“เกรียง กัลป์ตินันท์” ขุนพล “ทักษิณ” สมบัติ 232 ล้าน ธุรกิจรับเหมาฯ 6 พันล้าน

“เกรียง กัลป์ตินันท์” ขุนพล “ทักษิณ” สมบัติ 232 ล้าน ธุรกิจรับเหมาฯ 6 พันล้าน

ผ่าขุมธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง “เกรียง กัลป์ตินันท์” 2 แห่ง คว้างานรัฐ 155 สัญญา 6.1 พันล้านบาท สมบัติส่วนเมื่อ 25 ปีที่แล้วกว่า 232 ล้านบาท ก่อนปรากฏภาพขนาบข้างกินข้าว “ทักษิณ” ที่สิงคโปร์

เรียกความฮือฮาไม่เว้นแต่ละวัน สำหรับการปรากฏกายของ “โทนี่ วู้ดซัม” หรือ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี

ภายหลังปรากฏภาพกำลังรับประทานอาหารที่ร้านอาหารชื่อดังในสิงคโปร์ มี “ส.ส.เพื่อไทย” ห้อมล้อมอยู่รอบกาย นำโดย “เกรียง กัลป์ตินันท์” หรือ “เสี่ยเบี้ยว” นักการเมืองชื่อดังขุนพลอีสานของ “พรรคเพื่อไทย” นั่งขนาบข้าง

อย่างไรก็ดีเจ้าตัวชี้แจงว่า การพบ “ทักษิณ ชินวัตร” เป็นเรื่อง “บังเอิญ” เพราะจองทัวร์ไปสิงคโปร์ตั้งแต่ปี 2563 แต่ติดเรื่องสถานการณ์โควิด-19 ทำให้เพิ่งได้ไปช่วงนี้ และไปรับประทานอาหารที่ร้านแห่งหนึ่งซึ่งทัวร์จัดไว้ให้ และเจอนายทักษิณพอดี จึงมีโอกาสร่วมโต๊ะพูดคุยกันนิดหน่อย

“พูดคุยก็เป็นเรื่องทั่วไปถามสารทุกข์สุขดิบ สัพเพเหระเพราะนาน ๆ จะเจอกันสักครั้งไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องการเมืองแต่อย่างใด” เสี่ยเบี้ยว ระบุ

อ่านข่าว: “เกรียง”อ้างพบ“ทักษิณ”แค่บังเอิญ-แวะตามคณะทัวร์จัดทริป

ส่งผลให้ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นเรื่องร้องเรียนกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ดำเนินการไต่สวน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่ไปร่วมโต๊ะหารือกับนายทักษิณดังกล่าวว่า เข้าข่ายฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่ เนื่องจากปรากฏข้อเท็จจริงว่า นายทักษิณ คือจำเลยหลบหนีคดีทุจริตในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาจำคุก 12 ปี รวมหลายคดี นอกจากนี้ยังมีคดีอยู่ระหว่างไต่สวนในชั้น ป.ป.ช. อีกไม่น้อย

อ่านข่าว: ร้อง ป.ป.ช.สอบก๊วน ส.ส.เพื่อไทย บินพบ “ทักษิณ” ผิดจริยธรรมหรือไม่

พูดถึง “เกรียง กัลป์ตินันท์” คือคนเดียวกับที่เคยปรากฏภาพผ่านคลิปวีดีโอ ถาม “ทักษิณ” ที่โฟนอินเข้ามาในงานวันเกิดของเจ้าตัว โดยเสนอชื่อให้ “คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์” อดีตภริยานายทักษิณมาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพื่อสู้ศึกเลือกตั้งครั้งต่อไป จนโดนร้องเรียนถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้วินิจฉัย “ยุบพรรค” เพราะเข้าข่ายให้ “คนนอก” แทรกแซงมาแล้ว

ปัจจุบันเรื่องนี้อยู่ระหว่าง กกต.ไต่สวน

สำหรับ “เสี่ยเบี้ยว” เป็นอดีต ส.ส. 4 สมัย จ.อุบลราชธานี เริ่มต้นเส้นทางการเมืองกับพรรคประชาธิปัตย์ พรรคความหวังใหม่ ก่อนมาเติบโตในพรรคไทยรักไทย โดยวงการเมืองทราบกันดีว่าเป็น “ขุนพลคนสนิท” ของ “เจ๊ ด.” ดูแลโซนอีสาน โดยในช่วงพรรคเพื่อไทยปรับโครงสร้างใหม่ “เจ้าแม่ กทม.” ถูกอัปเปหิพ้นพรรค “เกรียง” และกลุ่มก๊วน “วังน้ำยม” ได้กลับมาเฉิดฉายอีกครั้ง ผ่านการผลักดันของ “เจ๊ ด.”

“เสี่ยเบี้ยว” มีทายาททางการเมือง 1 รายคือ “วรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์” ปัจจุบันเป็น ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย

อ่านข่าว: "เกรียง" คือใคร ทำไมใกล้ชิด "ทักษิณ"

มุมทรัพย์สิน ย้อนตรวจสอบได้ไกลสุดในช่วง “เกรียง กัลป์ตินันท์” ดำรงตำแหน่งเลขานุการ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สมัยรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 2540 โดยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org เผยแพร่ระบุว่า “เสี่ยเบี้ยว” มีทรัพย์สิน 232,971,020 บาท ได้แก่

  • เงินฝาก 31,311,020 บาท 
  • ที่ดิน มูลค่า 199,960,000 บาท (ไม่มีข้อมูลเนื้อที่ และจำนวนแปลง) 
  • บ้านอาศัยและสิ่งปลูกสร้างไม่ระบุมูลค่า
  • ยานพาหนะ 1,600,000 บาท
  • ทรัพย์สินอื่น 100,000 บาท
  • ไม่มีหนี้สิน

