เช็คขุนพล'ไทยสร้างไทย' เดิมพัน30ปี‘สุดารัตน์’

ครบ 30 ปีที่ “คุณหญิงหน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย โลดโผนอยู่บนถนนการเมือง ซึ่งผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย มีช่วงสุข-ทุกข์ ตามวังวนของคนการเมือง

“สุดารัตน์” ในอายุ 60 ปี ประกาศภารกิจสุดท้าย ปั้นพรรคไทยสร้างไทย ลงสู้ศึกเลือกตั้งอีกคำรบหนึ่ง โดยไทยสร้างไทยถือเป็นพรรคการเมืองแรกที่ “สุดารัตน์” ปลุกปั้นจากหยาดเหงื่อของตัวเอง หวังสร้างพรรคการเมืองตอบโจทย์ “คนรุ่นใหม่” โดยมี “คนรุ่นเก่า” ช่วยเชื่อมต่อเจเนอเรชั่น

โดยภายหลังที่ “สุดารัตน์” ตัดสินใจตั้งพรรคไทยสร้างไทย ได้ดึง “คนรุ่นใหม่” เข้ามาช่วยงานพรรคจำนวนมาก เพื่อเรียนรู้งานด้านการเมือง และเตรียมตัวลงสนามเลือกตั้ง

ขณะเดียวกัน “สุดารัตน์” ดึง “ขุนพลรุ่นเก๋า” หลายคนมาร่วมงานพรรคไทยสร้างไทย เพื่อสร้างรากฐานให้แข็งแกร่ง โดยส่วนใหญ่จะดึงตัวมาจากพรรคเพื่อไทย เพราะรู้มือกันดีอยู่แล้วว่าจะสามารถอุดรอยรั่วตรงไหนได้

พื้นที่กทม. “สุดารัตน์” มีฐานเสียงเดิมที่ค่อนข้างแข็งแกร่งอยู่แล้ว ผนวกกับบรรดา “ลูกรัก” ที่พร้อมย้ายสลับขั้วมาช่วยงานที่พรรคไทยสร้างไทย พร้อมที่จะย้ายพรรคทันทีหลังระฆังเลือกตั้งดังขึ้น

โดยเฉพาะ “เดอะเก่ง” การุณ โหสกุล ส.ส. กทม. พรรคเพื่อไทย ที่ประกาศตัวชัดเจนว่าไม่ได้อยู่ในครอบครัวเพื่อไทยแล้ว ทำให้โอกาสที่ “การุณ” จะเก็บกระเป๋าออกจากพรรคเพื่อไทยสูงลิบ

แถม “การุณ” ยังส่ง “พนา วุฒิเดช” ส.ก. คู่บารมีลงสมัคร ส.ก. ในนามพรรคไทยสร้างไทยเอาไว้แล้วด้วย จึงไม่แปลกที่ “การุณ” ไม่ได้รับเชิญให้ร่วมครอบครัวเพื่อไทย

เช่นเดียวกับ “ผู้การป๊อบ” น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส. กทม. พรรคเพื่อไทย เป็นอีกคนที่ค่อนข้างแบเบอร์ว่าจะย้ายไปร่วมงานกับ “สุดารัตน์” เช่นกัน เดี่ยวแต่รอวัน ว. เวลา น. เพียงเท่านั้น

ขณะเดียวกัน “สุดารัตน์” มีคอนเนคชันกับ ส.ส. กทม. พรรคเพื่อไทย หลายคน ซึ่งมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แถมบางคนมีสัญญาใจว่าจะมาร่วมงานกัน แต่มีกระแสข่าวว่า “โทนี่” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกแรงต่อสายถึง ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ด้วยตัวเอง ถามกันให้ชัดว่าใครจะย้ายพรรค คำตอบของบางคนไม่คอนเฟิร์มจะอยู่หรือจะไป

