คิกออฟสนามกทม. เปิด 5 นโยบาย เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.50 เขต เสนอ 5 นโยบายหลัก แคมเปญ "เลือกเพื่อไทย เลือกอนาคตที่มั่งคั่งให้คนกรุงเทพฯ" หวังลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ กระจายความมั่งคั่งให้คนกรุง

เวลา 17.00 น. ที่ดาดฟ้าชั้น 9 ที่ทำการพรรคเพื่อไทย ได้จัดงานเปิดตัวนโยบาย ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) โดยนำเสนอ 5 นโยบายหลักของพรรคทั้ง 50 เขต ภายใต้แคมเปญ "BANGKOK BLING กรุงเทพฯ มั่งคั่ง" ผ่านนโยบายของว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. จากพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยสโลแกนในการลงผู้สมัคร ส.ก.ของเพื่อไทย คือ  ‘เลือกเพื่อไทย เลือกอนาคตที่มั่งคั่งให้คนกรุงเทพฯ’  

โดยมีแกนนำพรรคเข้าร่วมอย่างคึกคัก อาทิ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัฒกรรม และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค  นายชัยเกษม นิติสิริ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด  ประธานโซน 2 กทม. ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้ง ส.ก. นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาค กทม. 

นายภูมิธรรม เวชยชัย  ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรค นายแพทย์พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช  คณะกรรมการยุทธศาสตร์  รวมถึง  รวมทั้ง กรรมการบริหารพรรค ส.ส. และสมาชิกพรรค เข้าร่วมงานอย่างคึกคัก

เพื่อไทย-\"แพทองธาร\" คิกออฟ \"กรุงเทพฯมั่งคั่ง\"ชู 5 นโยบาย เปิดผู้สมัคร 50 ส.ก.   

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวบนเวทีว่า พรรคเพื่อไทยมีความพร้อมส่งว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.ครบ 50 เขต ซึ่งผ่านการคัดสรรมาอย่างดี มีทั้งอดีต ส.ก. 8 คน อดีต ส.ข 7 คน เป็นผู้มีประสบการณ์ และยังมีคนรุ่นใหม่  ที่ทำงานเชิงพื้นที่มาอย่างยาวนาน ภายใต้การสนับสนุนของ ส.ส.ในพื้นที่ ซึ่งทำงานสอดประสานกัน  ยืนยันต่อพี่น้องชาวกรุงเทพฯ ว่า หากเลือกเพื่อไทย ได้อนาคตของ กทม.  

ครั้งนี้เป็นโอกาสของคน กทม.ที่จะมีโอกาสเลือกผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. ซึ่งพรรคเพื่อไทยส่งครบทั้ง 50 เขต เพราะเห็นความสำคัญของคน กทม. เพราะ ส.ก.ทั้ง 50 คนจะเป็นผู้กำหนดอนาคตของคนกรุงเทพฯ เนื่องจากเงินงบประมาณ 1 แสนล้าน อยู่ที่การอนุมัติของสภากรุงเทพมหานคร ดังนั้นจึงมีความสำคัญในการตรวจสอบควบคุม เสนอแนะฝ่ายบริหารของ กทม. ซึ่งผู้สมัครทั้ง 50 คน เป็นบุคคลที่ผ่านการคัดเลือกคัดสรรมาอย่างดี มีทั้งอดีต ส.ก. และ ส.ข. ซึ่งมีประสบการณ์ บุคลากรการทำงานในพื้นที่อย่างเชี่ยวชาญ 

นอกจากนี้ ยังได้คนรุ่นใหม่ที่มีความมุ่งมั่นและตั้งใจทำงานเพื่อคน กทม. เลือกพรรคเพื่อไทย เลือกอนาคตที่มั่งคั่งให้กับคน กทม. เพื่อผลักดันนโยบายกรุงเทพมั่งคั่ง ผ่าน 5 นโยบายหลัก  ได้แก่ 


เพื่อไทย-\"แพทองธาร\" คิกออฟ \"กรุงเทพฯมั่งคั่ง\"ชู 5 นโยบาย เปิดผู้สมัคร 50 ส.ก.

30 บาท ถึงที่หมาย : ผลักดันให้กระทรวงคมนาคมบริหารจัดการรถไฟ รถไฟฟ้า รถไฟลอยฟ้า หน่วยงานเดียว เพื่อการบริหารค่าโดยสารที่เชื่อมต่อกันเป็นโครงข่าย เสียค่าแรกเข้าเพียงครั้งเดียว ผู้โดยสารจะเข้ามาใช้งานมากขึ้น ทำให้ค่าตั๋วโดยสารถูกลงด้วย 

50 เขต 50 โรงพยาบาล : ยกระดับศูนย์บริการสาธารณสุขที่มีอยู่แล้วเขตละ 1 แห่ง หรือสร้างโรงพยาบาลชุมชนขนาด 120 เตียง ที่สามารถดูแลประชาชนเบื้องต้นแบบครบวงจร โดยให้ กทม. รับงบประมาณกองทุนประกันสุขภาพจำนวน 15,000 ล้านบาท มาบริหารจัดการเอง 

