ครม.เห็นชอบ ร่างระเบียบการจัดตั้งมลพิษทางน้ำจากน้ำมันและเคมีภัณฑ์

ครม.เห็นชอบ ร่างระเบียบการจัดตั้งมลพิษทางน้ำจากน้ำมันและเคมีภัณฑ์

ครม. เห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกฯ ว่าด้วยการจัดตั้งมลพิษทางน้ำจากน้ำมันและเคมีภัณฑ์ มอบนายกรัฐมนตรีเป็นประธานคณะกรรมการจัดการมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันและเคมีภัณฑ์

เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยมติคณะรัฐมนตรี เห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดการ มลพิษทางน้ำ เนื่องจาก น้ำมันและเคมีภัณฑ์ พ.ศ. ....   โดยเป็นการยกเลิกระเบียบฯ ปี 47 และปรับปรุง แก้ไขใหม่ เพื่อให้การดำเนินการอยู่ในระบบ Single Command และมีการช่วยเหลือทันทีเมื่อเกิดภัยพิบัติ (Respond) 

สาระสำคัญเป็นการกำหนดมาตรการการขจัดมลพิษทางน้ำ เนื่องจากน้ำมันให้ครอบคลุมถึง เคมีภัณฑ์ สารอันตรายและสารพิษ  อันเป็นประโยชน์ต่อการรักษาสภาพแวดล้อมทางน้ำ ป้องกันมลพิษทางน้ำ รวมทั้งเยียวยาความเสียหายให้แก่บุคคล  ที่ได้รับความเสียหายจากการขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันและเคมีภัณฑ์ให้จัดการมลพิษทางน้ำจากน้ำมันและเคมีภัณท์ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น มีการปรับปรุง สำคัญองค์ประกอบ กำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ฯ ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

อาทิ ให้นายกรัฐมนตรีเป็นประธานคณะกรรมการจัดการมลพิษทางน้ำจากน้ำมัน  (กจน.) แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม แก้ไขบทนิยามคำว่า "น้ำมัน" ให้หมายถึง น้ำมันดิบตามกฎหมายว่าด้วยปิโตรเลียม แต่ไม่รวมถึงก๊าซธรรมชาติและก๊าซธรรมชาติเหลว ให้คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่กำหนดนโยบายและจัดทำแผนจัดการมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันและเคมีภัณฑ์รและให้ความเห็นชอบแผนปฏิบัติการของหน่วยปฏิบัติ

รวมทั้งเสนอคณะรัฐมนตรีในการจ่ายเงินชดเชยความเสียหายให้แก่บุคคลที่ได้รับความเสียหายจากมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันและเคมีภัณฑ์ ในกรณีฉุกเฉินประธานอาจใช้อำนาจแทน คณะกรรมการฯ ในการควบคุมกำกับดูแลจัดการมลพิษทางน้ำได้ 

ทั้งนี้  กรมเจ้าท่าจะเป็นศูนย์ประสานงานในการขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันและเคมีภัณฑ์

นายธนกร ยังกล่าวถึงระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน พ.ศ. 2547 ว่า ได้ใช้บังคับมาเป็นระยะเวลานานและไม่เหมาะสมกับสภาวการณ์ปัจจุบันที่มลพิษทางน้ำมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นและสร้างความเสียหายต่อสภาพแวดล้อม ขาดการบูรณาการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นระบบ และขาดแผนปฎิบัติการที่กำหนดอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานซึ่งจะทำให้เป็นปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติงาน 

ทั้งนี้ การปรับปรุงจะทำให้มาตรการการจัดการมลพิษทางน้ำครอบคลุมการป้องกันและขจัดมลพิษทางเคมีภัณท์ครบถ้วนและยังสอดคล้องกับอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการป้องกันมลพิษจากเรือ ค.ศ. 1973/1978 รองรับการตรวจประเมินจากองค์การทางทะเลระหว่างประเทศและเตรียมความพร้อมในการเข้าเป็นภาคีพิธีสารว่าด้วยการเตรียมการปฏิบัติการณ์และความร่วมมือในการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษทางน้ำเนื่องจากสารอันตรายและสารพิษด้วย