เตรียมพร้อมหากมียุบสภา! “จุรินทร์” อ่านเกมการเมืองออก ปชป.ผ่านมาหลายยุค

เตรียมพร้อมหากมียุบสภา! “จุรินทร์” อ่านเกมการเมืองออก ปชป.ผ่านมาหลายยุค

ปชป.เตรียมพร้อมแล้วหากมียุบสภา! “จุรินทร์” ชี้พออ่านการเมืองออก จะเข้าใจว่าเป็นอย่างไร รับพรรคเดินหน้าต่อ เตรียมนโยบายหาเสียงจับต้องได้ ลั่นประชาธิปัตย์ผ่านมาแล้วหลายยุค

เมื่อวันที่ 12 ก.พ. 2565 ที่เคหะแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์สื่อภายหลังการลงพื้นที่ “จุรินทร์ ออนทัวร์” หลักสี่ เพื่อมอบ “ถุงน้ำใจ ปชป.” ต่อการที่มีหลายฝ่ายมองว่าเสถียรภาพรัฐบาลใกล้ถึงการยุบสภา รวมไปถึงการที่พรรคประชาธิปัตย์ประสบปัญหาเกี่ยวกับตัวผู้สมัครนั้นว่า สิ่งหนึ่งที่พรรคจะต้องเดินหน้าต่อไป ก็คือการเตรียมการเรื่องนโยบาย เพื่อใช้นำเสนอในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้า ซึ่งก็มีความคืบหน้ามากแล้ว เพราะพรรคมีประสบการณ์และมีนโยบายที่เป็นฐานรากของพรรคมาโดยต่อเนื่องซึ่งจะได้ต่อยอดต่อไป ที่สำคัญก็คือนโยบายของประชาธิปัตย์จะเป็นนโยบายที่จับต้องได้ เป็นนโยบายที่แก้ปัญหาจริงได้ และจะต้องทำได้ไว ทำได้จริง อย่างที่ทางที่เราได้กำหนดไว้ เรื่องนี้ผมยืนยัน และเมื่อถึงเวลาก็จะประกาศให้ได้รับทราบ 

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า อีกส่วนหนึ่งที่พรรคได้เตรียมการมาโดยลำดับคือเรื่องตัวบุคคลที่จะเป็นผู้สมัครในหลายภาค ซึ่งเกือบจะเรียกว่าจบทั้งหมด ผู้ว่า กทม. ก็มีตัวแล้ว ส.ก. ก็ครบทั้ง 50 เขตแล้ว ผู้แทนราษฎรเที่ยวหน้า ถ้าเพิ่มจาก 30 เป็น 33 เขต ก็จะหาคนเพิ่มอีกไม่กี่คน ที่ผ่านมาก็เคาะไป 20 กว่าท่านแล้ว ส่วนภาคใต้ตอนนี้ยังขาดเพียงไม่กี่จังหวัดเท่านั้น ภาคเหนือผู้แทนเก่ายังอยู่กับเราหมด ไม่มีใครแตกออกไปและมีคนรุ่นใหม่เติมเข้ามาด้วย ภาคอีสานก็มีคนใหม่ ๆ เข้ามาหลายคน ภาคกลางก็ได้มาอีกหลายจังหวัด เมื่อไม่กี่วันนี้ก็เคาะไปอีก 1 จังหวัด เพิ่มจาก 3 เขต เป็น 4 เขต ได้ตัวครบแล้วและเป็นผู้ที่มีศักยภาพมาก 

“ในการพิจารณาตัวผู้สมัครของพรรคอาจจะใช้เวลานานขึ้น และขั้นตอนการพิจารณาอาจจะยากขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมา เพราะมีผู้สนใจและเสนอตัวลงสมัครรับเลือกตั้งมากขึ้น แทนที่เขตนึงจะมีผู้สนใจ 1 ท่าน หรือมีคนเก่าอยู่คนเดียว หรือมีคนใหม่เข้ามาคนเดียว กลายเป็นว่ามี 2 - 3 คนพรรคก็อาจจะต้องใช้ดุลพินิจ และก็จะต้องพิจารณาไปตามขั้นตอนกระบวนการข้อบังคับให้มีความชัดเจน” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว 

ผู้สื่อข่าวถามว่าสาเหตุดังกล่าวเป็นเพราะพรรคประชาธิปัตย์มีกระแสดีขึ้นใช่หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ก็มีบ้างในบางพื้นที่ที่เคยบอกว่าไม่คิดจะลงสมัครแล้ว พอช่วงหลังก็อาจจะเปลี่ยนความคิด พรรคก็ให้โอกาสทุกคน รวมทั้งคนใหม่ด้วย ยกเว้นบางกรณีที่คนใหม่เขาเดินไปไกลแล้วจนเป็นที่รับรู้กัน คนเก่าก็สนับสนุน พรรคก็จะต้องมาหาทางออกให้ต่อไป โดยไม่ทิ้งใคร โดยหลักการก็จะพิจารณาต่อไปเพียงแต่อาจจะต้องอดทนรอตามกระบวนการบ้าง เป็นเรื่องธรรมดา ประชาธิปัตย์เจอมาหลายยุคหลายสมัยแล้ว ยามที่พรรคตกต่ำก็ไม่ค่อยมีใครอยากลง ต้องไปอ้อนวอนให้มาช่วยกันลงสมัครในนามพรรค แต่พอยามที่พรรคดีขึ้นก็เริ่มมีการแย่งกันลง พรรคก็ต้องแก้ปัญหาไปอีกแบบหนึ่ง ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราเข้าใจได้ไม่ตำหนิใคร เพราะเป็นหน้าที่ กก.บห.พรรค ก็จะต้องพิจารณาในสิ่งที่ดีที่สุดให้กับพี่น้องประชาชนในเขตเลือกตั้งนั้นๆ และต้องพิจารณาในสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับพรรค เพราะพรรคลงสมัครรับเลือกตั้งก็หวังที่จะได้ที่นั่ง เพราะการได้ที่นั่งก็จะนำไปสู่การที่จะสามารถนำนโยบายของพรรคไปปฏิบัติให้เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนได้ จึงต้องพิจารณาไปตามหลักนี้ โดยยึดข้อบังคับพรรคเป็นขั้นตอนกระบวนการพิจารณา

ผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่ว่าจะมีการยุบสภาเกิดขึ้นเมื่อใด พรรคประชาธิปัตย์ก็พร้อมแล้วใช่หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ต้องพร้อม ที่จริงก็พร้อมมาระดับหนึ่งแล้ว เพราะเราอยู่ในวงการเมือง เราพออ่านการเมืองออก และพอเข้าใจว่ามันเป็นอย่างไร