437 สถานศึกษา พัฒนาสร้างรายได้ : เปิดพื้นที่โรงเรียนในสังกัด กทม. 437 แห่ง ให้กลายเป็นพื้นที่สำหรับทุกคน ให้เป็นพื้นที่ของงาน เงิน และอนาคต ทั้งการศึกษาในระบบ โดยเพิ่มการเรียนภาษาที่ 2 อังกฤษและจีน เพิ่มทักษะคอมพิวเตอร์และโปรแกรมมิ่ง เพื่อให้เด็กและเยาวชน  มีทักษะความรู้ในโลกสมัยใหม่ รวมทั้งการศึกษานอกระบบ ต้องทำให้โรงเรียนเป็นศูนย์การเรียนรู้ตลอดชีวิต (Maker space) โดย กทม. มีหน้าที่สนับสนุนงบประมาณ จัดจ้างครู อุปกรณ์ เช่น การทำอาหาร ตัดเย็บเสื้อผ้า โรงถ่ายหนัง มาสร้างสรรค์งานร่วมกัน จนเกิดเป็นสตาร์ทอัพ  

กองทุนพัฒนาชุมชน 200,000 บาท : ทุกชุมชนใน กทม.ไม่เกิน 6,000 แห่ง ชุมชนแออัด หมู่บ้าน และคอนโด ต้องได้รับงบประมาณ 200,000 บาทต่อปี ให้แต่ละชุมชนนำเสนองบประมาณเพื่อพัฒนาพื้นที่ผ่านเขตของตนเองได้ โดยจะมีคณะกรรมการที่ได้รับการเลือกตั้งภายในชุมชน มีผลงานชัดเจนจากการบริหารกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองมาแล้ว มาร่วมตัดสินใจใช้งบประมาณแบบมีส่วนร่วม 
 
50 เขต 50 ซอฟต์พาวเวอร์ :  คนชุมชนหรือย่านนั้น จัดงานแสดงศิลปะ วัฒนธรรม อาหาร แฟชัน ดนตรี โดยคนในท้องถิ่นที่จะสามารถออกแบบอีเวนต์เพื่อดึงดูดเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้างเงินด้วยตนเอง  กรุงเทพฯ จะไม่หลับใหล เปิดตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน  เป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่ทรงพลัง สร้างงาน สร้างเงินให้กับประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. นางสาวแพทองธาร ได้พูดคุยกับสื่อมวลชน โดยยืนยันจะลงพื้นที่ช่วยว่าที่ผู้สมัครทุกคน แต่หลังจากนี้ขอเคลียร์ตารางงานก่อน รวมถึงการลงพื้นที่ในต่างจังหวัดเพื่อรับสมัครสมาชิกครอบครัวเพื่อไทยด้วย

เพื่อไทย-\"แพทองธาร\" คิกออฟ \"กรุงเทพฯมั่งคั่ง\"ชู 5 นโยบาย เปิดผู้สมัคร 50 ส.ก.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.พรรคเพื่อไทย มีการจัดให้ว่าที่ผู้สมัคร แนะนำตัวพร้อมสโลแกนประจำตัว เช่น ว่าที่ ผู้สมัคร ส.ก.เขต พญาไท มีสโลแกนประจำตัวว่า "สถานีต่อไปพญาไท ผู้โดยสารสามารถเปลี่ยนกรุงเทพฯ ให้ดีกว่านี้ได้ ที่สถานีนี้ next station เลือกกวี ณ ลำปาง” หรือ “บ้านพักคนชราต้องบางแค แต่ถ้าอยากได้คนเทคแคร์ ต้องเลือกเอกชัย” หรือ “ไม่ว่าตลิ่งจะชันหรือไม่ชัน ขอแค่ได้รับใช้ทุกท่าน นั่นคือความฝันของผม" เป็นต้น 

สำหรับการจัดงาน มาในธีม ‘Bangkok Bling กรุงเทพฯ เมืองมั่งคั่ง’  รูปแบบเหมือนเทศกาลงานดนตรี  มีการจัดแสดงดนตรีสด โดยวง T_047 และ เอ้ the voice (เอ้-กุลจิรา ทองคง) ตัวแทนนักดนตรี และคนอาชีพกลางคืนที่ได้รับผลกระทบจากการปิดกิจการธุรกิจสถานบันเทิง ในช่วงแรกของการระบาดของโควิด-19 และได้จัดบูทอาหารสตรีทฟู้ด ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทยโดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร เพื่อแสดงให้เห็นว่าเอกลักษณ์ของกรุงเทพฯ เมืองหลวงของสตรีทฟู้ด เป็นสวรรค์ของอาหารริมทาง และยังเป็น Soft power ของประเทศไทย สามารถสร้างรายได้ปีละกว่า 340,000 ล้านบาทในปี 2564  (จากการคาดการณ์ของยูโรมอนิเตอร์ ผู้ให้บริการวิเคราะห์กลยุทธ์การตลาด และข้อมูลข่าวกรองด้านธุรกิจระดับโลก)