บุตร 1 ราย ได้แก่ ด.ญ.อภิญญา กัลป์ตินันท์ (ขณะนั้น) มีทรัพย์สินรวม 17.6 ล้านบาท ได้แก่

  • มีหลักทรัพย์จดทะเบียนและรับอนุญาต มูลค่า 600,000 บาท
  • หลักทรัพย์และเงินลงทุนอื่น มูลค่า 17,000,000 บาท
  • ไม่มีหนี้สิน

รวมทั้งคู่มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 250,571,020 บาท

ในมุมธุรกิจ “เกรียง กัลป์ตินันท์” คือ “เจ้าของ” ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างยักษ์ใหญ่แห่งอีสาน คือ หจก.อุบลวรสิทธิ์ก่อสร้าง และบริษัท กัลป์ตินันท์ จำกัด โดยทั้ง 2 แห่ง เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐอย่างน้อย 155 สัญญา (เท่าที่ตรวจสอบพบ) รวมวงเงินกว่า 6,182 ล้านบาท

ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2565 พบว่า นายเกรียง ปรากฎชื่อเป็นกรรมการบริษัท/หุ้นส่วน รวม 4 แห่ง ยังเปิดดำเนินกิจการ 3 แห่ง ได้แก่

1.บริษัท กัลป์ตินันท์ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2534 ทุนปัจจุบัน 50 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 458 ถนนเทพโยธี ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี จ.อุบลราชธานี วัตถุประสงค์ที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด รับเหมาก่อสร้าง ปรากฏชื่อ นายเกรียง กัลป์ตินันท์ เป็นกรรมการรายเดียว

นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2564 มีเกรียง กัลป์ตินันท์ ถือหุ้นใหญ่สุด 50% วรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ (บุตร) ถือ 45% ทรงสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ ถือ 5%

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2563 ไม่มีรายได้ มีรายจ่ายรวม 9,079 บาท ขาดทุนสุทธิ 9,079 บาท

ฐานข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ พบว่า บริษัทแห่งนี้เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐระหว่างปีงบประมาณ 2543-2557 อย่างน้อย 10 สัญญา (เท่าที่ตรวจสอบพบ) รวมวงเงิน 33,683,900 บาท

2.บริษัท สวนหิน 2020 จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2562 ทุนปัจจุบัน 50 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 458 ถนนเทพโยธี ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี จ.อุบลราชธานี วัตถุประสงค์ที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด การผลิตผลิตภัณฑ์ขัดถู ปรากฏชื่อ นายเกรียง กัลป์ตินันท์ เป็นกรรมการรายเดียว

นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2564 เกรียง กัลป์ตินันท์ ถือหุ้นใหญ่สุด 98% น.ส.รัตมณี จงรักษ์ ถือ 1% และนายมวลชน กัลป์ตินันท์ ถือ 1%

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2563 ไม่มีรายได้ มีรายจ่ายรวม 5,000 บาท ขาดทุนสุทธิ 5,000 บาท

3.หจก.อุบลวรสิทธิ์ก่อสร้าง จดทะเบียนเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 2523 ทุนปัจจุบัน 250 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 253 หมู่บ้าน เพียเภ้า หมู่ที่ 4 ต.คำน้ำแซบ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี วัตถุประสงค์ที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด รับเหมาก่อสร้าง

ปรากฏชื่อ เกรียง กัลป์ตินันท์ ลงหุ้น 120 ล้านบาท อภิสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ ลงหุ้น 120 ล้านบาท น.ส.รัตนมณี จงรักษ์ ลงหุ้น 2 ล้านบาท และนายทรงสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ ลงหุ้น 8 ล้านบาท

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2563 มีรายได้รวม 193,014,018 บาท รายจ่ายรวม 187,281,201 บาท เสียภาษีเงินได้ 1,636,566 บาท กำไรสุทธิ 4,096,250 บาท

ฐานข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ พบว่า หจก.อุบลวรสิทธิ์ก่อสร้าง เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ ระหว่างปีงบประมาณ 2540-2565 อย่างน้อย 145 สัญญา (เท่าที่ตรวจสอบพบ) รวมวงเงินอย่างน้อย 6,149.21 ล้านบาท แบ่งเป็น

  • ปี 2565 รวม 7 สัญญา วงเงิน 672.26 ล้านบาท
  • ปี 2564 รวม 7 สัญญา วงเงิน 894.39 ล้านบาท
  • ปี 2563 รวม 2 สัญญา วงเงิน 34.97 ล้านบาท
  • ปี 2562 รวม 2 สัญญา วงเงิน 232.33 ล้านบาท
  • ปี 2561 รวม 2 สัญญา วงเงิน 74.72 ล้านบาท
  • ปี 2560 รวม 2 สัญญา วงเงิน 159.40 ล้านบาท
  • ปี 2559 รวม 3 สัญญา วงเงิน 227.98 ล้านบาท
  • ปี 2558 รวม 15 สัญญา วงเงิน 1,152.33 ล้านบาท

ขณะเดียวกันระหว่างปีงบประมาณ 2540-2557 หจก.แห่งนี้ เป็นคู่สัญญารัฐอย่างน้อย 105 สัญญา รวมวงเงิน 2,700,835,467 บาท

อย่างไรก็ดีธุรกิจรับเหมาก่อสร้างดังกล่าวของ “เสี่ยเบี้ยว” ที่ผ่านมายังไม่เคยถูกร้องเรียน เกี่ยวกับปัญหาในการจัดซื้อจัดจ้างแต่อย่างใด