“คอบร้าโกลด์ 2022”  "สหรัฐ" ประกาศศักดาปิดล้อม “จีน”

“คอบร้าโกลด์ 2022”   "สหรัฐ" ประกาศศักดาปิดล้อม “จีน”

หากสถานการณ์โควิด-19 ไม่เป็นอุปสรรค สหรัฐ จะส่งทหารมาร่วมฝึกคอบร้าโกลด์ 2022 ไม่ต่ำกว่า 10,000 นาย พร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์ และอากาศยานที่ทันสมัย สอดคล้องกับการขยายกำลังเข้ามาในภูมิภาคนี้

หากสถานการณ์ “โควิด-19” เป็นใจ “สหรัฐอเมริกา”จะใช้โอกาสเป็นเจ้าภาพร่วมกับ “ไทย” ในการฝึกร่วมผสม “คอบร้าโกลด์ 2022” ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2565 เพื่อขยายกำลังการฝึก แสดงแสนยานุภาพข่มขวัญคู่แข่งตัวฉกาจอย่าง “จีน” หลังทะเลจีนใต้ เต็มไปด้วยเรือรบของสองประเทศมหาอำนาจ

การฝึกคอบร้าโกลด์ 2022 จะกลับมาสู่วงรอบ Heavy Year หลังจากปีที่แล้วเป็นการฝึก Light Year ที่เน้นเรื่องวางแผน การบรรเทาสาธารณภัยและส่วนใหญ่เป็นการฝึกออนไลน์ เนื่องจากการแพร่ระบาด “โควิด-19” แต่ปีหน้าเป็นการฝึกการจำลองยุทธ์ ที่มีการฝึกปฏิบัติการทั้ง “ทางบก -เรือ -อากาศ” หน่วยปฏิบัติการพิเศษ และการฝึกด้วยกระสุนจริง

“กองทัพไทย” และ “สหรัฐ” มีข้อตกลงร่วมกัน ไม่ว่าสถานการณ์ “โควิด-19” จะเป็นเช่นใด การฝึกคอบร้าโกลด์ 2022 ครบ 41 ปีจะมีขึ้นแน่นอนตามกำหนดการดังกล่าว โดยมุ่งหวังจะจัดการฝึกเต็มรูปแบบ ชดเชยปีที่แล้วคอบร้าโกลด์ ครบรอบ 40 ปี แต่ถูกลดระดับจึง

กำหนดแผนไว้ 3 รูปแบบ ซึ่งจะมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม

ระดับที่ 1 เต็มรูปแบบ ซึ่งจะมีกำลังทหารจาก 29 ประเทศมาร่วมซ้อมรบ แบ่งเป็น 7 ประเทศที่เข้าร่วมการฝึกหลัก คือ ไทย สหรัฐ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย สาธารณรัฐเกาหลี และมาเลเซีย ประเทศที่เข้าร่วมการฝึกเพิ่มเติมในโครงการช่วยเหลือประชาชน จำนวน 2 ประเทศ คือ จีน และอินเดีย

ประเทศในโครงการเสนาธิการผสมส่วนเพิ่มนานาชาติ จำนวน 10 ประเทศ เช่น ออสเตรเลีย บังกลาเทศ แคนาดา และประเทศที่เข้าร่วมสังเกตการณ์การฝึกอีก 10 ประเทศ เช่น ลาว เวียดนาม บรูไน เมียนมา

ระดับที่ 2 คือ การลดขนาดกำลังเข้าร่วม

ระดับที่ 3 คือ เหลือกำลังร่วมฝึกเท่าปีที่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการฝึกออนไลน์ประมาณ 600 นาย 

นอกจากนั้น มีการดำเนินการฝึกการทำกิจกรรมทางทหาร การพบปะ การเดินทางไปเยือนของกำลังพล

“หากสถานการณ์โควิด-19 ไม่เป็นอุปสรรค คาดว่าสหรัฐ จะส่งทหารมาร่วมฝึกคอบร้าโกลด์ 2022 ไม่ต่ำกว่า 10,000 นาย พร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์ และอากาศยานที่ทันสมัยข่มขวัญจีนซึ่งสอดคล้องกับการขยายกำลังเข้ามาในภูมิภาคนี้ และหากพิจารณาจะเห็นได้ว่าสหรัฐกับจีนงัดกันแรงกว่าหลายปีที่ผ่านมา” แหล่งข่าวความมั่นคง ระบุ

“คอบร้าโกลด์” เป็นการฝึกร่วมผสมทางทหารที่ใหญ่ที่สุด ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่พัฒนามาจาก การฝึกผสมยกพลขึ้นบก ระหว่าง “กองทัพเรือไทย” กับ “กองทัพเรือและหน่วยบัญชาการนาวิกโยธินสหรัฐ” มุ่งเน้นด้านความมั่นคง ต่อต้านภัยคุกคามจากลัทธิคอมมิวนิสต์ พ.ศ. 2499 ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นแบบพหุภาคีโดยมีมิตรประเทศอื่นๆ เข้าร่วม

การฝึก “คอบร้าโกลด์” แม้ “ไทย” จะเป็นเจ้าภาพร่วมแต่ “สหรัฐ” คือ ผู้กำกับ หรือ ผู้เดินเกม โดยเฉพาะช่วง 10 ปีให้หลัง ที่มีการปรับปรุงรูปแบบการฝึก ขนาดการฝึก และเพิ่มจำนวนประเทศที่เข้าร่วม เพื่อต้องการขยายพันธมิตรสกัดอำนาจของจีน

ส่วน “จีน” ค่อนข้างอ่อนไหวต่อการคงกำลังทหารของสหรัฐในภูมิภาคนี้ แม้จะเป็นประเทศที่มีชื่อได้ร่วมฝึก “คอบร้าโกลด์” แต่ก็อยู่ในฐานะผู้สังเกตการณ์มาหลายปี ก่อนจะขอให้ไทย ประสานกับ สหรัฐ จนสามารถจัดกำลังร่วมการฝึกครั้งแรกปี 2558 แต่ถูกจำกัดให้ฝึกในเรื่องการช่วยเหลือประชาชน และบรรเทาสาธารณภัย ไม่ให้ร่วมการฝึกด้านการรบ

ในอนาคต “จีน” คาดหวังจะมีการฝึกร่วมกับ “ไทย” ในระดับเดียวกับ “คอบร้าโกลด์” โดยได้ตั้งชื่อไว้ 2 รูปแบบ คือ “ดราก้อนโกลด์” หรือไม่เป็นชื่อที่เกี่ยวกับคำว่า Strike เพราะปัจจุบัน กองทัพไทย ใช้รหัสนี้ในการฝึกกับจีนอยู่แล้ว ทั้ง การฝึกร่วม Blue Strike ของ กองทัพเรือไทย-จีน และการฝึก FALCON STRIKE กองทัพอากาศไทย-จีน

การแข่งขันของมหาอำนาจเข้ามาในภูมิภาคเอเชีย หากวัดกันที่การขยายกำลังทหารผ่านความร่วมมือการฝึกร่วมกับประเทศพันธมิตรในรูปแบบต่างๆ “สหรัฐ” ได้เปรียบ“จีน”อย่างเห็น ๆ