"เสี่ยเฮ้ง" ทาบรัศมี "บ้านใหญ่" รบ "คุณปลื้ม" ลูกน้องพ่อ ไม่ใช่ลูกน้องลูก

"เสี่ยเฮ้ง" ทาบรัศมี "บ้านใหญ่" รบ "คุณปลื้ม" ลูกน้องพ่อ ไม่ใช่ลูกน้องลูก

ในมุมของ "สนธยา" ที่มอง "สุชาติ" เป็นสายตาคู่เดียวกันกับที่ "กำนันเป๊าะ" มอง แต่ในทางกลับกัน "สุชาติ" กลับไม่ได้มอง "สนธยา" เหมือนกับที่มอง "กำนันเป๊าะ"

อุณหภูมิการเมืองในชลบุรีนาทีนี้ ร้อนทะลุเดือด สถานการณ์เข้าขั้นแตกหัก เมื่อ "สนธยา คุณปลื้ม" นายกเมืองพัทยา ออกมาโพสต์ โจมตีคนทรยศหักหลัง พร้อมกับเปรียบคนบางคนเป็นหมา สาธยายพฤติกรรมว่าเริ่มก้าวร้าว ทั้งที่อุ้มชูมายาวนาน แถมคิดการใหญ่ สร้างอาณาจักรซ้อนอาณาจักร "บ้านใหญ่แสนสุข" ด้วยการหาคนลงสมัคร ส.ส.ชลบุรี ครบทุกเขต 

คอการเมือง พอจะเดาได้ว่า ความหมายเปรียบเปรยของ "เดอะแป๊ะ" สนธยา นิยามถึง จับกัง 1 หรือ "เสี่ยเฮ้ง" สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ส.ส.ชลบุรี ที่เพิ่งได้ตำแหน่ง ผอ.พรรคพลังประชารัฐป้ายแดง

ไม่ใช่แค่ครั้งนี้ แต่ในเพจโซเชียลส่วนตัว “เดอะแป๊ะ”เคยแซะ และส่งสัญญาณมาก่อนหน้านี้ จนครั้งนี้ "เสี่ยเฮ้ง"ต้องออกมาตอบโต้กลับอย่างรุนแรงเช่นกัน แม้จะไม่ระบุชื่อใครก็ตาม แต่เข้าใจได้ว่า พุ่งเป้าไปที่พี่ใหญ่เมืองชลฯ โดยเปรียบเป็น "แม่ทัพอัลไซเมอร์" ไม่ดูแลขุนศึก พร้อมส่งสารท้ารบในสนามเลือกตั้งครั้งหน้า

จะว่าไปแล้ว "เดอะแป๊ะ-เสี่ยเฮ้ง" ไม่ใช่คนอื่นคนไกล จุดกำเนิดของทั้งคู่มาจากคนคนเดียวกันคือ "กำนันเป๊าะสมชาย คุณปลื้ม อดีตนายกเทศมนตรีเมืองแสนสุข ผู้กว้างขวางภาคตะวันออก 

กำนันเป๊าะ ถือเป็นพ่อผู้ให้กำเนิด "สนธยา" ลืมตาดูโลก ขณะเดียว กำนันผู้กว้างขวาง ก็ยังเป็นผู้ให้กำเนิดทางการเมืองกับ "สุชาติ" ด้วยการชุบเลี้ยง ดึงมาเป็นลูกน้องข้างกาย ได้รับการผลักดันจนโลดแล่นในยุทธจักรการเมืองท้องถิ่น เป็น สจ.ชลบุรี ก่อนประเดิมลงการเมืองสนามใหญ่ได้เป็น ส.ส.ชลบุรี สมัยแรก ปี 54 ในสีเสื้อพรรคพลังชล 

ในมุมของ "สนธยา" ที่มอง "สุชาติ" เป็นสายตาคู่เดียวกันกับที่ "กำนันเป๊าะ" มอง แต่ในทางกลับกัน "สุชาติ" กลับไม่ได้มอง "สนธยา" เหมือนกับที่มอง "กำนันเป๊าะ" 

