เสียงสั่นจากดูไบ ‘แม้ว’สิ้นมนต์ลูกน้องเก่าเมิน

วันนี้ ทักษิณ ชินวัตร ยังอยู่ดูไบ ไม่ได้ถูกบีบให้หนีมาอยู่เขมร ตามกระแสข่าวของคนบางกลุ่ม ค่ำวันที่ 15 ก.พ.2565 ทักษิณ หรือ โทนี่ วู้ดซัม ก็มานั่งจ้อในรายการ Care Talk x Care ClubHouse ตามปกติ

อังคารที่ผ่านมา ทักษิณออกอาการฟาดงวงฟาดงา เนื่องจากสถานการณ์พี่น้อง 3 ป.พลิกผัน เมื่อพรรคภูมิใจไทยรับบทหนูช่วยราชสีห์ พร้อมกับพรรคร่วมประสานเสียง ขอลากเรือเหล็กไปให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้

“ผมได้ยินว่า ส.ส.ฝ่ายค้าน โดนวัคซีนไล่ฉีดกันเป็นแถว 30 ล้าน 20 ล้าน ฉีดกันใหญ่ โอ้โห จะเตรียมย้ายพรรค ผมเตือนไว้นะ วันก่อนมี ส.ส.เพื่อไทยไปร่วมประชุมกับพรรคฝ่ายรัฐบาลอยู่ ผมได้ยิน รู้ชื่อด้วย จ่ายคนละ 2 แสน รายเดือน เอาตังค์ที่ไหนมา”

คำพูดประโยคนี้ของทักษิณ พุ่งเป้าไปที่พรรคไหน ใครก็รู้ทั้งแผ่นดิน อันที่จริง ทักษิณก็หวังจะดึงพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรค มาร่วมกดดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยุบสภาฯโดยเร็ว แต่การเมืองการเจรจาต่อรอง ทำให้พรรคนั้นเปลี่ยนใจ และเปลี่ยนเกมเล่น

“ผมอยู่ดูไบรู้หมด วันนี้ที่บอกว่า เอารายชื่อไปโชว์นายกฯ เท่านั้นเท่านี้ ก็จริงนะ ก็จิ้มไปเยอะ” นี่คือทักษิณตัวจริง เมื่อทำอะไรไม่ได้ดังใจ ก็จะมีอาการประมาณนี้

ในข้อเท็จจริง ส.ส.พรรคเพื่อไทยจำนวนไม่น้อย ตกอยู่ในภาวะไม่มั่นใจ แคมเปญเพื่อไทยแลนด์สไลด์ เพราะแบรนด์ทักษิณเสื่อมมนต์ขลังลงไปเยอะ คนแดนไกลพยายามต่อสายหา ส.ส.สายบ้านใหญ่ ที่อยู่ในพรรคพลังประชารัฐ, พรรคภูมิใจไทย และพรรคชาติไทยพัฒนา ให้กลับพรรคเพื่อไทย แต่ไม่มีเสียงตอบรับ

วอร์รูมเพื่อไทยรู้ดีว่า ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในภาคกลาง รวมถึงภาคตะวันตก และภาคตะวันออก ตกเป็นรองพลังประชารัฐ และภูมิใจไทย

นอกจาก ส.ส.บ้านใหญ่จะไม่กลับแล้ว ปรากฏว่า ส.ส.เพื่อไทย ที่มีอยู่ในปัจจุบันก็ถูกเจาะทีละคน ทีละจังหวัด ด้วยเหตุผลเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้าน ไม่สามารถสร้างผลงานที่เป็นรูปธรรมให้ประชาชนในพื้นที่จับต้องได้

ยกตัวอย่างที่นครนายก  เสี่ยอ๋า วุฒิชัย กิตติธเนศวร ส.ส.นครนายก ยังสังกัดพรรคเพื่อไทย แต่ลูกชาย เสี่ยอ๋อง ปิยวัฒน์ กิตติธเนศวร เปิดตัวเตรียมลงสมัคร ส.ส.นครนายก พรรคภูมิใจไทย ซึ่งสมัยหน้า นครนายกจะมี ส.ส. 2 คน คาดว่า เสี่ยอ๋า วุฒิชัย คงจะลงสมัคร ส.ส.โซน อ.องครักษ์ถิ่นเก่า และให้เสี่ยอ๋อง ลงเขต อ.เมืองนครนายก ในสีเสื้อบุรีรัมย์ทั้งคู่

 ถ้าเป็นไปตามรูปการณ์นี้ นครนายกกับปราจีนบุรี ก็จะกลายเป็นสีน้ำเงิน เพราะฝั่งปราจีนบุรี สุนทร วิลาวัลย์ แกนนำภูมิใจไทย ยึด 3 ที่นั่งมาแต่สมัยที่แล้ว