โดยเหตุผลหลักของ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ในสายที่ไม่คอนเฟิร์มกับ “ทักษิณ” ระบุว่า ขอประเมินกระแสทางการเมืองก่อน เนื่องจากการโปรโมท “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ให้มาเดินนำหน้าพรรคเพื่อไทย ส่งผลต่อคะแนนในพื้นที่กทม. โดยเฉพาะ “บ้านมีรั้ว” ที่ไม่เอาตระกูลชินวัตรเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

ดังนั้น ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย นอกจาก “อนุดิษฐ์-การุณ” แล้วว่า “สุดารัตน์” ยังมีลุ้นที่จะได้ “ส.ส.เกรดเอ” เพิ่มเติม หากประเมินแล้วว่าความเป็นตระกูลชินวัตร ส่งผลต่อคะแนนเสียงในกทม.

พื้นที่ภาคอีสาน “สุดารัตน์” พร้อมรบเช่นกัน มี “พงศกร อรรณนพพร” จับมือ “ต่อพงษ์ ไชยสาส์น” ทายาท ประจวบ ไชยสาส์น ร่วมเดินสายขยายฐานสมาชิกพรรค มีทั้งเลือดใหม่-เลือดเก่า

โดยเฉพาะจ.ขอนแก่น บ้านเกิดของ “พงศกร” ได้วางตัวลูกชาย “พชรกร อรรณนพพร” ลง ส.ส.เขต ไว้แล้วคนหนึ่ง ส่วนลูกสาว “สรัสนันท์ อรรณนพพร” ส.ส. ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย และน้องชาย “บัลลังก์ อรรณนพพร” ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย มีลุ้นมาร่วมงานกันด้วยเช่นกัน

จ.มหาสารคามได้ “ทองหล่อ พลโคตร” อดีต ส.ส.มหาสารคาม พรรคไทยรักไทย อีกคนที่เข้าร่วมงาน ซึ่งแม้จะพ่ายศึกนายก อบจ. มาแต่ “ทองหล่อ” มีฐานคะแนนหนาแน่นในเขต อ.เมืองมหาสารคาม

จ.สุรินทร์ได้ “ฟาริดา สุไลมาน” อดีต ส.ส.สุรินทร์ หลายสมัย โดยในปี 2554 เคยย้ายมาสังกัดภูมิใจไทย แต่พ่ายแพ้ศึก การเลือกตั้งในปี 2562 พรรคเพื่อไทย ไม่ส่งลงชิงส.ส. ทำให้อาสามาร่วมงานกับพรรคไทยสร้างไทย

จ.ยโสธร “วิสันต์ เดชเสน” อดีต ส.ส.หลายสมัย ที่ร้างสนามไป เพราะไม่มีที่ยืนในพรรคเพื่อไทย เมื่อ “สุดารัตน์” สร้างพรรคใหม่ จึงส่งลูกชาย “สรวิชญ์ เดชเสน” มาลงสนาม เพราะมั่นใจ “แบรนด์สุดารัตน์” คนอีสานยังให้การต้อนรับ

ภาคตะวันออก “ประวัฒน์ อุตตะโมต” อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ และอดีต ส.ส.จันทบุรี หลายสมัย ลาออกจากพรรคเพื่อไทย มาเป็น “แม่ทัพบูรพา” โดยรับผิดชอบพื้นที่ ตราด จันทบุรี ระยอง และ ชลบุรี

ส่วนภาคเหนือภายหลังที่ “สามารถ แก้วมีชัย” ที่เคยมาเปิดตัวร่วมงานกับ “สุดารัตน์” ขอย้ายกลับพรรคเพื่อไทย ทำให้ “สุดารัตน์” เปิดดีลการเมืองรอบใหม่กับ “บิ๊กเนม” บางคน ซึ่งยังไม่ลงตัวเสียทีเดียว

ทั้งหมดคือความเคลื่อนไหวของ “สุดารัตน์” และพรรคไทยสร้างไทย โดยจะเป็นภารกิจสุดท้ายของเจ้าตัว ซึ่งจะส่งให้ “สุดารัตน์” เดินไปถึงฝั่งฝันทางการเมืองหรือไม่ ต้องรอติดตาม