สุชาติ รู้ดีว่าตัวเอง "เป็นลูกน้องพ่อ ไม่ใช่ลูกน้องลูก" ดังนั้น ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จึงแตกต่างไม่ใช่รูปแบบเดียวกัน ที่มีต่อ "กำนันเป๊าะ" 

จุดเปลี่ยนสำคัญ ที่ทำให้ทั้งสนธยาและ สุชาติไม่มีวันเหมือนเดิม เกิดขึ้นหลังจากเลือกตั้งปี 62 ซึ่งใน "พรรคพลังประชารัฐ" พูดกันกว้างขวางถึงดีลสำคัญระหว่างบ้านใหญ่กับ สุชาติ ทำนองว่าหากสุชาติสามารถนำทัพ กวาดส.ส. ชลบุรี เขต 1-3 ได้หมด จะได้รับการปูนบำเหน็จ ว่ากันว่าถึงระดับรัฐมนตรีเลยทีเดียว

ในที่สุดสุชาติทำได้สำเร็จ แต่จนแล้วจนรอด กลับไม่มีสัญญาณตอบรับใดๆ เกิดขึ้น 

ล่าสุด มีการพูดกันหนาหูว่า คนบ้านใหญ่ เตรียมเก็บข้าวของไปสังกัด พรรคการเมืองซึ่งมีฐานที่มั่นแถบเมืองสุพรรณบุรี โดยมีการเตรียมคนลงสมัคร ส.ส.ชลบุรี ทำพื้นที่ทับซ้อนกันไปมาในเวลานี้ จุดนี้จึงอาจเป็นฟางเส้นสุดท้าย ที่ทำให้สองคน ตั้งท่าจะรบกันเอง

จริงอยู่ที่ว่า สุชาติเติบโตมาจาก "บ้านใหญ่แสนสุข" กระทั่งเป็นผู้แทนฯ แต่จุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตทางการเมืองของ เขาคือการโคจรมาพบกับ "วิรัช รัตนเศรษฐ" ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ที่พาเขาเข้าถึงศูนย์กลางอำนาจ อย่าง "พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ" รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ 

เมื่อถึงจังหวะเวลาที่เหมาะสม ตัวเขาได้อัพเกรดด้วยแรงสนับสนุนของผู้ใหญ่ จนได้เป็น รมว.แรงงาน เรียกว่าสุชาติออกไปโต “นอกบ้านใหญ่แสนสุข" ด้วยตัวเอง และมีกำลังมากพอที่จะก่อร่างสร้าง "บ้านใหญ่" หลังใหม่แห่งเมืองชลฯ ในอนาคต

นับแต่นั้น สุชาติ ก็ได้ใกล้ชิด "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรี มากขึ้น และกลายเป็นหนึ่งในขุนพลคนสำคัญในที่สุด แม้ช่วงที่ผ่านมา จะเจอมรสุม หรือแรงกระเพื่อมทางการเมืองหลายระรอก แต่ก็ยังประคองตัวมาได้จนถึงทุกวันนี้

สถานการณ์ทางการเมืองในพื้นที่ชลบุรี ตอนนี้ มรสุมกำลังปกคลุม สัญญาณศึกใหญ่ใกล้ปะทุการประลองฝีมือระหว่างคน "บ้านใหญ่แสนสุข" และคนที่เคยอยู่ใต้ชายคา จะเป็นการชี้ชะตาว่าใครจะอยู่ใครจะไป ได้เลยทีเดียว

"บ้านใหญ่แสนสุข" ถึงคราวถูกท้าทายครั้งสำคัญ ซึ่งอาจจะเป็นจุดเปลี่ยนอำนาจแห่งบ้านใหญ่เมืองชลฯว่า “ตระกูลคุณปลื้ม”ยังทรงอิทธิพล หรือ “ตระกูลชมกลิ่น” จะผงาดขึ้นมาแทน