แม้แต่ในภาคอีสาน ที่ว่าเป็นฐานที่มั่นอันแข็งโป๊กของทักษิณยังระส่ำ เพราะพรรคก้าวไกลกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ชั่วโมงนี้ กระแสความนิยมเพื่อไทยใน จ.อุดรธานี กำลังลดลงอย่างมีนัย ผลการเลือกตั้งปี 2562 อุดรธานี มี ส.ส. 8 คน พรรคเพื่อไทย กวาดไปยกจังหวัดเหมือนหลายครั้งที่ผ่านมา แต่ถ้าพิจารณาจากคะแนนดิบ(รวมทุกเขต) ก็น่าสนใจ พรรคเพื่อไทยได้ 334,259 คะแนน รองลงไปคือพรรคอนาคตใหม่ได้ 148,850 คะแนน และพรรคพลังประชารัฐได้ 96,053 คะแนน

ผู้สมัคร ส.ส.อนาคตใหม่ล้วนโนเนม แสดงว่า คนอุดรฯ เทใจให้พรรคสีส้มเกือบครึ่งหนึ่งของคะแนนแชมป์ผูกขาด ส่วนพลังประชารัฐ ที่ได้อดีต ส.ส. และนักเลือกตั้งท้องถิ่นลงสนาม กลับได้ไม่ถึง 1 แสนคะแนน

ปลายปี 2563 เลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี วิเชียร ขาวขำ ได้รับเลือกเป็นนายก อบจ.อุดรฯ อีกสมัย แต่ผู้สมัครนายก อบจ.คณะก้าวหน้า ฐานวัฒน์ ธนาธัญญพิชญ์ ได้ 185,801 คะแนน ถือว่าไม่ธรรมดาเลย

มิหนำซ้ำ คนของคณะก้าวหน้ายังได้รับเลือกเป็นนายกเทศมนตรี และนายก อบต.หลายสิบแห่งในอุดรธานี อันเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่ควรมองข้าม และกำลังเขย่าขวัญ ส.ส.อุดรฯ พรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะโซน อ.เมืองอุดรธานี

ทำนองเดียวกัน ร้อยเอ็ดก็เป็นอีกจังหวัดหนึ่ง ที่กระแสก้าวไกลกำลังไต่ระดับความนิยมขึ้นไปเรื่อยๆ ชัยชนะของคณะก้าวหน้าในศึกนายกเทศมนตรี และนายก อบต. ทำให้พลพรรคสีส้มมีกำลังใจ

อำนาจเจริญ จังหวัดเล็กๆ มี 2 ที่นั่งของ ส.ส.เพื่อไทย ก็กำลังถูกพรรคภูมิใจไทยไล่สะสมแต้มด้วยผลงานมากมาย ขนาดถนนระหว่างหมู่บ้านยังกลายเป็นถนนสี่เลน แถมค่ายสีน้ำเงินยึด อบจ.ไว้ได้อีกต่างหาก

ข้างต้นนี้เป็นปรากฏการณ์ในโซนอีสานเหนือ ที่เพื่อไทยยังครองแชมป์ยกจังหวัดเป็นส่วนใหญ่ ส่วนโซนอีสานใต้นั้น ได้เปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีน้ำเงินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส.ส.หลายสมัยเริ่มไม่กังวลเรื่องกระแสทักษิณ

ปวีณ แซ่จึง อดีต ส.ส.ศรีสะเกษ 4 สมัย ทิ้งพรรคเพื่อไทยมาสังกัดพรรคภูมิใจไทย ขณะที่ภรรยา ผ่องศรี แซ่จึง ยังเป็น ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 8 พรรคเพื่อไทย รอเวลาย้ายตามสามี

จาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.ศรีสะเกษ และ ธีระ ไตรสรณกุล ส.ส.ศรีสะเกษ 2 ส.ส.เพื่อไทย แถวชายแดนกัมพูชา ก็รอเปลี่ยนสีเสื้อหลังยุบสภาฯ เพราะไตรศุลี ไตรสรณกุล ไปยืนโบกธงสีน้ำเงินที่ทำเนียบรัฐบาลไว้ล่วงหน้าแล้ว

ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทยอย่างน้อย 2 คน ก็มีอาการอยากย้ายบ้าน เพราะบ้านหลังเก่าไม่ค่อยอบอุ่น คนดูไบก็อยู่ไกลเหลือเกิน

จริงๆ แล้ว ทักษิณควรส่องกระจกดูตัวเองบ้าง ไม่ใช่อิทธิฤทธิ์วัคซีนเข็มพิเศษอย่างเดียวหรอก ส.ส.ทุกคนก็ต้องการสร้างผลงานให้ชาวบ้านจับต้องได้ อีกด้านหนึ่งกระแสทักษิณไม่ได้แรงเหมือนเก่าแล้ว