คดีฟุตซอลลาม! “เรืองไกร” ร้อง กกต.สอบ 10 พรรคพันงบแปรญัตติ “ใบโควตา” 4 พันล้าน

เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2565 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว. และอดีตคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 (กมธ.งบประมาณ) เปิดเผยว่า ในวันที่ 16 มี.ค. 2565 จะไปยื่นหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยจะนำหลักฐานจากสำนวนไต่สวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ยื่นฟ้องกรณี ส.ส.ได้รับงบแปรญัตติ คดีกล่าวหาทุจริตจัดสรรงบประมาณก่อสร้างสนามฟุตซอลของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ตามพยานหลักฐานที่เรียกว่า “ใบโควตา” โดยขัดกับรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 มาตรา 168 วรรคหก ไปแล้วนั้น เมื่อตรวจดูใบโควต้าแล้วพบว่ามีชื่อพรรคการเมืองประมาณ 10 พรรค ที่บ่งชี้ว่าได้รับงบแปรญัตติ รวม 4,159.42 ล้านบาท

นายเรืองไกร กล่าวว่า กรณีเป็นพรรคการเมือง จึงควรส่งให้ กกต.ทำการตรวจสอบขยายผลว่าพรรคการเมืองประมาณ 10 พรรค ที่มีหลักฐานอยู่ในสำนวน ป.ป.ช.ว่าได้รับงบแปรญัตติจากคดีก่อสร้างสนามฟุตซอลเช่นเดียวกัน ที่อาจจะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง พ.ศ.2550 หรือไม่ และเป็นเหตุให้ถูกร้องยุบพรรคหรือไม่ 

“หลักฐานสำคัญที่จะนำไปยื่น กกต.คือใบโควต้า จำนวน 2 แผ่น ที่ ป.ป.ช.รับรองและได้ยื่นเป็นพยานหลักฐานสำคัญในสำนวนคดีที่ศาลฎีกานักการเมืองแล้ว” นายเรืองไกร กล่าว

นายเรืองไกร กล่าวอีกว่า หลักฐานในสำนวนกว่า 6,200 หน้า ยังมีรายละเอียดที่พัวพันไปถึงรัฐมนตรีและ ส.ส.รวมหลายร้อยคนที่มีชื่อเกี่ยวข้องในลักษณะเดียวกันด้วย แต่ก็งง ๆ ว่าทำไม ป.ป.ช.ไม่นำมากล่าวหาและชี้มูลด้วย ทั้งที่มีหลักฐานปรากฏชัดในสำนวนแล้ว กรณีนี้กำลังตรวจสอบว่า ป.ป.ช.มีการปฏิบัติตาม พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ.2542 มาตรา 66 โดยถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ ถ้าไม่ ตนจะหาทางร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเพื่อพิจารณาว่าจะดำเนินคดีกับ ป.ป.ช.และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ฐานละเว้นหรือปฏิบัติหน้าโดยมิชอบได้หรือไม่