ไม่ได้ทำผิด! “สุเทพ” ขึ้นศาลฎีกาฯปฏิเสธคดีโรงพักร้าง พร้อมต่อสู้คดี

ไม่ได้ทำผิด! “สุเทพ” ขึ้นศาลฎีกาฯปฏิเสธคดีโรงพักร้าง พร้อมต่อสู้คดี

ศาลฎีกาฯนักการเมือง นัดพิจารณาคดีครั้งแรก ปมสร้างโรงพักร้าง-แฟลตตำรวจฉาว 5.8 พันล้าน “สุเทพ” ให้การปฏิเสธ พร้อมต่อสู้คดี มั่นใจความบริสุทธิ์ ไม่ได้ทำอะไรผิด พยานหลักฐานชัดเจน เชื่อคดีจบในปีนี้แน่ หลังถูกดองเค็มมานาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 17 ก.พ. 2565 ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดพิจารณาคดีครั้งแรก คดีหมายเลขดำที่ อม.22/2564 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี (ปัจจุบันเป็นผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย) พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.สัจจะ คชหิรัญ พ.ต.ท.สุริยา แจ้งสุวรรณ์ บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด และนายวิศณุ วิเศษสิงห์ กับพวกรวม 6 ราย กรณีถูกกล่าวหาว่า ร่วมกันฮั้วประมูลโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทน และอาคารที่พัก (แฟลตตำรวจ) ทั่วประเทศ วงเงินกว่า 5.8 พันล้านบาท

โดยคำฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า ระหว่างวันที่ 9 มิ.ย. 2552-18 เม.ย. 2556 จำเลยที่ 1และที่ 2 เปลี่ยนแปลงแนวทางจัดซื้อจัดจ้างโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ (ทดแทน) จำนวน 396หลัง จากราคาภาคแยกสัญญามาเป็นการรวมจัดจ้างก่อสร้างไว้ที่ส่วนกลางสัญญาเดียว จำเลยที่ 5เป็นผู้ชนะการประกวดราคา โดยจำเลยที่ 6 ยื่นเอกสารบัญชีแสดงปริมาณวัสดุและราคาได้เสนอ ราคาต่ำอย่างผิดปกติ จำเลยที่ 3-4 ในฐานะคณะกรรมการประกวดราคา ไม่ตรวจสอบราคาที่ผิดปกติ ดังกล่าว และได้นำเอกสารบัญชีแสดงปริมาณวัสดุและราคานั้นไปใช้ในการขออนุมัติจ้างและใช้ประกอบ เป็นเอกสารแนบท้ายสัญญา ต่อมาจำเลยที่ 5 ก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามสัญญา เป็นเหตุให้สำนักงานตำรวจ แห่งชาติเสียหาย ขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1,2 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ลงโทษจำเลยที่ 3, 4 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151,157 พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 (พ.ร.บ.ฮั้ว) มาตรา 10, 12 กับลงโทษจำเลยที่ 5, 6ในฐานะผู้สนับสนุนการกระทำผิด

โดยวันนี้ จำเลยทั้งหมดเดินทางมาศาล และนายสุเทพ พร้อมกับจำเลยรวม 6 ราย ให้การปฏิเสธ และขอต่อสู้คดี

ทั้งนี้ นายสุเทพยื่นคำให้การเพิ่มเติมเป็นลายลักษณ์อักษร 31 หน้าต่อศาล ส่วนจำเลย 2-3 ขอยื่นคำให้การเพิ่มเติม ศาลอนุญาตให้ยื่นภายใน 30 วัน โดยให้คู่ความยื่นคำโต้เเย้งภายในวันที่ 5 เม.ย. 2565 เเละให้นัดตรวจพยานหลักฐานวันที่ 26 เม.ย. 2565

ศาลกำหนดวันนัดไต่สวนพยานโจทก์ 3 นัด โดยครั้งเเรกวันที่ 2, 30 มิ.ย. เเละวันที่ 7 ก.ค. ไต่สวนพยานจำเลยวันที่ 19, 21, 26 ก.ค. 2565

นายสุเทพ กล่าวว่า คดีนี้ ป.ป.ช.นำตัวตนมายื่นฟ้องเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2564 เเละศาลนัดพิจารณาคดีวันนี้เป็นวันแรก ศาลได้นัดสอบคำให้การ โดยจะยื่นคำให้การโดยย่อเพื่อเเสดงเเนวทางการต่อสู้คดี การขึ้นศาลฎีกาฯนักการเมือง เเนวทางจะไม่เหมือนศาลอาญาทั่วไปเเต่มีข้อดีคือคดีจะไม่ยืดเยื้อ

นายสุเทพ กล่าวอีกว่า วันนี้ได้ยื่นคำให้การกับศาลเพิ่มเติมไปแต่ระหว่างนี้ก็จะไปทำคำให้การเพิ่มเติมต่อศาลภายใน 30 วันตามที่ศาลกำหนด เเละนัดตรวจพยานหลักฐานเเบบทางการวันที่ 26 เม.ย. 2565 โดยตนดูเเนวโน้มเเล้วคดีน่าจะเสร็จในปีนี้ได้เนื่องจากโจทก์จำเลยมีพยานนำสืบไม่กี่ปากส่วนมากจะเป็นพยานเอกสาร ส่วนพยานจำเลยที่เตรียมไว้จะเป็นพยานที่ ป.ป.ช.เคยสอบสวนไปเเล้วเเต่ไม่นำมารับฟัง ส่วนพยานใหม่เพิ่มเติมขณะนี้ยังไม่มี เเต่อาจมีเพิ่ม 2-3 ปาก 

“วันนี้คนสบายใจที่คดีได้มาถึงศาลเพราะดองเค็มไว้หลายปีเเล้ว ผมมั่นใจในคดี เพราะรู้ดีว่าเราบริสุทธิ์ไม่ได้ทำอะไรที่ผิดพยานหลักฐานก็ชัดเจน ส่วนคดีนี้ไม่ได้ขอพิจารณาคดีลับหลังจะเดินทางมาศาลทุกนัด” นายสุเทพ กล่าว